xs
xsm
sm
md
lg

Review รีวิวสินค้าไอที สมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก

x

สายการบินนิวซีแลนด์ยัน “เครื่องบินแฮกไม่ได้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ต้นสังกัดสายการบินแควนตัส “แควนตัสกรุ๊ป (Qantas Group)” ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เครื่องบินของตัวเองไม่มีช่องโหว่ให้ผู้โดยสารลักลอบเจาะระบบได้ ฟังธงคำอ้างของนักวิจัยสหรัฐฯ ที่ประกาศว่า สามารถแฮกเครื่องบินสัญชาตินิวซีแลนด์เพื่อควบคุม และเปลี่ยนทิศทางการบินนั้นเป็นไปไม่ได้ แม้จะมีการอธิบายชัดเจนว่า การแฮกสามารถทำได้ผ่านการเจาะระบบความบันเทิงระหว่างที่เครื่องบินกำลังเดินทาง

แถลงการณ์ของสายการบินนิวซีแลนด์นี้เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอในสหรัฐฯ มีการลงบันทึกถึงนายคริส โรเบิร์ตส (Chris Roberts) ผู้ก่อตั้งบริษัทวันเวิร์ลแล็บส์ (One World Labs) ซึ่งยอมรับว่า ได้ลงมือเจาะระบบเครื่องบินขณะเดินทาง โดยระบุว่า เป็นการเจาะระบบเครื่องบินซ้ำหลายลำ ขณะที่ตัวเองกำลังเดินทางกับเครื่องบินลำหนึ่ง

นักวิจัยซึ่งสวมหมวกแฮกเกอร์รายนี้ให้ปากคำว่า ท่ามกลางการเจาะระบบหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเขาสามารถเขียนชุดคำสั่งทับโค้ดชุดคำสั่งเดิม ทำให้เครื่องบินเปลี่ยนทิศทางการบินกะทันหัน

ทันทีที่มีชื่อ Qantas พาดพิงกับรายงานข่าวนี้ สายการบิน Qantas จึงออกมายืนยันว่าบริษัทมีระบบรักษาความปลอดภัยของเครื่องบินเข้มงวดมาก โดยปฏิเสธว่าการโจมตีระบบควบคุมการบินไม่สามารถทำได้บนเครื่อง

แถลงการณ์นี้ถูกประกาศในนาม Qantas Group ซึ่งเป็นต้นสังกัดสายการบินทั้งแควนตัส และเจ็ตสตาร์ (Jetstar) ที่ให้บริการในนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย โดยสตีฟ แจ็กสัน (Steve Jackson) ประธานฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ Qantas Group ชี้แจงว่า บริษัทมีการตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยเป็นประจำ ซึ่งถือว่า “เหลือเฟือ” สำหรับการป้องกันภัยโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ทั้งจากระยะใกล้ และไกล

เบื้องต้น ผู้บริหาร Qantas Group ยืนยันเพียงว่า บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับการบินทั้งหมดอย่างเคร่งครัดแล้ว แต่ไม่มีการให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์การเจาะระบบเครื่องบินตามที่มีรายงานในสำนักข่าวเอพีทีเอ็นนิวส์ (APTN News) และสำนักข่าวไวร์ด (Wired)

สื่อออนไลน์ของสหรัฐฯ ระบุว่า นายโรเบิร์ตส เคยมีประวัติถูกเชิญลงจากเที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส (United Airlines) เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว หลังจากลงมือส่งข้อความบนทวิตเตอร์ (tweet) เกี่ยวกับการเจาะระบบบนเครื่องบินที่กำลังเดินทางอยู่ โดยโรเบิร์ตส์ ถูกโทษแบนไม่อนุญาตให้ใช้บริการสายการบิน United Airlines ในขณะนี้

ข้อมูลจากเอฟบีไอระบุว่า โรเบิร์ตส ตกเป็นผู้ต้องสงสัยหลายครั้งในปีนี้ โดยมีการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง พร้อมด้วยฮาร์ดไดรฟ์เก็บข้อมูล และยูเอสบีไดร์ฟจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ตส ยังไม่ถูกจับกุมด้วยข้อหาความผิดใด เนื่องจากการเจาะระบบของโรเบิร์ตส ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย แต่เป็นการทำไปเพื่อหวังเปิดเผยความเสี่ยงของระบบเครื่องบินก่อนที่บริษัทสายการบินจะรู้ตัวเท่านั้น จุดนี้ในเอกสารของเอฟบีไอระบุว่า เขาสามารถชี้ข้อบกพร่องของเครื่องบินหลายรุ่นหลายลำ ทั้ง Boeing 737-800, 737-900, 757-200 รวมถึง Airbus A320

โรเบิร์ตส อ้างต่อเจ้าหน้าที่เอฟบีไอว่า สามารถ “ค้นพบ” ช่องโหว่ข้อบกพร่องนี้ผ่านระบบความบันเทิงมากกว่า 15-20 ครั้ง ในช่วงปี 2011-2014 โดยช่องทางหลักคือ หน้าจอวิดีโอที่ติดกับด้านหลังของเก้าอี้โดยสาร ซึ่งเป็นเทคนิกเจาะระบบเครื่องบินที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น