แบล็กเบอรี่ (BlackBerry) อดีตเจ้าพ่อบีบี ประกาศดีลใหม่กับยักษ์ใหญ่ค่ายรถ “ฟอร์ด” (Ford) เพื่อผลิตซอฟต์แวร์สำหรับรถขับเคลื่อนตัวเองรุ่นแรกที่สามารถวางจำหน่ายในตลาดวงกว้าง ล่าสุด แบล็กเบอรี่ประกาศจัดเต็มทีมวิศวกรเพื่อนำระบบปฏิบัติการคิวเอ็นเอ็กซ์ (QNX Neutrino) มาใช้กับรถที่การันตีทั้งความปลอดภัย และความบันเทิง
ซอฟต์แวร์ที่แบล็กเบอรี่ จะผลิตให้ฟอร์ด ถูกยกให้เป็นซอฟต์แวร์ที่จะเป็นกุญแจสำคัญในรถขับเคลื่อนตัวเองยุคแรกที่สามารถจำหน่ายแบบทั่วไป (software that could power the first generation of mass-market self-driving cars) โดยระบบปฏิบัติการ QNX Neutrino เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชุดซอฟต์แวร์ที่แบล็กเบอรี่ จะนำมาปรับใช้ในรถฟอร์ด ซึ่งจะมีเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย “เซ็นติคอม” (Certicom) รวมถึงซอฟต์แวร์ประมวลผลเสียงร่วมด้วย
การประกาศความร่วมมือนี้เกิดขึ้นในวันที่ฟอร์ด ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีของแบล็กเบอรี่ มาระยะหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมา ระบบปฏิบัติการของ BlackBerry อย่าง QNX ถูกผนึกเข้ากับรถฟอร์ด ผ่านระบบข้อมูลความบันเทิง หรือ infotainment แต่ก็มีระบบของพานาโซนิก (Panasonic) ที่ฟอร์ด เลือกใช้คู่ไปด้วย อย่างไรก็ตาม การประกาศดีลล่าสุด แสดงว่า แบล็กเบอรี่มีความหวังในการเข้าวินเป็นผู้สร้างระบบรถขับเคลื่อนตัวเองรายหลักให้ฟอร์ด ในอนาคต ด้วยการยื่นมือช่วยให้ฟอร์ด สามารถนำซอฟต์แวร์ดั้งเดิมที่มีอยู่แล้วมาใช้ประโยชน์ได้รอบด้านยิ่งขึ้น
สำหรับแบล็กเบอรี่ การประกาศความร่วมมือนี้ถูกมองว่า เป็นข่าวที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของบริษัท ซึ่งเปลี่ยนจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ไปเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์อย่างเต็มตัว
ทั้งหมดนี้ถือเป็นความคืบหน้าล่าสุดของฟอร์ด ในธุรกิจรถขับเคลื่อนตัวเอง ที่ผ่านมา ฟอร์ดแสดงจุดยืนแข็งกร้าวเอาจริงว่า ต้องการจัดส่งรถแท็กซี่ขับเคลื่อนตัวเอง 100,000 คันสู่ตลาดต่อปี เพื่อให้บริการรถรับส่งผ่านแอปพลิเคชั่น หรือ ride-sharing ภายในปี 2021 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า ก่อนจะวางจำหน่ายรถอัตโนมัติแก่ผู้บริโภคทั่วไปในปี 2025
เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ฟอร์ดอัดฉีดงบเข้าสู่ทีมพัฒนารถขับเคลื่อนตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมกับเพิ่มจำนวนทีมวิศวกรจาก 150 คนเป็น 300 คน แถมเพิ่มจำนวนรถตัวอย่างเป็น 60 คันจากที่มี 30 คันในสำนักงานวิจัยที่ฟอร์ด ตั้งขึ้นที่ซิลิกอนวัลเลย์