เปิดแล้วงานวันสื่อสารแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 6-9 ส.ค. ด้าน “หม่อมอุ๋ย” ย้ำการประมูล 4G ต้องเป็นไปตามแผนเดิม ขณะที่เลขาธิการ กสทช.เตรียมนัดคุยกระทรวงไอซีทีวางโรดแมปคลื่นความถี่โทรคมนาคมสัปดาห์หน้า พร้อมเจรจาให้ 2 รัฐวิสาหกิจไม่เสียประโยชน์ ปิดช่องฟ้องล้มประมูล ด้านเอกชนตบเท้าแสดงเทคโนโลยีคึกคักไฮไลต์เด่นที่ดีแทค ทีโอที เอไอเอส
วันนี้ (6 ส.ค.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังการเปิดงานวันสื่อสารแห่งชาติ NET2015 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 ส.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า การประมูล 4G ต้องเป็นไปตามแผน และเป็นไปไม่ได้ที่รัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง คือ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการฟ้องร้องเพื่อล้มการประมูล
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า การประมูล 4G ต้องเกิดขึ้นตามแผนอย่างแน่นอน คือ คลื่น 1800 MHz ในวันที่ 11 พ.ย.58 และ คลื่น 900 MHz ในเดือนเดียวกัน แต่ทั้งนี้ต้องมีทางออกให้ ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม อยู่รอดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟ้องร้องล้มประมูล โดยภายในสัปดาห์หน้าจะไปหารือร่วมกับ นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ถึงการจัดทำแผนคลื่นความถี่ด้านโทรคมนาคมทั้งหมด ตั้งแต่คลื่นย่าน 470 - 2600 MHz ว่าจะมีทิศทางอย่างไรบ้าง ซึ่งทาง กสทช.เองทำแผนคลื่นความถี่ไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการคืนคลื่น 1800 MHz จำนวน 5 MHz นั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร รับปากว่าจะต้องดำเนินการขั้นตอนการคืนคลื่นให้เสร็จทันวันที่ 25 ก.ย.อย่างแน่นอน โดยยืนยันว่า จะดำเนินการเจรจากับคณะกรรมการตามมาตรา 43 เอง เพื่อให้กระบวนการเสร็จทันเวลา ส่วนจำนวนใบอนุญาตที่จะนำมาประมูลว่าจะเป็น 2 ใบอนุญาตๆละ 15 MHz หรือ 3 ใบอนุญาตๆ ละ 10 MHz ตามที่เวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) หรือไม่นั้น จะต้องทราบก่อนวันที่ 17 ส.ค. เพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ในวันที่ 19 ส.ค.และเสนอที่ประชุมก สทช. วันที่ 25 ส.ค.
***ส่องไฮไลท์งานวันสื่อสาร
นายฐากร กล่าวว่า งาน NBTC EXPO THAILAND 2015 (NET 2015) จัดขึ้นในแนวคิด “Future Trend in Digital World” โดยมีโซนการแสดงนิทรรศการต่างๆ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการสื่อสารของไทยได้แก่ 1.เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) เป็นนิทรรศการที่นำเสนอนโยบาย และโครงการริเริ่มของหน่วยงานภาครัฐสู่การเป็นสังคมเศรษฐกิจดิจิตอล 2.ชุมชนดิจิตอล (Digital Community) นิทรรศการที่ฉายภาพเทคโนโลยีโลกอนาคต และชีวิตสมัยใหม่ ที่จัดโดยภาคธุรกิจเอกชน 3.โลกเคลื่อนที่ (Mobile World) นิทรรศการและงานแสดงสินค้านวัตกรรมโทรศัพท์มือถือ และย่านความถี่ที่จะถูกจัดสรรแก่ระบบ 4G และ 5G ในอนาคต 4.บันเทิงล้ำยุค (Smart Entertainment) นำเสนอสินค้านวัตกรรมความบันเทิงในยุคดิจิตอล และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการแพร่ภาพ และเสียงระบบดิจิตอล และ 5.ความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ (Cyber Security) นิทรรศการสร้างการตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามจากช่องทางดิจิตอล และวิธีการป้องกัน และรับมือต่อภัยคุกคามดังกล่าว
***ดีแทคโชว์ 4G VoLTE และ VoWiFi
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ไฮไลต์ของดีแทค คือ การนำเสนอ 4G VoLTE และ VoWiFi ที่นำมาให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสจริง และถือว่าเป็นการเปิดให้ทดสอบผ่านโชว์เคสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ก่อนเปิดให้บริการจริงก่อนมีการประมูล 4G
การนำเทคโนโลยี ดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi ต่อยอดบริการวอยซ์ หรือโทรศัพท์ด้วยเสียงคุณภาพสูงสุด ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมยุคเครือข่าย 4G ที่จะมาแทนที่การโทร.แบบเดิมด้วย 3G และ 2G ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งจากเดิมผู้ใช้งาน 4G จะใช้ได้เพียงดาต้าความเร็วสูง และเมื่อมีสายเรียกเข้าระบบจะตัดสู่โหมดการโทร.ด้วย 3G หรือ 2G แทนเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีทั้งดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi จะทำให้ใช้งานวอยซ์ หรือโทร.บนเครือข่าย 4G มีคุณภาพดีขึ้น และมีความแตกต่างจากแบบเดิม
ดีแทค 4G VoLTE หรือ Voice over Long Term Evolution ถือว่าดีแทคเป็นผู้ให้บริการรายแรกในไทย และเป็นผู้ให้บริการอันดับ 16 ของโลก เทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้ใช้บริการมือถือสามารถสัมผัสประสบการณ์โทรศัพท์ด้วยเสียงที่คมชัดระดับ HD และ Call Setup เร็วกว่าเดิม 10 เท่า ด้วยการโทร.เรียกหมายเลขปลายทางเร็วขึ้นภายในเสี้ยววินาที หรือประมาณ 0.5 วินาที จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 5 วินาที (เมื่อใช้ดีแทค 4G VoLTE ทั้งผู้โทร.ออกและรับสาย) อีกทั้งสามารถใช้งานวิดีโอคอลล์ด้วยภาพแบบ HD คมชัดกว่าเดิม ด้วยสัญญาณรับ-ส่งภาพรายละเอียดสูงในระดับ 720P/1080P ทำให้ภาพคมชัดมากกว่าปกติ และมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น คุณภาพที่ได้จะดีกว่าการใช้วิดีโอคอลล์ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เคยใช้งานแบบเดิม อีกยังสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G ความเร็วสูงไปพร้อมกับการโทร. ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ใช้โทรศัพท์รุ่น และ Firmware ที่รองรับ โดยไม่ต้องลงแอปพลิเคชันเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ดีแทค 4G VoWiFi หรือ Voice Over WiFi ถือว่าดีแทคเป็นผู้ให้บริการรายแรกในไทย และเป็นผู้ให้บริการอันดับ 5 ของโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้ใช้บริการมือถือ 4G สัมผัสกับการปฏิวัติการโทร.รูปแบบใหม่ผ่านสัญญาณ WiFi ได้ทุกที่ในโลกไม่จำกัดค่าย WiFi เพิ่มพื้นที่ใช้งานมือถือออกนอกกรอบการใช้งานจากรูปแบบเดิม รองรับทุกสถานการณ์แม้ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือเข้าถึง ใช้งานได้ด้วยหมายเลขเดิมเหมือนการโทร.ใช้งานปกติ และโทร.ไปยังเบอร์อื่นๆ ได้ตามปกติเหมือนการใช้งานผ่านโครงข่ายมือถือต่างจากการโทรผ่านแอปพลิเคชัน ด้วย WiFi แบบเดิม ซึ่งต้องจำกัดกลุ่มการโทร.ที่ต้องใช้งานด้วยแอปพลิเคชันเดียวกันเท่านั้น และไม่สามารถโทร.เข้าเบอร์บ้านได้
นอกจากนี้ ดีแทคยังได้นำนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ ที่น่าสนใจมาสาธิต และให้ประชาชนได้สัมผัสและทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการจริง ได้แก่ Sleep Apnea Monitor นวัตกรรมอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ในทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรค Sleep Apnea Syndrome หรือโรคภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งถูกออกแบบมาให้จัดเก็บข้อมูลของผู้ป่วยโดยไม่จำเป็นต้องไปเข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล และข้อมูลจะถูกส่งผ่าน 4G สู่แพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล และทำการรักษาได้ตรงจุดต่อไป
Smart Home Security อุปกรณ์สื่อสารล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพที่อยู่อาศัย แม้ไม่ได้อยู่บ้านด้วยอุปกรณ์ IP Camera สั่งกล้องสำรวจบ้านจากมือถือ 4G, Smart Door Bell รู้ข้อมูลทุกครั้งเมื่อมีคนมาหาที่บ้านแม้ในขณะที่ไม่อยู่บ้าน, เครื่องตรวจจับควันป้องกันเพลิงไหม้ ทำให้หมดความกังวลเมื่อต้องเดินทางไปนอกบ้านแม้ในระยะเวลานาน ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยให้เป็น Smart Home ด้วยเทคโนโลยี 4G
GPS Tracker อุปกรณ์สื่อสารบน 4G ที่ถูกออกแบบมาให้หมดความกังวลต่อคนที่เรารักห่วงใย ทั้งเด็กเล็กที่ชอบซน และผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องความจำอาจเสี่ยงต่อการหลงทาง ด้วยเทคโนโลยี GPS Tracker จะแจ้งเตือนให้ทราบทันทีหากคนที่เรารักออกนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้ โดยจะแจ้งเตือนตำแหน่งเส้นทางบนแผนที่ทำให้รู้พิกัดแน่นอน และไปรับกลับ หรือช่วยเหลือได้ทันที
Drive Bot การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารบน 4G ดูแลเรื่องการใช้รถยนต์ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไดรฟ์บอทมีทั้งโมบาย แอปพลิเคชัน และอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้รถได้ดูแลรักษารถอย่างถูกต้องเพื่อ ป้องกันอุบัติเหตุ หรือรถเสีย รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถ และอื่นๆ โดยจะคอยเตือนเมื่อรถมีปัญหา หรือพบความผิดปกติจากการใช้งาน รวมทั้งแจ้งเมื่อถึงเวลาตรวจสภาพ และช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมในการขับรถ
***ทีโอทีพัฒนาโซลูชันเพื่อความปลอดภัย
นางพิมพ์วิมล วงษ์สุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักบริหารการตลาด ทีโอที กล่าวว่า ในงานวันสื่อสารแห่งชาติ ทีโอที ได้นำไฮไลต์ TOT life guard ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของสถาบันนวัตกรรมทีโอที ที่ได้พัฒนาเป็นโซลูชันเพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตในที่สาธารณะได้อย่างปลอดภัย โดย TOT life guard จะให้บริการกับลูกค้าตามการใช้งาน 5 โซลูชันคือ 1.Home Life Guard เป็นระบบความปลอดภัยในบ้าน เพื่อตรวจจับและป้องกันมิจฉาชีพ 2.Transportation Life Guard ระบบความปลอดภัยในระบบขนส่งทั้งทางบก และทางน้ำ เช่น รถไฟ รถตู้ เรือ รถโดยสาร อื่นๆ
3.School Life Guard ระบบความปลอดภัยในโรงเรียน ด้วยการจัดทำบัตรนักเรียน (RFID) ซึ่งจะลงเวลาเข้า-ออกจากโรงเรียน แจ้งเตือนการเข้าเรียนของนักเรียนไปยัง SMS ของผู้ปกครองได้ทุกวัน และการเติมเงินลงบัตรเพื่อใช้ซื้ออาหาร และโทรศัพท์ในโรงเรียน รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียน โดยติดตามชื่อรถ เจ้าหน้าที่ และผู้ขับรถ 4.Health Life Guard ระบบติดตามผู้สูงอายุที่พลัดหลง หรือใช้เป็นตัวช่วยเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งระบบจะส่งพิกัดบอกตำแหน่งเพื่อความรวดเร็ว มีการเก็บข้อมูลที่จำเป็นด้านสุขภาพเพื่อประโยชน์ในการวินิจฉัยของแพทย์ และ 5.Environment Life Guard ระบบรักษาความปลอดภัยจากสิ่งแวดล้อมสำหรับติดตามความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกัน หรือควบคุมความเสียหายได้ทันท่วงที วิเคราะห์ และคาดการณ์เพื่อใช้วางแผนการใช้ทรัพยากรอย่างดีที่สุด รวมถึงการเก็บสถิติต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ต่อการเฝ้าระวัง โดยในงานจะนำเสนอโมเดลจำลอง ระบบบูรณาการควบคุม และติดตามเรือประมงไทย (TOT Marine Eye System) ซึ่งมีความรวดเร็ว แม่นยำ สามารถติดตามได้ทั่วทั้งใน และนอกประเทศ
*** เอไอเอสจำลองโลกดิจิตอล
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอส มีไฮไลต์เด่นอยู่ที่การจำลองโลกดิจิตอลมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่ 1.AIS Fibre & AIS Play Box โดยบริการ AIS Fibre Broadband ความเร็วสูงผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มีเสถียรภาพสูง ขณะที่ AIS Play Box ที่จะเปิดประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่า ให้รับชมความบันเทิงทั้งภาพยนตร์ไทย และต่างประเทศจากฮอลลีวูด ซีรีส์ดัง กีฬา รายการทีวี เสียงเพลง ด้วยความคมชัดระดับอัลตรา เอชดี โฟร์เค (ULTRA HD 4K) โดยในงานมีการจัดพื้นที่โชว์เป็น Living Room สำหรับให้ลูกค้าได้ทดลองสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน AIS PLAYBOX ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS Fibre
2.Beat Banking ดิจิตอลแบงกิ้งรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้สามารถจ่าย โอน ถอน ได้อย่างง่ายๆ ได้ทุกที่ 24 ชั่วโมงจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออนไลน์บนมือถือ 3.AIS SUPER WiFi มาพร้อมความเร็วสูงสุดถึง 650 เมกะไบต์ต่อวินาที เร็วกว่า 4G ถึง 6 เท่า 4.AIS Video Analytics บริการจาก AIS Business Solutions สำหรับร้านค้าต่างๆ ที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล VDO จาก IP Camera ผ่านอุปกรณ์พิเศษ ให้เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ทางธุรกิจ (Business data) 5.Digital Gadget Zone บริการอุปกรณ์สุดล้ำสมัยเหมาะสำหรับยุคดิจิตอล เช่น E-Hang Ghost Drone โดรนถ่ายภาพกลางอากาศ, Life Beam หมวกอัจฉริยะที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ และ 6.Sales and Promotion Area พบกับ 2 แคมเปญสุดคุ้มกับ AIS SUPER HERO By Super Combo เหล่าฮีโร่ ผู้ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า 3 รุ่น ที่มาพร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับเครื่อง AIS Lava โทร.ฟรี โซเชียลฟรี ดูหนังฮอลลีวูดฟรี 30 วัน และแคมเปญ Samsung Galaxy S6 รับสิทธิสมัครโปรโมชันพิเศษ “โทรฟรี 1 ปี” ตั้งแต่วันนี้-31 ส.ค.58
Company Related Link :
กสทช.
