“ทีดีอาร์ไอ” เปิดผลสำรวจดิจิตอลคอนเทนต์ไทยพบแอนิเมชันเติบโตน้อยสุด เหตุขาดเงินทุนหมุนเวียน และบุคลากรที่มีประสบการณ์ ขณะที่เกมบนโทรศัพท์มือถือเติบโตสูงสุด ส่วนกลุ่มอีเลิร์นนิ่งจะเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังรัฐบาลอนุมัติงบอีเลิร์นนิ่งภาครัฐ 17,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงผลสำรวจตลาดดิจิตอลคอนเทนต์ของประเทศไทย ประจำปี 2556 ที่สำนักงานอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า ให้จัดทำเป็นปีแรก ว่า อุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ในไทยมีมูลค่าตลาดโดยรวมประมาณ 15,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น แอนิเมชัน 3,968 ล้านบาท เกม 4,352 ล้านบาท และอีเลิร์นนิ่ง 6,448 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอประมาณการว่า กลุ่มอุตสาหกรรมแอนิเมชันในปี 57 จะมีอัตราการเติบโต 4% และปี 58 จะเติบโตมากกว่า 4% เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลที่น่าจะทำให้มูลค่าคอนเทนต์เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นการเติบโตในส่วนการนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนการผลิตภายในประเทศยังไม่เติบโตมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการแอนิเมชันไทยยังประสบปัญหาหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งเงินทุนเพราะการผลิตรายการการ์ตูน และแอนิเมชันต้องใช้เงินสูง แต่ผู้ประกอบการกลับไม่มีเงินทุนหมุนเวียน และมีความยากลำบากในการขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน ทำให้สถานีโทรทัศน์ต่างนิยมซื้อรายการจากต่างประเทศเข้ามาเพราะราคาถูกกว่า มีรายการให้เลือกหลากหลาย
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณภาพ บุคลากรรุ่นใหม่รู้แต่ทฤษฎี แต่ขาดประสบการณ์ ส่วนคนที่มีประสบการณ์ก็มักถูกต่างชาติซื้อตัวไปทำงานด้วย ตลอดจนปัญหาด้านการควบคุมโฆษณาอย่างเข้มงวดของภาครัฐทำให้ผู้ผลิตการ์ตูนมีข้อจำกัดในการหารายได้
ขณะที่อุตสาหกรรมเกม จะเป็นสาขาที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือเติบโตจาก 26% ในปี 57 เป็น 30% ในปี 58 ซึ่งมาจากการเล่นเกมผ่านโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก โดยมีปัจจัยมาจากการเกิดของเทคโนโลยี 3G และ 4G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงราคาโทรศัพท์มือถือถูกลง ทำให้มีจำนวนผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้น
ส่วนอุตสาหกรรมอีเลิร์นนิ่ง ในปี 57 จะเติบโต 9% ซึ่งเป็นการเติบโตจากนโยบายภาครัฐ ไม่ใช่การเติบโตปกติของอุตสาหกรรม ดังนั้น การคาดการณ์ในปี 58 จึงขึ้นอยู่กับงบประมาณอีเลิร์นนิ่งภาครัฐที่รัฐบาลเพิ่งอนุมัติงบประมาณไปแล้ว จำนวน 17,000 ล้านบาท ว่าจะกระตุ้นตลาดอีเลิร์นนิ่งได้มากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าจะทำให้มีการเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านตัวแทนจากผู้ประกอบการแอนิเมชันต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า รัฐบาลต้องส่งเสริมให้มีกองทุนเพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยกลุ่มผู้ประกอบการเสนอให้ตั้งกองทุนอยู่ที่ปีละ 1,000 ล้านบาท เพราะต้นทุนในการผลิตแอนิเมชันแต่ละเรื่องใช้เงินสูงมาก ยกตัวอย่างเช่น การทำทีวีซีรีส์ ต้องใช้เงินประมาณ 1-2 ล้านบาท ส่วนหากจะทำเป็นระดับภาพยนตร์ต้องใช้เงินทุนสูงถึงเรื่องละ 50 ล้านบาท เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐบาลต้องแก้เงื่อนไขในการสนับสนุนที่เป็นข้อจำกัดของผู้ประกอบการให้น้อยลง ยกตัวอย่างเช่น การกระตุ้นให้ผลิตคอนเทนต์แต่กลับมีข้อจำกัดว่าต้องผลิตให้มีคุณธรรม ส่งเสริมความดีงาม แต่เมื่อผลิตแล้วกลับหาตลาดไม่ได้ เป็นต้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ต้องช่วยผู้ประกอบการหาตลาด หรือให้สิทธิพิเศษเพื่อส่งเสริมการตั้งบริษัทในประเทศไทยเหมือนอย่างที่สิงคโปร์ทำด้วย
ด้าน นางสุวิมล เทวะศิลชัยกุล รักษาการผู้อำนวยการซิป้า กล่าวว่า จะรวบรวมข้อมูลที่ได้เพื่อนำไปเสนอต่อรัฐบาล และยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่สามารถส่งเสริมอุตสาหกรรมดังกล่าวได้เต็มที่ เนื่องจากติดเงื่อนไขด้านกฎหมาย ซึ่งช่วงนี้เป็นโอกาสอันดีที่รัฐบาลมีนโยบายด้าน Digital Economy ดังนั้น จะรวบรวมประเด็นปัญหานี้ไปเสนอต่อรัฐบาล และมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งกองทุนให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
Company Related Link :
ทีดีอาร์ไอ
