ด้วยปริมาณคอนเทนต์ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการมาของโลกในยุค “อินเทอร์เน็ตสำหรับสรรพสิ่ง (Internet of Things : IoT)” เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายจึงไม่อาจหยุดนิ่ง โดยแบรนด์ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของไทยที่ปรับตัวตามโลกได้รวดเร็วที่สุดคงต้องยกให้ “ทรูมูฟ เอช” เพราะล่าสุด ประกาศรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารรุ่นใหม่อย่าง 4.5G LTE Advanced (LTE-A) หรือในชื่อทางการตลาดของทรูว่า “4G พลัส” ให้ทัดเทียมกับผู้ให้บริการทั่วโลกก่อนจะเข้าสู่ยุค 5G ในอนาคต
โดยในวันนี้ เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกัน
รู้จัก 4.5G LTE Advanced
อย่างแรก เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า 4.5G LTE-A เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีต่อยอดจาก 4G เดิม ด้วยการใช้เทคนิครวมคลื่นความถี่ Carrier Aggregation หรือตัวย่อคือ CA ยกตัวอย่างของทรูมูฟ เอชเองมี 3 คลื่นความถี่ที่นำมาใช้ในระบบ LTE-A (4G พลัส) ได้แก่ 900/1,800/2,100 MHz โดยทั้ง 3 คลื่นความถี่สามารถเชื่อมต่อใช้งานพร้อมกันบน LTE-A แต่จะเชื่อมต่อพร้อมกัน 2 หรือ 3 คลื่นความถี่ ก็อยู่ที่เทคโนโลยีของผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ
เพราะฉะนั้น เทคโนโลยี LTE-A จึงมีข้อดี ยกตัวอย่างของทรูมูฟ เอช สามารถเชื่อมต่อ LTE-A พร้อมกัน 3 คลื่นความถี่แบบ 4x4 MIMO หรือเทคโนโลยีเพิ่มอัตราการรับ และส่งสัญญาณแบบ 4 ช่องทางบน 4G พลัส ก็เปรียบเสมือนเรามีเลนขับรถบนถนน 3 เลน เมื่อพื้นที่ใดมีคนใช้บริการเป็นจำนวนมาก ระบบจะสามารถสลับคลื่นความถี่ใช้งานได้ จึงช่วยให้การใช้งานไม่สะดุด
นอกจากนั้น ความเร็วรับส่งข้อมูลยังเพิ่มขึ้นจาก 4G เดิมที่วิ่งอยู่ประมาณ 100Mbps เพิ่มเป็น 300Mbps-1Gbps ใน 4G พลัสด้วย
อยากใช้ความเร็วระดับ 300Mbps ขึ้นไป สมาร์ทโฟนต้องรองรับ
ถ้าถามว่าสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นสามารถใช้งานบนเครือข่าย 4.5G ได้หรือไม่ คำตอบ คือ ได้แต่ความเร็วสูงสุดจะรับได้ไม่เท่ากัน
สำหรับผู้อ่านที่กำลังเลือกซื้อสมาร์ทโฟน ท่านสามารถเลือกรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี 3CA ซึ่งรับอินเทอร์เน็ตได้เร็วสุดในตอนนี้ แต่ถึงคุณจะใช้รุ่นที่มีสเปกเครื่องต่ำลงมา คุณก็จะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้เร็วเต็มประสิทธิภาพ บนเครือข่ายทรูมูฟ เอช เพราะทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการเดียว ที่มีคลื่นครอบคลุมที่สุด และรวมคลื่นได้มากที่สุด 3CA รายเดียวในไทย
ยกตัวอย่างเช่น iPhone 7/7 Plus รองรับ 3CA ที่ความเร็ว 450Mbps, Samsung Galaxy S7/S7 edge รองรับ 3CA ที่ความเร็ว 450Mbps, Sony Xperia X Performance/XZ รองรับ 3CA ที่ความเร็ว 450Mbps เป็นต้น นอกนั้น ถ้าเป็นรุ่นรองลงมา เช่น Samsung Galaxy A9 Pro, MOTO X Style, Huawei P9+ จะรองรับแค่ 2CA หรือถ้าเป็นรุ่นราคาประหยัดลงมาอีก อาจรองรับแค่ 4G แต่ไม่สามารถใช้งาน Carrier Aggregation ได้ (เหมือนรถวิ่งได้เลนเดียว เพราะฉะนั้น ความเร็วสูงสุดก็จะไม่เกิน 100Mbps)
อนาคต ทรูมูฟ เอช
นอกจากพัฒนาการของทรูมูฟ เอช ในด้านเครือข่ายแล้ว ยังได้พิจารณาถึงพัฒนาการด้านการเติบโตเชิงธุรกิจที่โดดเด่น โดยผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทรูมูฟ เอช มียอดลูกค้าในระบบรายเดือนเพิ่มสูงถึงร้อยละ 30 และระบบเติมเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นเป็น 14.3 พันล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23.6 มีผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านราย ส่งผลให้ฐานลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 21.5 ล้านราย ในครึ่งแรกของปี 2559 อีกด้วย
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)
