ทรู เผยการไม่มาจ่ายเงินของแจสโมบายถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ครั้งต่อไปต้องพิจารณาคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลให้ดี ชี้ยังรอบอร์ดอนุมัติว่าจะเข้าร่วมประมูลในครั้งใหม่หรือไม่ แต่ต้องใช้ราคาตั้งต้นที่ 7.4 หมื่นล้าน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการแข่งขัน เผยอีก 2 ปี พร้อมลงทุนอีก 5.7 หมื่นล้านบาท ในการวางเครือข่าย พร้อมอัปเกรดเครือข่ายใหม่เป็น “ทรูมูฟ เอช 4G Plus” มั่นใจพฤษภาคมนี้ 4G Plus ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าลูกค้าใช้งานเพิ่มจาก 4 ล้านราย เป็น 6 ล้านราย
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู รู้สึกแปลกใจที่ แจส โมบายไม่มาชำระเงินตามที่ กสทช.กำหนด ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญในการจัดการประมูลครั้งต่อไป จะต้องดูคุณสมบัติของผู้เข้าประมูลให้ดีก่อน โดยการประมูล 4G นั้นได้รับการจับตามองไปทั่วโลก ดังนั้น การดำเนินการอะไรต้องพิจารณาให้รอบคอบ ทั้งนี้ สำหรับการประมูลใหม่นั้นทรูยังอยู่ระหว่างการให้บอร์ดพิจารณาว่าจะเข้าร่วมประมูลหรือไม่
แต่การจัดประมูลรอบใหม่นั้นควรตั้งราคาเริ่มต้นซึ่งเป็นราคาที่แจสประมูลได้ แต่หากจะลดราคาลงก็จะต้องลดราคาใบอนุญาตของทรูด้วย เนื่องจากจะไม่ก่อให้เกิดการความได้เปรียบหรือเสียเปรียบกัน ซึ่งการที่แจสจะเข้ามาแข่งในตลาดหรือไม่นั้น ที่ผ่านมา ทรูมองว่าถึงจะเข้าหรือไม่เข้าก็ไม่ได้ทำให้การแข่งขันสูงขึ้นมากไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ทรูเป็นผู้ให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทุกย่านความถี่ ทั้ง 900/850/1800 และ 2100 MHz และมีขนาดของแบนด์วิธที่กว้างที่สุดในไทยด้วยจำนวน 55 MHz ซึ่งจำนวนคลื่นที่มากทำให้สามารถรองรับผู้ใช้บริการได้มากรองรับมือถือทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ โดยล่าสุด ทรูได้อัปเกรด 4G ใหม่ภายใต้ชื่อ “ทรูมูฟ เอช 4G Plus” และในอีก 2 ปีนับจากนี้ ทรูจะลงทุนอีก 57,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในปีที่ผ่านมาที่ได้ลงทุนขยายเครือข่ายไปแล้ว 20,000 ล้านบาท ซึ่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้ทรูจะมี 4G พลัสครอบคลุมพื้นที่สูงถึง 98% ทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าหมายลูกค้า 4G ในสิ้นปีนี้ไว้ที่ 6 ล้านราย จากปัจจุบันมีการใช้งานอยู่ที่ 4 ล้านราย
กลยุทธ์นับจากนี้ทรูจะนำคลื่นความถี่ที่มีข้อดีแตกต่างกันออกไปตามการใช้งานมาผสมผสานกันเพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพด้านความเร็ว และมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถให้บริการสปีดสูงสุดถึง 300 Mbps - 1 Gbps และจะให้ความสำคัญต่อการตอบสนองลฟ์สไตล์ดิจิตอลที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สามารถสื่อสารกันได้ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกกันว่า Internet of Things เพื่อให้เกิดสังคม และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ด้วยการเสริมเทคโนโลยี 4x4 MIMO เข้าไป
“การรุกตลาดภายใต้ “ทรูมูฟ เอช 4G Plus” นั้นจะนำเสนอบริการในหลายด้าน บริการ True ID และ TrueYou พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ True IoT นอกจากนี้ ยังมีหลากหลายแพกเกจ ค่าบริการให้เลือกมากขึ้น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการใช้งานของลูกค้า ผ่านช่องทางการบริการที่มากสุด (Best Variety of Service) ทั้ง i-Service, Kiosk, ทรูชอป และทรูพาร์ตเนอร์ทั่วประเทศ”
ด้าน นายกิตติณัฐ ทีคะวรรณ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ธุรกิจโมบาย บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า สำหรับแพกเกจใหม่นั้นจะมีให้เลือกหลายหลายมากขึ้น และมีแพกเกจที่ให้ลูกค้าใช้งานอินเทอร์เน็ตสูงสุดถึง 78GB ส่วนแพกเกจใหม่อย่าง True IoT นั้น ทรูได้ออกมาเพื่อตอบสนองต่อลูกค้าที่ Gadget ล้ำสมัย และสามารถเชื่อมต่อออนไลน์ทุกอุปกรณ์
นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชัน ทรู ไอดี บริการใหม่ล่าสุดจากทรูไอดี โดยลูกค้าสามารถใช้ไอดีเดียว ในการล็อกอินเข้าสู่ทุกแอปพลิเคชัน และทุกบริการของทรูได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยการผสมผสานบริการต่างๆ จากทรูเข้าด้วยกัน จึงทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น เช่น รับชมการถ่ายทอดสดไทยพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ ดูทีวี เก็บหนังที่ชอบ ฟังเพลงแบบ Streaming ได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังมี TrueMove H WiFi ที่มาช่วยเติมเต็มชีวิตดิจิตอลไม่พลาดทุกการติดต่อบนโลกออนไลน์ ผ่าน WiFi จากทรูมูฟ เอช ที่ความเร็วสูงสุด 650 Mbps ครอบคลุมกว่า 160,000 จุดทั่วประเทศ (ภายในสิ้นปี)
Company Related Link :
ทรูมูฟเอช