คอมม์วอลท์ เผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรกยังไปได้ดีแม้จะสะดุดบ้างในไตรมาส 2 แต่คาดว่าทั้งปีจะดีกว่าปีที่ผ่านมา และจะดีกว่านี้ถ้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นรูปธรรมมากขึ้น ชี้ธุรกิจเล็กๆ เริ่มให้ความสำคัญต่อคลาวด์มากขึ้นเพราะไม่อยากเสียเวลามาบริหารจัดเก็บข้อมูลเอง ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่ในกลุ่มเฮลธ์แคร์ และการศึกษายังไปได้ดี เผยผลสำรวจธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกยังเก็บข้อมูลแบบไซโล จำเป็นต้องทำการบริหารจัดการข้อมูล
นายสมุจจ์ ถนัดสร้าง ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท คอมม์วอลท์ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของคอมม์วอลท์ (เริ่มปีงบประมาณเดือนเมษายน) นับว่าไปได้ด้วยดี แต่พอไตรมาส 2 เริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากองค์กรยังรอการใช้จ่ายจากภาครัฐอยู่ ส่วนครึ่งปีหลังคอมม์วอลท์คาดว่าน่าจะดีขึ้นเนื่องจากการใช้จ่ายจากภาครัฐที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ หากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาดี พอถึงสิ้นปีงบประมาณคอมม์วอลท์ก็จะโตตามไปด้วย แต่คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตขึ้นกว่าปีที่แล้วแน่นอน โดยปัจจุบัน มีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มเฮลธ์แคร์ สถาบันการศึกษา โดยขณะนี้เริ่มเห็นว่ากลุ่มธุรกิจเล็กๆ ที่ใช้เซิร์ฟเวอร์ 3-5 ตัว เริ่มให้ความสำคัญต่อคลาวด์มากขึ้น เพราะไม่อยากจะเสียค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้วยตัวเอง มีความยุ่งยาก จึงมาใช้ช่องทางนี้มากขึ้น
“กลยุทธ์การตลาดนับจากนี้คอมม์วอลท์จะทำให้ลูกค้ามองเห็นความสำคัญของเรื่องการบริหารจัดการดาต้า โดยจะมุ่งเน้นการปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา นำเสนอความยืดหยุ่นในเรื่องของการทำไลเซนส์ โฟกัสเป็นส่วนๆ ไป ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดขององค์กร เพื่อปรับให้เข้ากับสภาพทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่”
นายสมุจจ์ กล่าวว่า ล่าสุด คอมม์วอลท์ร่วมมือกับไอดีซี ในการสำรวจเรื่อง The Data-Driven Organisation : Unlocking Value from Data and Minimising its Associated Costs and Risks, โดยได้สอบถามซีอีโอเอเชียแปซิฟิก และอินเดียประมาณ 600 คน เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการดาต้า พบว่า พวกเขาต้องการใช้ข้อมูลที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างการแข่งขัน และสามารถนำข้อมูลมาประกอบในการสร้างกลยุทธ์ โดยองค์กร 47% เริ่มเห็นความสำคัญของการจัดการข้อมูล ส่วนอีก 27% เริ่มให้ความสำคัญ แต่ 21% ยังเห็นว่าไม่สำคัญนัก ในขณะที่อีก 5% ไม่เห็นความสำคัญเลย
“ผลสำรวจนี้ต้องการจะชี้ให้เห็นภาพรวมของธุรกิจที่ยังคงมีการเก็บข้อมูลแบบไซโล ในขณะที่เวอร์ชวลไลเซชันเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ต้องได้รับการแก้ไขทั้งทางด้านการจัดเก็บ และการนำข้อมูลไปใช้ ซึ่งปัจจุบันการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของข้อมูล การเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้น แต่องค์กรส่วนใหญ่ยังไม่สามารถบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้ได้ดีนัก”
นอกจากนี้ จากผลสำรวจพบว่า ซีไอโอ 40% มองว่าการจัดการข้อมูลในปัจจุบันยังคงเป็นแบบไซโล หรือเป็นแผนกๆ ไป ต่างคนต่างเก็บ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลทั้งหมด และสร้างปัญหาให้แก่หน่วยงานไอทีในเอเชียแปซิฟิกมีการใช้งานคลาวด์เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในเมืองไทยที่มีการเติบโตการทำเวอร์ชวลไลเซชัน ที่มีการเติบโตมากขึ้นถึง 22% และทุกประเทศที่ทำการสำรวจมองว่าซิเคียวริตีเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการในการเข้าถึงคลาวด์
ทั้งนี้ ธุรกิจในไทยและเอเชียแปซิฟิกมองในทิศทางเดียวกันว่า พวกเขาต้องการสร้างให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น สามารถสร้างกลยุทธ์ได้ดีขึ้น รวมไปถึงสามารถตอบสนองต่อกฎระเบียบ และมาตรฐานทางด้านไอที ในขณะที่ประเทศไทยมองเรื่องค่าใช้จ่ายทางด้านไอทีเป็นปัจจัยหลัก ต่างจากประเทศอื่นๆ มองเรื่องการจะนำข้อมูลมาใช้อย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่สำคัญ และการนำข้อมูลมาบริหารจัดการ และถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญขององค์กร ซึ่งจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น