xs
xsm
sm
md
lg

“ไมโครซอฟท์” หนุนองค์กรปรับตัวสู่ดิจิตอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไมโครซอฟท์ หนุนองค์กรไทยปรับตัวสู่ยุคดิจิตอล หลังเห็นแนวโน้มโมบาย และคลาวด์เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ ก็ต้องปรับตัวมาเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต เนื่องจากรายได้ในส่วนของค่าไลเซนต์ลดลง พร้อมเตรียมตั้งศูนย์ผลักดัน IoT ในประเทศไทยร่วมกับพาร์ตเนอร์ภายในปีนี้

นายอรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ไมโครซอฟท์ เห็นถึงแนวโน้มการลงทุนทางด้านไอทีหลักๆ มีอยู่ 2 ส่วนด้วยกัน เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรให้รับกับยุคดิจิตอล คือ การผลักดันการใช้งานโมบายที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กับอีกส่วน คือ การหันมาลงทุนทางด้านคลาวด์ เพื่อให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้

โดยทางไมโครซอฟท์ ได้เปิดเผยข้อมูลถึงภาพรวมตลาดอุปกรณ์พกพาในประเทศไทย ระบุว่า ในระหว่างกลางปี 2558-2559 ที่ผ่านมา มีจำนวนสมาร์ทโฟนถูกขายเข้าสู่ตลาดประมาณ 18.5 ล้านเครื่อง เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 14% รวมเป็นจำนวนรวมสมาร์ทโฟนในประเทศไทยทั้งหมด 52.4 ล้านเครื่อง

ส่วนของตลาดพีซี ซึ่งรวมทั้งเดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก อยู่ที่ 2.4 ล้านเครื่อง ลดลง 7.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดแท็บเล็ตอยู่ที่ 9.46 แสนเครื่อง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 19% ทำให้เห็นได้ว่า ตลาดที่ยังเติบโตอยู่ คือ ตลาดสมาร์ทโฟนที่ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ จะมีธุรกิจที่เติบโตด้วยตนเองจากการขายไลเซนต์ระบบปฏิบัติการ เมื่อผู้ผลิตมีการจำหน่ายพีซี ไมโครซอฟท์ ก็จะมีรายได้ แต่ในยุคปัจจุบัน การให้บริการคลาวด์เป็นการจ่ายตามที่ใช้งาน ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบด้วยการช่วยคิดว่า ลูกค้าจะทำไปใช้งานในรูปแบบใด”

นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจถึงการลงทุนในระบบคลาวด์ประเทศไทย พบว่า มีบริษัทไอทีต่างๆ ลงทุนในระบบคลาวด์ไปแล้วราว 120.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 16% แบ่งเป็นการลงทุนคลาวด์ในส่วนของการให้บริการซอฟต์แวร์ โดย (SaaS) 53.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 13.8% ส่วนบริการด้านอินฟราสตรักเจอร์ และแพลตฟอร์ม (IaaS + PaaS) 67.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 17.8%

“สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการเป็น Digital Transformation ที่เริ่มปรากฏขึ้นแล้ว ทำให้ปัจจุบัน ทุกองค์กรต้องเร่งผลักดัน และพัฒนาให้เข้าสู่ยุคดิจิตอล หากต้องการความสำเร็จในอนาคต ซึ่งในส่วนของไมโครซอฟท์ ก็พร้อมที่จะสนับสนุนทุกคน และทุกองค์กรให้สามารถยกระดับองค์กรธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคลให้สูงขึ้น”

ขณะเดียวกัน ไมโครซอฟท์ ยังมองว่า สิ่งที่ท้าทายในยุคปัจจุบัน คือ เมื่อไหร่ที่ลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยี จะทำให้บริษัทนั้นล้มหายไป ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้น โดยความคืบหน้าล่าสุด สำหรับไมโครซอฟท์ประเทศไทย คือ อยู่ระหว่างการตั้ง IoT Excellent Center ขึ้นมาเพื่อช่วยผลักดันการใช้งาน IoT ในประเทศไทย ภายในช่วงสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ แบ่งแนวคิดในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิตอลออกเป็น 4 แกนหลักๆ คือ การโต้ตอบและสื่อสารกับลูกค้า (Engage your customers) การเสริมศักยภาพให้กับพนักงาน (Empower your employees) การยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจ (Optimize your business) และการพลิกรูปแบบผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจ (Transform your products / business) ที่เป็นแนวทางของบริษัทในการนำบริการ และแพลตฟอร์ม มาช่วยองค์กรธุรกิจรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และพันธมิตร ให้ข้อมูลเสริมว่า จากแนวโน้มของอุตสาหกรรมพบว่า ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีการเตรียมพร้อมในการทำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ จะไม่สามารถอยู่ได้ในยุคปัจจุบัน ที่ต้องมีการก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา และจะกลายเป็นเวลาของบริษัทขนาดเล็กที่มีความรวดเร็วในการพัฒนา

สำหรับในตลาดประเทศไทย ไมโครซอฟท์ มองว่า การผลักดัน SMEs จะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไทย เห็นได้จากจีดีพีในประเทศไทย ที่มาจากองค์กรธุรกิจขนาดกลาง และย่อม (SMEs) กว่า 42% ในขณะที่สัดส่วนของบริษัทที่เป็น SMEs ในประเทศไทยคิดเป็น 99.7% และคิดเป็นจำนวนจ้างงานราว 80.3%

ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ ได้เริ่มนำบริการต่างๆ เข้ามาสนับสนุนองค์กรในประเทศไทย ตั้งแต่ระบบแชตบอตภาษาไทยที่นำแพลตฟอร์ม Cortana มาต่อยอด การให้บริการคลาวด์เพื่อลดต้นทุนเพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจ ชุดซอฟต์แวร์สำหรับสตาร์ทอัป โครงการความร่วมมือกับภาครัฐต่างๆ ไปจนถึง IoT ภายใต้การปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยในโลกแบบดิจิตอล

Company Relate Link :
Microsoft
กำลังโหลดความคิดเห็น