เมื่อวันที่ 30 พ.ย.-2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการจัดประชุมผู้ประกอบการสื่อสารโทรคมนาคมนานาชาติเอเชีย Capacity Asia 2015 ครั้งที่ 12 ณ โรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ โดยมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางเทคโนโลยี และธุรกิจในหลากหลายประเด็น
คุณอุบลพรรณ ชื่นชม ผู้จัดการฝ่ายขายผู้ประกอบการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้ร่วมเสวนา ในหัวข้อ Spotlight Focus-Thailand: Maintaining the competitive edge in the APAC wholesale carrier market ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การทำตลาดในกลุ่มผู้ประกอบการในกลุ่มเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีไอทีอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการสื่อสารโทรคมนาคมจึงต้องพัฒนาโครงข่าย และปรับตัวให้สอดคล้องทั้งด้านเทคโนโลยี และการตลาด โดยคุณอุบลพรรณ ได้กล่าวถึงแนวทางการทำตลาดในยุคนี้ว่า
“สำหรับ CAT เพื่อการสนับสนุนธุรกิจในปัจจุบัน เรามีแผนจัดแบ่งหน่วยธุรกิจต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น สำหรับการทำตลาดในแต่ละเซกเมนต์ ซึ่ง CAT คาดหวังว่าการจัดแบ่งนี้จะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด และการเพิ่มรายได้จากทรัพยากรในธุรกิจที่มีการลงทุนไว้ได้มากขึ้นส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยในปัจจุบันเรามีรายได้จากการขาย capacity โครงข่ายระบบเคเบิลใต้น้ำเพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ หรือการขายแบบ Wholesale ทั้งนี้ ความท้าทายในธุรกิจของ CAT คือ เราให้บริการ Support ในกลุ่มหน่วยงานรัฐ ซึ่งตรงนี้อาจจะไม่สามารถสร้าง Margin ได้มากนัก ขณะที่การทำกำไรในกลุ่มของลูกค้าเอกชนก็ยังคงมีการแข่งขันสูง เราจึงต้องวางกลยุทธ์การทำตลาดทั้ง 2 ส่วนให้มีความ Balance ที่จะทำให้เรารักษารายได้ในตลาดเดิม และเพิ่มตลาดใหม่โดยเน้นจากการขายแบบ Wholesale โดยเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จากแนวโน้มการใช้งาน Data ที่จะเพิ่มขึ้นจากการเกิดขึ้นจากการเปิดให้บริการระบบ 4G รวมทั้งการเติบโตของ Content Provider ซึ่งเราได้ประมาณการ และเตรียมความพร้อมโครงข่ายรองรับแบนด์วิธที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นกว่า 2 เท่า รวมถึงการพัฒนา Infrastructure ในส่วนของระบบ Cloud และ Data Center สำหรับกลุ่ม Content Provider ระดับ Global สำหรับการพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ประกอบไปกับการขยายตลาดในกลุ่มอินโดจีน โดยเฉพาะตลาดใหม่อย่างประเทศพม่า ซึ่งเรามีการทำตลาดอย่างจริงจังมากว่า 2 ปี โดยมีการติดตั้งจุดให้บริการในพม่า และเชื่อมโยงผ่านโครงข่ายภาคพื้นดิน และระบบเคเบิลใต้น้ำมายังประเทศไทย ทั้งนี้ การให้บริการในพม่าจะผ่านความร่วมมือกับเซอร์วิสโพรวายเดอร์หลักในพม่า โดยมีแผนคู่ขนานที่จะดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกในพม่าต่อไป”
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)