เอไอเอส ไม่เอาคลื่นทรู อ้างลูกค้าเหลือแค่ 4 แสนราย ที่เหลือโรมมิ่งกับดีแทคเรียบร้อยแล้ว เผยต้องการคลื่นของแจสแค่ 5 MHz เหตุจูนสัญญาณไว้แล้ว หากจะกลับไปใช้คลื่นของทรูจะจูนไม่ทัน ขอนำเรื่องเสนอบอร์ดเอไอเอสก่อนมาหารือกันใหม่อีกครั้งวันที่ 10 มี.ค.
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. กสทช. นำโดย นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้นัดหารือร่วมกันระหว่างบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส บริษัทลูกเอไอเอส คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถึงข้อเสนอของทรูที่เสนอให้เอไอเอสใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ที่ทรูชนะการประมูลได้เป็นเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ ทรูได้ยื่นเงื่อนไขว่าเอไอเอสจะต้องจ่ายค่าเช่าใช้งานคลื่นความถี่ให้แก่ทรู ในอัตรา 450 ล้านบาทต่อเดือน โดยการประชุมดังกล่าวใช้เวลาในการเจรจาเป็นเวลานาน โดยในช่วงแรกประชุมตั้งแต่เวลา 09.30-12.00 น. จากนั้นให้แต่ละบริษัทแยกย้ายไปคิดทบทวนรายละเอียดของรูปแบบการเช่าใช้คลื่นก่อนที่จะกลับมาประชุมกันอีกครั้งในเวลา 16.00 น. และสิ้นสุดการประชุมในเวลา 17.30 น. แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป และต้องกลับมาประชุมต่อในวันที่ 10 มี.ค.ในเวลา 09.30 น.
นายก่อกิจ กล่าวว่า ผลการประชุมในวันที่ 9 มี.ค.นั้นทางตัวแทนจากเอไอเอส แจ้งว่า ขณะนี้ลูกค้าที่เหลืออยู่ในระบบมีเพียง 400,000 เลขหมายเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 8 ล้านเลขหมายได้ทำการโรมมิ่งกับ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เพื่อใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz แล้ว ตามที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่มีปัญหาเรื่องซิมดับ ดังนั้น คลื่นที่ต้องการขณะนี้จึงมีเพียง 5 MHz ในคลื่นล็อตที่ 1 ซึ่งเป็นคลื่นที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ชนะการประมูล หากต้องใช้คลื่นล็อตที่ 2 ซึ่งเป็นของทรู ก็ไม่สามารถจูนคลื่นได้ทันก่อนซิมดับ
ขณะที่ทาง กสทช. เองก็ไม่สามารถนำคลื่นของแจสมาให้เช่าใช้ได้ เพราะอาจผิดกฎหมายที่ กสทช. ไม่สามารถนำคลื่นที่ชนะการประมูลไปให้ผู้อื่นได้ ตามมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 (พ.ร.บ.กสทช.) แต่ก็ยังมีมาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ที่ว่าด้วยการป้องกันประโยชน์สาธารณะในกรณีฉุกเฉินที่อาจจะทำได้ ดังนั้น ทางเอไอเอสจึงขอนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 10 มี.ค. ก่อน และจะนำข้อสรุปมาประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่งในวันเดียวกันในเวลา 09.30 น.
“ต้องยอมรับว่าตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน หนังสือที่เอไอเอสขอขยายระยะเวลาเยียวยามาตอนนั้นก่อนที่จะเข้าบอร์ด กทค. มีจำนวน 8 ล้านเลขหมาย แต่ตอนนี้เขาไปทำโรมมิ่งกับดีแทคเรียบร้อยแล้ว จึงเหลือลูกค้าเพียง 400,000 เลขหมายที่เสี่ยงซิมดับ ถามว่าเขาจะปล่อยให้ซิมดับหรือไม่ ผมคงตอบแทนเขาไม่ได้ ต้องรอผลประชุมบอร์ดของเขาพรุ่งนี้ (10 มี.ค.) และมาหาข้อสรุปอีกที ขณะที่ทรูก็ยืนยันตามหนังสือเดิมที่ทำส่งมาให้ กทค. พิจารณา”
