โฟกัส เผยแผนการตลาดปี 2559 เดินหน้าพัฒนาสินค้าหลากหลาย ชี้ตลาดรวมยังชะลอตัว แม้ 4G มา เนื่องจากคนยังใช้ 3G อีกนาน มั่นใจสินค้าตอบโจทย์ความต้องการ คาดรายได้ปีหน้าทะลุ 250 ล้านบาท โตขึ้น 15%
นายอมรศักดิ์ แดงแสงทอง รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีพลัส อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายฟิล์มและกระจกกันรอย แบรนด์ Focus เปิดเผยถึงแผนธุรกิจ ปี 2559 ว่า บริษัทเตรียมความพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตกระจกกันรอยมากขึ้นเพื่อรองรับตลาดที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต อีกทั้งเพิ่มไลน์การผลิตกระจกกันรอยให้มีความหลากหลาย พัฒนากระจกให้มีฟังก์ชันการใช้งานพิเศษตอบสนองผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม ต่อเนื่องจากกระจกถนอมสายตาที่เปิดตัวไปแล้วในปีนี้ เช่น กระจกที่รองรับหน้าจอมีขอบโค้งแบบ 3 มิติ กระจกรุ่นบางพิเศษ และกระจกกันรอยแบบด้านที่ช่วยลดแสงสะท้อน รวมถึงพัฒนากระบวนการผลิตฟิล์ม และกระจกให้รวดเร็ว และรองรับกับรุ่นของสมาร์ทโฟนให้ได้มากที่สุด
สำหรับงบการตลาดปีหน้าเตรียมไว้เท่ากับปีนี้ คือ 30 ล้านบาท โดยมั่นใจว่าจากการพัฒนาสินค้าที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด แม้ว่าภาพรวมตลาดรวมของฟิล์มกันรอยจะลดลงก็ตาม ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 250 ล้านบาท เติบโตประมาณ 15% จากปี 2558 ที่มีรายได้ 220 ล้านบาท ส่วนแผนการตลาดนั้นมุ่งเน้นการชิงส่วนแบ่งตลาดฟิล์ม และกระจกกันรอยเพิ่มจากเดิม โดยตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดที่ 70% โดยเฉพาะกลุ่มกระจกกันรอย เนื่องจากยังคงเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ที่มีโอกาสเติบโตได้อีก
“เนื่องจากปริมาณการใช้งานเติบโตลดลงตามตลาดสมาร์ทโฟนที่เริ่มชะลอตัว แม้ว่าจะมี 4G เข้ามาก็ตาม เพราะคาดว่าดีไวซ์คงไม่เข้ามาในตลาดมากเหมือนตอนตลาดมี 3G ที่ผู้ให้บริการจะทุ่มดีไวซ์ให้ลูกค้า และเชื่อว่าลูกค้ายังคงใช้ 3G กันอีกนาน แต่ Focus ยังคงมียอดขายที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลจากการที่บริษัทผลิตสินค้ามีคุณภาพ มีช่องทางการจัดจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งบริษัทได้มีโรงงานผลิตเพื่อควบคุมคุณภาพ และความเร็วในการออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ รวมไปถึงการสื่อสารแบรนด์โฟกัสแก่ผู้บริโภคผ่านสื่อ และกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันสัดส่วนการขายของ Focus แบ่งเป็นฟิล์มกันรอย 75% กระจกกันรอย 25% โดยกลุ่มกระจกกันรอยมีแนวโน้มที่จะมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น คาดว่าในปี 2559 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 40% เนื่องจากผู้บริโภคให้การตอบรับที่ดี และนิยมใช้งานกระจกกันรอยกันมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีโรงงานผลิตฟิล์มกันรอยแบบกระจกที่มีกำลังการผลิตที่ 4-5 แสนแผ่นต่อเดือน ขณะที่มียอดขายอยู่ที่ 2-3 แสนแผ่นต่อเดือน
สำหรับแบรนด์ Focus มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่ประมาณ 65% ขณะที่อันดับ 2 มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% และแบรนด์คู่แข่งรายย่อยอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันไม่ถึง 10% โดยการแข่งขันในตลาดยังคงมีความรุนแรง ทั้งด้านราคา การลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์ การนำเข้าผลิตภัณฑ์ต้นทุนต่ำจากประเทศจีนเข้ามาจำหน่าย ฯลฯ ซึ่งบริษัทมีการปรับกลยุทธ์รองรับสถานการณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งของ Focus คือ เป็นรายเดียวในประเทศมีโรงงานผลิต และควบคุมคุณภาพสินค้าฟิล์มและกระจกกันรอยของตัวเองทุกขั้นตอน ความรวดเร็วในการออกผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และความเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนให้การยอมรับ