Edited - “เลอโนโว” ตั้งเป้าขายสมาร์ทโฟนในไทยเพิ่มกว่า 1 ล้านเครื่อง ขณะที่ตลาดพีซีทั่วโลกวูบลงกว่า 20% ชูกลยุทธ์สินค้าตรงความต้องการ เร่งขยายช่องทางขาย ลุยส่งผู้เชี่ยวชาญลงร้านค้า พร้อมระบุ 5 เทรนด์ใหม่ของเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ช่วงปีที่ผ่านมาเลอโนโวมียอดขายทั่วโลกเป็นอันดับหนึ่งในตลาดพีซี ขณะที่ถ้าเป็นตลาดพีซีกับแท็บเล็ตเป็นอันดับสอง และถ้าหากเป็นพีซี แท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟน จะอยู่ในอันดับ 3 โดยมียอดขายเติบโตต่อเนื่องกว่า 13 ไตรมาส เติบโตราว 300% และสำหรับยอดขายทุกกลุ่มสินค้าของเลอโนโวในปีที่ผ่านมาเติบโตกว่า 12% สวนทางกับตลาดที่ไอดีซีคาดการณ์ว่าตลาดรวมไอทีจะวูบลงกว่า 20% การเติบโตของเลอโนโวครั้งนี้จึงเป็นการสวนทางกับตลาดอย่างเห็นได้ชัด โดยไอดีซีคาดการณ์ตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้จะมีจำนวนประมาณ 12 ล้านเครื่อง
สำหรับในปี 2557 เลอโนโวตั้งเป้ายอดขายสมรร์ทโฟนในประเทศไทยกว่า 1 ล้านเครื่อง หวังปรับอันดับในประเทศไทยให้สูงขึ้น ด้วยการเพิ่มงบประมาณด้านการโฆษณาโดยเน้นรูปแบบ TVC หรือหนังโฆษณา และสื่อโทรทัศน์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าอย่างชัดเจน เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการจำหน่ายสินค้าจากเดิมที่มีอยู่ทั้งในส่วนของช่องทางขายโทรศัพท์มือถือ และช่องทางขายพีซีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเร่งส่งทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำผู้ซื้อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้ามากขึ้น รวมทั้งความโดดเด่นของตัวสินค้าที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถวางตลาดสมาร์ทโฟนอีกไม่น้อยกว่า 50 รุ่นทั่วโลก
แม้ว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจอาจจะส่งผลในแง่ของบรรยากาศการซื้อขายบ้าง แต่ก็น่าจะเกิดปัจจัยบวกจากโครงการแท็บเล็ตของภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดประสบการณ์การใช้งานแท็บเล็ตที่มากขึ้น ทั้งในส่วนของการศึกษาและการเรียนรู้ของผู้ปกครองเอง จนส่งผลให้เกิดการยกระดับความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากขึ้นต่อไปในอนาคต ซึ่งเลอโนโวเชื่อว่าการเกิดประสบการณ์การใช้งานจะกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยได้แบ่งสัดส่วนการทำตลาดระหว่างกลุ่มองค์กรและกลุ่มผู้บริโภคอยู่ที่ 30 ต่อ 70 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน
ในส่วนของสมาร์ทโฟนนั้นถือว่าเลอโนโวเป็นผู้เล่นรายใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาด โดยมีเครื่องจำหน่ายในระดับราคาตั้งแต่ 2,500-15,000 บาททำตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา ส่วนปีนี้จะมีเครื่องราคาต่ำในระดับราคาประมาณ 2,000 บาทเข้ามาจำหน่าย ซึ่งจะส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องระดับล่างของเลอโนโวขยับสูงขึ้นได้
สำหรับแนวโน้มของตลาดในอนาคตอาจจะเกิดการรวมตัวกันของกลุ่มสินค้าแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊กก็เป็นได้ เนื่องจากระดับความสามารถที่ควบรวมกันจนกลายเป็นสินค้ากลุ่มไฮบริดขึ้น ซึ่งคาดว่าเทรนด์ของการออกแบบเทคโนโลยีแห่งอนาคตจะแบ่งเป็น 5 กลุ่มดังต่อไปนี้
1. อุปกรณ์ต้องเหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด ด้วยประสบการณ์และพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกอุปกรณ์เพื่อตอบสนองการใช้งานได้อย่างสะดวกทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานจึงเป็นส่วนสำคัญต่อการออกแบบอุปกรณ์ในอนาคต ทั้งนี้ความสะดวกดังกล่าวจะต้องควบรวมความปลอดภัยและแอปพลิเคชันที่พร้อมสำหรับการทำงานได้อย่างลงตัว 2. อัปเกรดอุปกรณ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการใช้งานหลากหลายฟังก์ชันภายในเครื่องเดียว จะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการใช้งานมากขึ้น และส่งผลให้ธุรกิจเกิดประสิทธิภาพได้สูงสุด
3. เข้าเป็นส่วนหนึ่งของคลาวด์ โดยการใช้งานระบบคลาวด์ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม โดยเชื่อว่าธุรกิจขนาดกลางจะมีการลงทุนระบบคลาวด์เพิ่มกว่า 20% 4. ประสิทธิภาพที่มากกว่ากับยุคของอุปกรณ์พกพา โดยเชื่อว่าในปี 2014 การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือจะเข้ามาแทนที่การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนพีซี ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น 5. การลงทุนในการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยเทคโนโลยีใหม่ของสามประสานโมบาย-โซเชียล-คลาวด์ จะช่วยทำให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็กสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อรักษาลูกค้าที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย
Company Related Link :
Lenovo
