Booking.com ชี้จองห้องพักออนไลน์โต เตรียมเปิดสาขาที่เชียงใหม่

Booking.com เผยแนวโน้มการจองห้องพักผ่านออนไลน์มีการเติบโตมากขึ้น เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่เชียงใหม่เอาใจลูกค้าภาคเหนือ เพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 แห่งในไทย ชูกลยุทธ์การตลาดปีนี้จะจับมือกับที่พักเพื่อให้ได้ราคาพิเศษ และดูแลลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการ ชี้จุดเด่นที่แตกต่าง คือ การมีคอลเซ็นเตอร์โทร.ฟรีเพื่อช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง เปิดผลสำรวจพบคนไทยนิยมไปโตเกียวมากที่สุด รองลงมาเป็นสิงคโปร์ และฮ่องกง

นายโอลิเวอร์ ฮัว กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก Booking.com กล่าวว่า ปัจจุบัน บริการจองห้องพักผ่านออนไลน์มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยภาพรวมของ Booking.com นั้นในแต่ละวันจะมีการจองมากกว่า 1,000,000 ห้องต่อคืน มีที่พักในหลายรูปแบบ ให้บริการทั้งสิ้นรวม 21 ล้านห้องพัก พร้อมให้บริการ 860,000 แห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม หรือที่พักในรูปแบบอื่นๆ ใน 224 ประเทศทั่วโลก และมีเว็บไซต์ให้บริการในภาษาท้องถิ่นกว่า 42 ภาษา มีทีมงานกว่า 10,000 คน ในสำนักงาน 174 แห่ง โดยปัจจุบัน 1 ใน 3 ของการจองห้องพักทั้งหมดเป็นการจองผ่านมือถือ สำหรับเมืองไทยมีสำนักงาน 3 แห่งในกรุงเทพฯ สมุย และภูเก็ต และล่าสุด ได้เตรียมเปิดสาขาแห่งใหม่ ที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยการเปิดออฟฟิศในสาขาดังกล่าวนับเป็นการขยาย และสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจ รวมไปถึงยังช่วยสร้างโอกาสให้แก่ที่พักในจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ ในภาคเหนืออีกด้วย โดยกลยุทธ์การตลาดในปีนี้จะเน้นทำการตลาดร่วมกับเจ้าของที่พักในการให้ราคาพิเศษ และซีเครตดีล สำหรับลูกค้าประจำที่ใช้บริการอยู่แล้ว รวมไปถึงจะมีการตอบแทนลูกค้าที่เคยใช้บริการด้วยสิทธิพิเศษ รวมไปถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์อย่างบัตรเครดิตในการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าของบัตรเครดิตเหล่านั้น

“จุดเด่นของ Booking.com นั้น นอกจากจะมีบริการที่ดี และมีห้องพักให้เลือกอย่างหลากหลายแล้ว ยังรวมไปถึงการมีคอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมงเพื่อให้ลูกค้าสามารถโทร.สอบถาม หรือให้ช่วยแก้ปัญหาได้ฟรี นอกจากนี้ ยังมีความสะดวกสบายในการจอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนการจองได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียมยกเลิกการจอง รวมไปถึงความสะดวกสบายในการชำระเงินที่สามารถเลือกชำระได้ด้วยวิธีที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินที่ไม่มีค่าธรรมเนียม และไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลบัตรเครดิต”

นายโอลิเวอร์ กล่าวว่า ทั้งนี้ เมืองไทยเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ และมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงมาก และคนไทยเองก็ออกไปเที่ยวมากขึ้น Booking.com จึงเน้นการบริการที่ดีทั้งในส่วนของลูกค้า รวมไปถึงการร่วมทำตลาดกับเจ้าของที่พัก เพื่อให้สามารถมีแขกเข้าพักเต็มทุกคืน ซึ่งที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าไทยมีการกลับมาจองผ่าน Booking.com ค่อนข้างมาก เนื่องจากติดใจในบริการ ปัจจุบัน Booking.com มีพาร์ตเนอร์ที่เป็นที่พักประมาณ 12,000 แห่ง เป้าหมายในปีนี้ Booking.com จะนำเสนอโรงแรม และที่พักที่หลากหลายให้มากขึ้น รวมไปถึงจะมีฟังก์ชันการใช้งานใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

Booking.com เป็นหนึ่งในเครือ Priceline Group ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเดินทางออนไลน์ มีมูลค่าประมาณ 55 พันล้านเหรียญสหรัฐ มียอดจองห้องพักทั้งสิ้น 391,000,000 ล้านครั้ง และมีตัวเลือกกว่า 80 ล้านแห่ง ใน 224 ประเทศ และมียอดจองรถบริการรถเช่า 500 ล้านคัน ซึ่งแม้ว่าจะมีธุรกิจที่อยู่ในเครือเดียวกันอย่าง Agoda แต่สำหรับความแตกต่างนั้น Booking.com เหมือนเป็นโกลบอลมาร์เกตเพลซ เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อในการจอง เป็นเอเยนซีโมเดลที่ลูกค้าจะสามารถจองที่พักโดยตรง สามารถปรับเปลี่ยนการจองได้ทุกเมื่อ สามารถเลือก และคอนเฟิร์มได้เลย เลือกจ่ายเงินที่ไหนก็ได้ ในขณะที่ Agoda ต้องจอง และชำระเงินที่ Agoda โดยตรง

ด้าน น.ส.ปาริฉัตร แฮห์เนน ผู้จัดการภาคพื้นประเทศไทย อินโดจีน และพม่า Booking.com ดูแลเมืองไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และพม่า กล่าวว่า เมืองไทยถือว่ามีที่พักมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยจุดหมายการท่องเที่ยวในเมืองไทยที่ได้รับการจองมากที่สุดโดยนักเดินทางชาวไทย คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ หัวหิน พัทยากลาง และไดัรับความชื่นชอบในเรื่องความผ่อนคลาย อาหาร ชายหาด และริมหาด ชอปปิ้ง ร้านอาหาร ส่วน 3 อันดับจุดหมายท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ หาดจอมเทียน พิษณุโลก ขอนแก่น โดยนักท่องเที่ยวมักชื่นชอบในเรื่องร้านอาหาร วัด วัฒนธรรรม โบราณสถาน และประวัติศาสตร์

สำหรับการเดินทางไปต่างประเทศนั้นที่ได้รับความสนใจลำดับต้นๆ ประกอบด้วย โตเกียว สิงคโปร์ ฮ่องกง โอซากา โซล และซัปโปโร เป็นต้น ส่วนความชื่นชอบนั้นจะเน้นทัศนียภาพ อาหาร ชอปปิ้ง ความสะดวกสบายในการเดินทาง เป็นต้น โดยจุดหมายการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพิ่มเร็วที่สุดประกอบด้วย ไทเป ไต้หวัน วังเวียง ลาว และจอร์จทาวน์ มาเลเซีย โดยชื่นชอบในเรื่องผู้คนเป็นมิตร อาหาร วัฒนธรรม และธรรมชาติ