xs
xsm
sm
md
lg

เลอโนโวพร้อมลุยธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ x86 หลังเข้าซื้อจากไอบีเอ็ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เลอโนโว” เผยผลการดำเนินงาน 3 ไตรมาสเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และคาดว่าจะโต 10% ทั้งปี ล่าสุด ซื้อกลุ่มธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ x86 จากไอบีเอ็มแล้วเสร็จ มาขยายศักยภาพในส่วนฮาร์ดแวร์ และเซอร์วิสขององค์กรให้กว้างขึ้น พร้อมพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้สามารถขยายการตลาดทุกผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น ชี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการแชร์ข้อมูลระหว่างกันของแต่ละหน่วยธุรกิจ ก่อนจะออกมาเป็นโซลูชันให้ทุกตลาดได้เลือกใช้ ชี้การควบรวมครั้งนี้ลูกค้าเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบ

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของเลอโนโวใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา มีการดำเนินงานที่ค่อนข้างน่าพอใจ ซึ่งในไตรมาสที่ 4 นี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น และจะทำให้ผลการดำเนินงานทั้งปีจะเป็นไปตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะโต 10% โดยล่าสุด ได้เข้าซื้อกิจการกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ x86 จากไอบีเอ็ม ซึ่งคาดว่าจะช่วยขยายศักยภาพของเลอโนโวให้กว้างมากขึ้นในส่วนผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ และเซอร์วิสขององค์กร

ปัจจุบัน เลอโนโวแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มในการทำตลาดทั่วโลก ประกอบด้วย กลุ่มพีซีบิสิเนส โมบายบิสิเนส เอ็นเทอร์ไพรซ์บิสิเนส และคลาวด์แอนด์อีโคซิสเต็มส์ ส่วนของไทยนั้นจะแบ่งเป็นพีซี โมบาย และเอนเทอร์ไพรซ์ ส่วนกลุ่มธุรกิจของคลาวด์นั้นต้องดูความพร้อมตลาดในไทยก่อน ซึ่งการเข้าซื้อในครั้งนี้จะช่วยให้เลอโนโวก้าวครองตำแหน่งผู้ผลิต และสร้างระบบแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และจะส่งผลให้เลอโนโวสามารถนำเสนอโซลูชัน ด้าน IT ได้ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับลูกค้าองค์กรเนื่องจากมีฐานข้อมูลที่กว้างกว่าเดิม

“เราได้นำบุคลากรทั้งวิศวกร การตลาด และบริการต่างๆ มาอยู่ภายใต้แบรนด์เลอโนโว เราจะทำให้ซิสเต็มส์ x กับบิสิเนสพาร์ตเนอร์ที่เรามีอยู่ให้สามารถขยายตัวได้มากขึ้น ซึ่งการลงทุนหลังจากนี้ เลอโนโวจะพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้สามารถขยายการตลาดทุกผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้น ซึ่งข้อดีของการควบรวมคือ เราได้อาร์แอนด์ดี นักวิจัย โปรแกรมเมอร์ และมีผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง และส่งผลทำให้เราขยายช่องทางใหม่ๆ ซึ่งในระยะยาวจะเป็นผลดี”

นายจีรวุฒิ กล่าวว่า การรวมตัวระหว่างกันในครั้งนี้ หากมีการควบรวมการทำงานกันได้เร็วขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้เลอโนโวได้มากขึ้น ซึ่งน่าจะเห็นผลได้ใน 1 ปี ข้างหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสนำผลิตภัฑณ์ต่างๆ มารวมกันเป็นโซลูชัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแชร์ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าที่แต่ละกลุ่มธุรกิจดูแลอยู่ให้กลายเป็นความร่วมมือระหว่างกัน จากเมื่อก่อนต่างคนต่างทำ

นอกจากนี้ เลอโนโวยังได้เตรียมออกโซลูชันสำหรับคอนซูเมอร์ เพื่อตอบสนองลูกค้ามีความต้องการที่ต่างกัน และอยากจะใช้โซลูชันที่ตอบโจทย์ในชีวิตประจำวัน และจะมีการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย และกิจกรรมทางการตลาด

ทั้งนี้ เลอโนโวได้มีการเตรียมแผนธุรกิจสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ x86 โดยจะเริ่มที่ลูกค้าองค์กร และขยายต่อไปถึงลูกค้าในกลุ่มอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งเลอโนโว มีศักยภาพที่เพียงพอทั้งในด้านการผลิต และประสบการณ์ซึ่งเห็นได้จากความสำเร็จของเราในปัจจุบันจากกลุ่มสินค้าตระกูล ThinkPad และพีซีโดยการเข้าซื้อกิจการกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ เลอโนโวจะเป็นผู้ดูแลเซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายของผลิตภัณฑ์ตระกูล System x, BladeCenter, Flex System Blade เซิร์ฟเวอร์และสวิตช์, ระบบ x86-based Flex อินทริเกรเต็ด, เซิร์ฟเวอร์และซอฟแวร์ที่เกี่ยวข้องของ NeXtScale และ iDataPlex , ระบบเน็ตเวิร์กของ Blade ร่วมถึงการซ่อมบำรุง

นอกจากนี้ ยังได้ตกลงเป็นพันธมิตรคู่ค้า โดยเลอโนโวจะเป็นผู้ผลิตสินค้าแบบ OEM และช่วยจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไอบีเอ็มในบางรุ่น เช่น สตอเรจตระกูล Storwize, Linear Tape Open (LTO), IBM Flash storage arrays อุปกรณ์ในระบบซอฟแวร์ของไอบีเอ็ม เช่น Smart Cloud, General Parallel File System และ Platform Computing โซลูชัน ในขณะเดียวกัน ไอบีเอ็มจะยังคงดูแลระบบปฏิบัติการบางส่วนให้แก่เลอโนโว และลูกค้าจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

นายจีรวุฒิ กล่าวว่า เลอโนโวยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเจรจาซื้อธุรกิจ Motorola Mobility จาก Google หากผลการเจรจาด้านธุรกิจประสบความสำเร็จ จะส่งผลให้เลอโนโวเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ในขณะเดียวกัน ก็จะสร้างความแข็งเกร่งให้แก่เลอโนโวในการครองตำแหน่งผู้ผลิต smart connected devices ซึ่งร่วมถึงพีซี แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก

Company Relate Link :
Lenovo
กำลังโหลดความคิดเห็น