iTopPlus จับขาขึ้นธุรกิจโฆษณาออนไลน์ จากยุคสื่อดิจิตอลที่มีอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมากว่า 60% หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 30% สร้างรายได้รวมให้แก่บริษัทกว่า 300 ล้านบาท โดยจะมาจากทั้งการให้บริการสร้างเว็บไซต์ และรับโฆษณาผ่านกูเกิล และเฟซบุ๊ก ในกลุ่มลูกค้า SMEs พร้อมจัดงาน G Connect ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย.นี้ที่ C-Asean Center ชั้น 10 อาคารไซเบอร์ เวิลด์ ทาวเวอร์ แนะนำการโฆษณาออนไลน์แก่ลูกค้า
นายกัมพล ธนาปัญญาวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอท้อปพลัส จำกัด กล่าวว่า จากประสบการณ์ในการทำการตลาดออนไลน์ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พบว่า ปัจจุบันรูปแบบการทำตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายในโลกออนไลน์ส่วนใหญ่จะมาจากการค้นหาข้อมูลผ่านกูเกิล ในขณะที่การทำโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างแบรนด์มากกว่า
ประกอบกับพฤติกรรมของผู้ใช้บริการที่ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้กลายเป็นช่องทางในการเข้าถึงโฆษณาออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการซื้อสื่อโฆษณาติดตัว แตกต่างจากสมัยก่อนที่จะเจอโฆษณาเมื่อเปิดรับช่องทางการสื่อสารเท่านั้น
นอกจากนี้ เทรนด์ของดิจิตอลในปัจจุบัน การเข้าชมเว็บไซต์จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะจากเดิมที่จะเจอแต่คอนเทนต์ในเว็บไซต์ ก็เริ่มมีการแทรกเข้ามาของแบนเนอร์ จนกระทั่งปัจจุบันในการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ส่วนใหญ่เป็นโฆษณาสอดแทรกกับคอนเทนต์ที่น่าสนใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อมูลที่น่าสนใจจากสมาคมโฆษณาดิจิตอล ระบุว่า ในปี 2558 จะมีเม็ดเงินโฆษณาในช่องทางดิจิตอลกว่า 9,869 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 62% และเมื่อดูย้อนหลังไปจะพบอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 50% ทำให้สื่อโฆษณาดิจิตอลถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงมาก
“การโฆษณาออนไลน์เข้ามาเปลี่ยนความคิดของนักธุรกิจ จากเดิมที่มองค่าการตลาดเป็นค่าใช้จ่าย ในขณะที่โลกออนไลน์ไม่ใช่เรื่องค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่สามารถเห็นยอดเงินจากการลงทุนได้ที่เห็นเป็นตัวเงินได้เลยจริงๆ โดยมีรูปแบบการทำการตลาดออนไลน์หลักๆ คือ เก็บค่าโฆษณาเมื่อมีคนคลิก และสามารถกำหนดค่าโฆษณาในแต่ละวันได้”
เมื่อมองถึงโอกาสทางการขยายตัวด้านการตลาดออนไลน์ ปัจจุบัน ในประเทศไทยมีธุรกิจ SMEs อยู่ราว 3 ล้านราย แต่มีเว็บไซต์ทั้งประเทศประมาณ 3-4 แสนรายเท่านั้น จากที่คาดว่าจะมีธุรกิจที่เป็นเว็บไซต์ราว 1 ล้านเว็บ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30-40% เท่านั้น ทำให้เห็นว่ายังมีโอกาสขยายตัวอีกกว่า 60%
“ตอนนี้คู่แข่งที่มีในตลาดโฆษณาออนไลน์ส่วนใหญ่จะไม่ได้ให้บริการแบบครบวงจรเท่ากับ iTopPlus เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่บริษัทขนาดเล็กที่รองรับปริมาณลูกค้าได้น้อย ในขณะที่ iTopPlus มีพนักงานกว่า 250 คน ที่จะรองรับการให้บริการและให้คำปรึกษาตลอดเวลา“
สำหรับบริการของ iTopPlus ในปัจจุบันมีบริการทั้งการจัดทำเว็บไซต์ สร้างอีเมลภายใต้ชื่อบริษัท คอร์สอบรมทำเว็บไซต์ฟรี ให้ฟีเจอร์ไม่จำกัด ซื้อครั้งเดียวแล้วสามารถทำธุรกิจได้เลย เพราะเว็บไซต์คือโอกาสทางธุรกิจ เมื่อมีเว็บไซต์แล้วต้องทำธุรกิจได้จริง รองรับการใช้งานทุกแพลตฟอร์ม ทั้งพีซี และสมาร์ทโฟน มีบริการอีเมล
รวมถึงการดูแลเว็บไซต์ การทำโฆษณาผ่าน Google Adwords ที่ไม่จำกัดคำค้นหา โฆษณา Google GDN โฆษณา Youtube Ads โฆษณาบน Facebook และ บริการ Facebook Content Admin ขณะที่ปัจจุบันรายได้ของธุรกิจจะมาจากการให้บริการเว็บไซต์ และโฆษณาในสัดส่วนราว 50% แต่ในอนาคตมีแนวโน้มที่ธุรกิจโฆษณาจะสูงขึ้นเป็น 60% ภายในปีหน้า เพราะลูกค้ามีการจ่ายค่าโฆษณาสูงขึ้นตลอดช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
“อัตราค่าลงโฆษณาโดยเฉลี่ยของลูกค้าในแต่ละเดือนจะอยู่ที่ราว 10,000-15,000 บาท ที่ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นกว่า 400% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และการที่มีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 30% จะทำให้ iTopPlus เติบโตในแง่รายได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 50% คิดเป็นรายได้ในสิ้นปีนี้ราว 300 ล้านบาท”
ปัจจุบัน iTopPlus มีฐานลูกค้าประมาณ 6 พันราย มีสัดส่วนหลักอยู่ในกลุ่มธุรกิจรีเทล 25% ท่องเที่ยว 15% และ บีทูบี 12% ที่เหลือจะเป็นกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ซึ่งก็จะมีทั้งทางด้านสุขภาพ ยานยนต์ อุตสาหกรรม การศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ โดยธุรกิจที่เติบโตที่สุดคือ กลุ่มท่องเที่ยวที่เติบโตกว่า 100% ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุด iTopPlus เตรียมจัดงาน G Connect 2015 ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2558 ที่ C-Asean Center ชั้น 10 อาคารไซเบอร์ เวิลด์ ทาวเวอร์ เพื่อพูดถึงการทำตลาดออนไลน์ด้วยเครื่องมือของกูเกิลแบบเจาะลึก จากทั้งทาง iTopPlus ร่วมกับทางพันธมิตรอย่างกูเกิล มหาวิทยาลัยศรีปทุม และธนาคารกสิกรไทย
โดย G Connect เป็นงานที่จะเชื่อมโยงความรู้ทั้งหมดให้แก่ผู้ประกอบการ และนำไปใช้ในธุรกิจได้จริง มีสิ่งที่น่าสนใจภายในงานคือ การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้กูเกิลในการทำการตลาดออนไลน์ สอนประสบการณ์จริงในการทำตลาดผ่านกูเกิล จาก 8 หมวดอุตสาหกรรมที่ครอบคลุม รวมถึงการให้บริการคำปรึกษาเจาะลึกในแต่ละธุรกิจ (จำกัด 500 ราย ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ล่วงหน้า)
