ซิสโก้ดึงทีมงานต่างชาติเจาะตลาดดิจิตอลอีโคโนมี

“ซิสโก้” ครบรอบ 20 ปี เผยภาพรวมประเทศไทยเริ่มดีขึ้นหลังเริ่มมีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก แต่น่าจะเริ่มเห็นความสดใสได้ในปีหน้า ตั้งเป้าธุรกิจในปีนี้ไว้มากกว่าการเติบโตของจีดีพี เล็งเจาะตลาดดิจิตอลอีโคโนมีด้วยการดึงทีมงานต่างชาติเข้ามาศึกษา และวิเคราะห์ก่อนจะเสนอตัวเข้าร่วม แต่ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาล เผยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ และบริการที่หลากหลาย พร้อมดันทั้งรัฐ และเอกชนไทยก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 Internet of Everything ได้อย่างมั่นใจ

นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน ซิสโก้ กล่าวว่า ซิสโก้ มองว่าทิศทางของประเทศไทยเริ่มจะดีขึ้นเพราะการเมืองเริ่มนิ่ง และการลงทุนต่างๆ เริ่มขยับตัวได้มากขึ้น รวมไปถึงภาครัฐเองเริ่มวางแผนการใช้งบประมาณ ทำให้ภาพรวมเริ่มดีขึ้น แต่น่าจะเห็นความสดใสของเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจนในปีหน้า โดยซิสโก้ ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจไว้สูงกว่าเป้าหมายจีดีพีของประเทศ และได้เตรียมพร้อมที่จะตอบสนองต่อยุคอินเทอร์เน็ต 3.0 อย่างเต็มที่ เพื่อนำธุรกิจต่างๆ ก้าวไปสู่ยุคอินเทอร์เน็ต 4.0 ได้อย่างมั่นใจ

สำหรับนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีของภาครัฐนั้น ซิสโก้ ได้เตรียมดึงทีมงานจากต่างประเทศเข้ามาวิเคราะห์ศึกษาโครงการ และความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อนำเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่เข้ามาตอบสนองต่อนโยบายดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ แต่ทั้งนี้ ยังต้องรอดูทิศทางที่ชัดเจนจากรัฐบาลก่อนว่าจะมุ่งเน้นไปในแนวทางใด รวมทั้งซิสโก้ ยังจะมองเรื่องเซอร์วิสในด้านของคลาวด์ ที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีขึ้นมาใช้งานคลาวด์ให้เกิดประโยชน์เป็นเครื่องไม้เครื่องมือในการทำงานมากขึ้น เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงได้ รวมไปถึงมีการเชื่อมต่อกันเป็นชุมชนมากขึ้น

“ที่ผ่านมา ซิสโก้ได้นำไอซีทีไปใช้ในการทรานฟอร์มธุรกิจของไทยให้สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยรัฐ และเอกชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดช่องว่างทางดิจิตอลด้วยไอซีที รวมไปถึงการพัฒนาด้านบุคลากรของประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทที่ช่วยผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่ดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว โดยนับจากนี้ การพัฒนาของซิสโก้จะมองไปถึงยุคอินเทอร์เน็ต 4.0 หรือ Internet of Everything ที่ทุกสิ่งจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอุปกรณ์ประมาณ 1.5 พันล้านชิ้นที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ แต่เชื่อว่าอีก 6 ปีข้างหน้าจะมากกว่านี้เป็น 10 เท่า หรืออาจจะถึง 50 เท่า”

นายวัตสัน กล่าวว่า ส่วนนโยบายดิจิตอลอีโคโนมีของภาครัฐนั้นได้ประกาศ 5 องค์ประกอบสำคัญคือ 1.ฮาร์ด อินฟราสตรักเจอร์ 2.ซอฟต์ อินฟราสตรักเจอร์ 3. เซอร์วิส อินฟราสตรักเจอร์ 4.ดิจิตอล สกิล และอินโนเวชัน และ 5.ดิจิตอล โซไซตี ซึ่งซิสโก้พร้อมที่จะตอบสนองทุกองค์ประกอบ แต่คาดว่าในส่วนของฮาร์ด อินฟราสตรักเจอร์นั้น จะสามารถเข้าไปตอบสนองได้ดีที่สุด โดยซิสโก้ จะมีพาร์ตเนอร์อีโคซิสเต็มส์ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าถึงนโยบายดังกล่าวด้วย

โดยในปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของซิสโก้นั้นจะสามารถตอบสนองทั้งในด้านของเวอร์ชวลไลเซชัน คลาวด์คอมพิวติ้ง เน็ตเวิร์กกิ้ง คอลลาบอเรชัน ซิเคียวริตี รวมไปถึงเรื่องใหม่อย่างบิ๊ก ดาต้าและดาต้าอนาไลติก ซึ่งเรียกได้ว่าครบทุกองค์ประกอบของธุรกิจยุคใหม่ โดยขณะนี้ได้เริ่มที่จะพัฒนาพาร์ตเนอร์ให้สามารถตอบสนองต่อโครงสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของซิสโก้ให้มากขึ้น เพื่อให้เป็นไปในแนวทางที่จะสามารถตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ปัจจุบัน ซิสโก้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 20 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมา ได้ทำงานร่วมกับองค์กรภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา และหน่วยงานราชการในภูมิภาคเพื่อใช้ “เครือข่ายเป็นแพลตฟอร์ม” ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน และสังคม ที่ถือเป็นการช่วยให้ประเทศไทยสามารถทรานส์ฟอร์มไปสู่เศรษฐกิจดิจิตอลได้อย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของการพัฒนาบุคลากรนั้นที่ผ่านมาได้มีการให้ความรู้ทางด้านเครือข่ายอย่างโครงการเน็ตเวิร์กกิ้ง อคาเดมี เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เรียนทั่วโลก ซึ่งในส่วนของไทยนั้นนับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2541 ได้มีผู้เรียนทั้งหมด 34,960 ราย ผ่าน 45 สถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ

Company Related Link :
Cisco