เลอโนโว ยังคงมองถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมพีซี และแท็บเล็ต ที่ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน จากโน้ตบุ๊กในรูปแบบเดิมๆ กลายเป็นอุปกรณ์ 2-1 ที่รองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดในงานนี้ คือ Yoga Book แท็บเล็ตที่มาพร้อมกับ Halo Keyboard และรองรับการแปลงข้อมูลจากปากกาสู่ดิจิตอล ส่วน Yoga 910 และ Miix 510 เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่นเดิม
นายเจฟฟ์ เมอเรดิธ ผู้จัดการทั่วไป และรองประธาน กลุ่มแอนดรอยด์และธุรกิจโครม เลอโนโว ให้ข้อมูลว่า การมาของ Yoga book ถือเป็นนวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับตลาดแท็บเล็ตในยุคนี้ จากประสบการณ์ทำงานกว่า 18 ปีในส่วนของคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม
โดยเลอโนโว ใช้เวลาในการคิดค้นผลิตภัณฑ์นี้ 3 ปี ในขณะที่ปัจจุบัน สินค้าไอทีมีวงจรอยู่ที่ราว 9 เดือนก่อนรุ่นใหม่ออกวางจำหน่าย แต่เชื่อมั่นว่า Yoga Book ที่ถูกออกแบบมาให้เป็นทั้งอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน จะรองรับกับพฤติกรรมในยุคใหม่ของผู้บริโภคได้
“จะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความต้องการของแท็บเล็ตเริ่มลดลง เพราะผู้บริโภคมองว่า แท็บเล็ตเป็นเพียงอุปกรณ์ในการเสพข้อมูลอย่างรับชมวิดีโอ หรือใช้งานโซเชียลมีเดีย แต่เมื่อมีแอปพลิเคชันถูกพัฒนาให้มาใช้งานบนแท็บเล็ตได้อย่างต่อเนื่อง แท็บเล็ตก็เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวัน”
พฤติกรรมการใช้งานของผู้สูงอายุ จะนิยมใช้งานแท็บเล็ตในช่วงเวลาก่อนนอน ในขณะที่วัยรุ่นยุคใหม่ ที่มีไลฟ์สไตล์แบบในยุคดิจิตอล มีการใช้งานเกือบตลอดทั้งวัน หรือเรียกได้ว่าเป็น “Touch Generation” ทำให้แบรนด์ผู้ผลิตเริ่มหันมาให้ความใส่ใจกับนวัตกรรมบนแท็บเล็ตมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นหลักของ Yoga Book คือ การที่เป็นแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920x1200 พิกเซล) ที่มีความบางเพียง 4.06 มิลลิเมตร เมื่อรวมกับส่วนคีย์บอร์ดจะอยู่ที่ 9.6 มิลลิเมตร น้ำหนัก 690 กรัม ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยด์ ที่เน้นการออกแบบที่เรียบหรู ประกอบกับข้อต่อเครื่องที่มีความแข็งแรงซึ่งได้พิสูจน์มาแล้วในสินค้าโน้ตุบุ๊กตระกูล Yoga ก่อนหน้านี้
อีกส่วนก็คือ Touch Panel อีกฝั่งที่สามารถพับเข้ามาได้ ตรงจุดนี้จะเป็นทั้ง Halo Keyboard ที่สามารถเปิด-ปิดการใช้งานได้ ขณะเดียวกัน ยังรองรับการใช้งานคาดเดาคำศัพท์ล่วงหน้า และเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ (Artificial Learning) ที่พบว่า พฤติกรรมของการใช้งานคีย์บอร์ด เมื่อใช้งานไปสักพัก นิ้วโป้งที่ปกติอยู่ตรง สเปซบาร์ จะค่อยๆ เลื่อนลงมา ทำให้การใช้งานติดขัด แต่ Yoga Book จะเรียนรู้ เพิ่มพื้นที่ปุ่มลงมาให้ตรงกับนิ้วมือ
นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นผิวที่รองรับการสัมผัส ยังรองรับการทำงานร่วมกับปากกา ที่สามารถจดบันทึกลงบนสมุด หรือวาดลงบนพื้นผิว เพื่อแปลงข้อมูลไปอยู่ในรูปแบบของดิจิตอลได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยี Passive EMR Technology ร่วมกับเทคโนโลยีของ Wacom ในการบันทึกข้อมูล เหมาะสำหรับการใช้เพื่อบันทึกข้อมูลในรูปแบบดิจิตอล รวมถึงนักวาดที่ใช้ปากกาในการสร้างสรรรูปภาพ
โดย Yoga Book มีให้เลือกทั้งทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ในราคา 449 เหรียญสหรัฐ ส่วนอีกรุ่นทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 โปร ในราคา 549 เหรียญสหรัฐ ตัวเครื่องทำงานบนหน่วยประมวลผล Intel Atom Z8550 (Quad Core 2.4 GHz) RAM 4 GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB และรองรับการเพิ่มไมโครเอสดีการ์ดสูงสุด 128 GB ส่วนแบตเตอรี่ 8,500 mAh ที่เคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง
ถัดมาในส่วนของ Yoga 910 ที่ถือเป็นโน้ตบุ๊กลูกผสม ที่ยังคงจุดเด่นหลักของสินค้าในตระกูล Yoga คือ สามารถปรับเพื่อใช้งานได้ 4 รูปแบบ คือ เป็นโน้ตบุ๊กปกติ ใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ต ขาตั้ง และวางเป็นมุมสามเหลี่ยม เพื่อใช้สำหรับความบันเทิง ที่มากับประสิทธิภาพสูงจากหน่วยประมวลผล Gen 7 Intel Core i ที่บาง 14.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.4 กิโลกรัม
โดย Yoga 910 มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.9 นิ้ว ความละเอียด 4K ที่มีขอบจอเพียง 5 มิลลิเมตร มาพร้อมกับคีย์บอร์ด และแทร็กแพดขนาดใหญ่ ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวก ส่วนพอร์ตในการเชื่อมต่อมีทั้ง USB-C 2 พอร์ต ยูเอสบี 3.0 1 พอร์ต พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ วางจำหน่ายในราคา 1,299 เหรียญสหรัฐ
สุดท้าย คือ Miix 510 ที่เป็นแท็บเล็ตกึ่งโน้ตบุ๊กที่สามารถถอดส่วนของคีย์บอร์ดออกมา เพื่อใช้งานได้ โดยมาพร้อมหน้าจอขนาด 12.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD ทำงานบนหน่วยประมวลผล Gen 6 Intel Core i7 ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 รองรับการเชื่อมต่อทั้งไวเลส และ 4G LTE มีขาตั้ง (Kick Stand) ด้านหลังเครื่อง พร้อมคีย์บอร์ด และปากกา วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 699 เหรียญสหรัฐ
Company Relate Link :
Lenovo
