โมโตโรล่า ฝันเป็นเบอร์ 3 ตลาดมือถือระดับราคาสูงกว่า 1.5 หมื่นบาท ภายในปี 2560 คาดยอดขาย 2.5 แสนเครื่อง มีส่วนแบ่งการตลาด 10 % มั่นใจ สมาร์ทโฟนเรือธง 2 รุ่น Moto Z และ Moto Z play ช่วยปั๊มยอด
นายทวนทอง ศรีวิเชียร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภายในปี 2560 แบรนด์โมโตโรล่า จะเป็นเบอร์ 3 ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับราคาสูงกว่า 15,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเท่ากับว่า ต้องมียอดขายต่อปีที่ 2.5 แสนเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 10% ของตลาดสมาร์ทโฟนในระดับราคาดังกล่าว ซึ่งมีอยู่ 2-3 ล้านเครื่องต่อปี
สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงที่ทำให้โมโตโรล่า เป็นอันดับ 3 ในตลาดดังกล่าวได้ คือ Moto Z และ Moto Z play ซึ่งจากการเปิดให้จองในงาน Thailand Mobile Expo 2016 เมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 2 รุ่นมียอดจองแตะหลักพันเครื่อง โดยผู้จองผ่านงานดังกล่าวจะได้รับเครื่องในวันที่ 20 ต.ค. และจะวางจำหน่ายจริงในวันที่ 25 ต.ค.
“เชื่อว่าการกลับมาของโมโตโรล่าครั้งนี้ จะทำให้คนที่เคยใช้โมโตโรล่ามาก่อนสนใจ โดยกลุ่มลูกค้าของ Moto Z ราคา 23,900 บาท คือ กลุ่มเจนวายอายุระหว่าง 18-39 ปี ขณะที่ Moto Z play ราคา 15,900 บาท คือ กลุ่มอายุที่น้อยลงมา นอกจากนี้ ยังมี Moto Mods อุปกรณ์เสริมสามารถทำให้สมาร์ทโฟนกลายเป็นโปรเจกเตอร์ขนาด 70 นิ้วได้”
ทั้งนี้ Moto Z ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่เบาบางที่สุดในโลก ผลิตจากอลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในการผลิตอากาศยาน และสแตนเลส มาพร้อมระบบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 820 RAM ความจุ 4 GB และหน่วยความจำขนาด 64 GB พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Full HD AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว โดยมีความละเอียดถึง 1,440 พิกเซล รองรับระบบกันกระแทก และระบบสแกนลายนิ้วมือ อีกทั้งมาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/1.8 กล้องประสิทธิภาพสูงถ่ายภาพได้สวยคมชัดแม้ในที่แสงน้อย ด้วยระบบ Laser Auto Focus กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถมองมุมกว้างได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้งานได้ภาพถ่ายที่เหมาะสมตรงตามความต้องการ นอกจากนี้ Moto Z ยังมาพร้อมความจุแบตเตอรี่ที่รองรับระบบชาร์ตแบต TurboPower ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ในการชาร์ตเพียง 15 นาที
ส่วน Moto Z Play มีความโดดเด่นทางด้านแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานที่สุด ด้วยความจุแบตเตอรี่ 3510 mAh ที่จะช่วยรองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ชั่วโมง ด้วยระบบชาร์ตแบต TurboPower จะช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง จะช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงในการชาร์ตเพียง 15 นาที Moto Z Play มาพร้อมความละเอียดกล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/2.0 และความละเอียดกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ด้วยขนาดเลนส์มุมกว้าง ทำให้ผู้ใช้สามารถได้ภาพถ่ายที่เหมาะสมอย่างสวยงาม มาพร้อมระบบประมวลผล Qualcomm Snapdragon 2.0 GHz ชิปประมวลผลแบบ Octa-Core แรม 3 GB และหน่วยความจำภายในสูงถึง 32 GB ทำให้ผู้ใช้งานทำงานได้หลายอย่างโดยไม่สะดุด สามารถรองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ และระบบกันสั่นได้เป็นอย่างดี