วันที่ 20 สิงหาคม ตามเวลาในประเทศไทยคือวันที่กูเกิล (Google) มักเฉลิมฉลองโอกาสการเข้าตลาดหุ้นครั้งแรกซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 19 สิงหาคม 2004 สำหรับปีนี้ สถิติล่าสุดบันทึกว่ามูลค่าหุ้นกูเกิลนั้นเติบโตมากกว่า 1,200% เมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายหุ้นครั้งแรก (IPO) ซึ่งเป็นผลจากนานานวัตกรรมที่กูเกิลสร้างสรรค์และต่อยอดทางธุรกิจบนนวัตกรรมเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม
เพื่อร่วมฉลองบทบาทบริษัทมหาชนของกูเกิลในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เราจะไปร่วมตามรอย 10 นวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่หลายคนยกนิ้วว่าเป็นผลงานการสร้างสรรค์ที่ทำให้การใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอลนั้นง่ายขึ้นอย่างแท้จริง
10 Google Search เสิร์ชอัจฉริยะ
สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงกูเกิลคือบริการกูเกิลเสิร์ช (Google Search) บริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่ช่วยให้ชาวโลกได้รับรู้รายละเอียดเรื่องราวที่สงสัยในเวลาไม่กี่วินาที ล่าสุด "เอมิต สิงหล (Amit Singhal)" ประธานฝ่ายบริการ Google Search ของกูเกิลออกมาให้ข้อมูลว่ากูเกิลได้ปรับปรุงระบบ Google Search ไปมากกว่า 890 จุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
ตัวเลข 890 จุดนั้นถือว่ามากกว่าสถิติที่กูเกิลเคยประกาศมา ในปี 2009 กูเกิลเคยประกาศว่าได้ปรับปรุงความสามารถของ Google Search ไปราว 350-400 จุด ก่อนที่ปี 2010 กูเกิลจะขยับจำนวนเพิ่มขึ้นมาเป็น 550 จุด
วันนี้ Google Search ถูกพัฒนาให้ระบบสามารถเดาใจผู้ใช้ ทำให้นักท่องเน็ตไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์คำค้นหาแบบเต็มขั้นทุกครั้ง ที่สำคัญ ความสามารถของระบบแปลภาษาในกูเกิลทรานสเลท (Google Translate) ก็ถูกพัฒนาขึ้นมากกว่าการเป็นบริการทดลองใช้เมื่อ 10 ปีก่อน โดยสถิติล่าสุดพบว่าข้อความมากกว่า 80 ภาษาถูกส่งมาแปลบน Google Translate มากกว่า 1 พันล้านครั้งต่อวัน
9 Self-Driving Car รถขับเคลื่อนตัวเอง
หลังจากทดสอบมานานหลายปี กูเกิลตัดสินใจเปิดตัวต้นแบบรถขับเคลื่อนตัวเองที่ไม่ต้องการคนขับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้รับไฟเขียวให้สามารถใช้งานบนถนนเปิดได้จริง ซึ่งแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่โลกก็เชื่อว่าความฝันในการเดินทางแห่งอนาคตที่แสนสะดวกสบายจะไม่ไกลเกินเอื้อม
รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองของกูเกิลไม่เพียงจะช่วยให้ผู้พิการหรือผู้สูงอายุมีอิสระในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทั่วไปวัยทำงานด้วย โดยจากวิดีโอสาธิต รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองของกูเกิลจะทำให้เจ้าของไม่ต้องวุ่นวายกับการวนหาที่จอดรถ เพราะรถสามารถจอดและส่งเจ้าของก่อนจะไปทำภารกิจอื่นต่อได้ทันที ขณะเดียวกัน คุณแม่ที่มีลูกน้อยจะสามารถรับมือกับเจ้าตัวเล็กได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องวุ่นวายบังคับพวงมาลัยหรือเสี่ยงกับความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น
ที่สำคัญ นักร่ำเมรัยจะสามารถดื่มได้เต็มที่เพราะมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้กูเกิลระบุว่ายังไม่เคยพบอุบัติเหตุเลยตลอดการทดสอบรถที่ดำเนินมาเป็นระยะทางรวมมากกว่า 5 แสนไมล์ในขณะนี้
8 Google Maps เพชรฆาตแผนที่กระดาษ
ก่อนที่โลกจะรู้จักบริการกูเกิลแม็ปส์ (Google Maps) นักเดินทางมักต้องเสี่ยงหลงทางกับแผนที่กระดาษที่มักไม่ให้ข้อมูลทันสมัยตามเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่หลายคนทำในยุคนั้นคือการถามทางคนแปลกหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าหนทางที่แสดงบนแผนที่กระดาษนั้นถูกต้องจริงหรือไม่
กระทั่ง Google Maps ให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2005 กูเกิลจัดการดึงภาพถ่ายผ่านดาวเทียม และข้อมูลการเดินรถ (driving directions) มาผนึกเข้าด้วยกันกับบริการแผนที่ ซึ่งหลังจากนั้น 2 ปี กูเกิลเริ่มเพิ่มข้อมูลจราจร และขยายข้อมูลให้ครอบคลุมรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ชาวออนไลน์หลายคนนึกถึง Google Maps ทันทีที่ต้องการเดินทาง
ขณะนี้ แอปพลิเคชัน Google Maps App สามารถบอกเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวหรือ Turn-by-Turn Navigation แถมยังบอกข้อมูลการเปลี่ยนขบวนรถหรือ Transit Directions และเปิดให้ผู้ใช้สร้างความมั่นใจก่อนการเดินทางด้วยการชมวิวถนนจริงจาก Street View ด้วย
7 Project Loon เน็ตในถิ่นทุรกันดาร
กูเกิลมีความเชื่อว่าเรือเหาะทรงบอลลูนจะสามารถแก้ปัญหาความด้อยโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่โครงข่ายหรือ infrastructure เข้าไม่ถึง ดังนั้นมิถุนายนปี 2013 กูเกิลจึงประกาศแนวคิดโครงการปล่อยบอลลูนขึ้นฟ้า เพื่อให้บอลลูนนี้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งจะทำให้ประชากรโลกในถิ่นทุรกันดารราว 2 ใน 3 สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
โครงการนี้มีชื่อเรียกว่า "โปรเจ็กต์ลูน (Project Loon)" แม้กูเกิลจะยอมรับว่าบอลลูนไฮเทคนี้มีข้อกำจัดทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่ก็ถือว่าทีมงานโครงการนี้สามารถแก้ไขปัญหาและทำให้โครงการนี้มีความก้าวหน้ามากขึ้นทุกขณะที่ทดสอบ
6 Google Glass แว่นอัจฉริยะ
กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา แว่นอัจฉริยะต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างกูเกิลกลาส (Google Glass) ตกเป็นข่าวว่ารุ่นสีขาวนั้นถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากกูเกิลกลาสถูกวางจำหน่ายวันเดียวที่เพจกูเกิลด้วยราคา 1,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48,000 บาท
เหตุที่ทำให้ชาวออนไลน์สนใจสั่งซื้อแว่น Google Glass เวอร์ชัน “Explorer Edition” ถล่มทลายคือคุณสมบัติเบื้องต้นของแว่น ที่ผู้สวมจะได้เห็นหน้าจอความละเอียด 640x360 พิกเซล (เทียบเท่าหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 25 นิ้ว ที่อยู่ห่างจากผู้ใช้ราว 8 ฟุต) หน้าจอนี้จะสามารถบอกข้อมูลเรียลไทม์ประกอบทุกสถานที่ที่ผู้ใช้เดินไปหรือมองผ่านแว่น ตัวแว่นมาพร้อมกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p หน่วยความจำภายใน 16GB ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ด้วยการเอ่ยคำสั่ง ตัวเครื่องรองรับไวไฟ 802.11b/g ภายในมีเครือข่ายข้อมูลไร้สายบลูทูธ พร้อมระบบปล่อยสัญญาณเสียงผ่านกระดูกสู่หูส่วนในของผู้สวมใส่
แว่นแห่งอนาคตนี้เชื่อว่าจะเป็นอีกอุปกรณ์ที่ช่วยให้ชาวโลกมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่ดีกว่า
5 Chrome สุดยอดโปรแกรมเปิดเว็บ
5 ปีหลังจากเปิดตัว วันนี้โปรแกรมเปิดเว็บไซต์ของกูเกิลอย่าง "โครม (Chrome)" นั้นมีผู้ใช้มากกว่า 750 ล้านคนทั่วโลก จุดเด่นที่หลายคนชื่นชอบคือความรวดเร็วและใช้งานง่ายเหนือโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์อื่น
วันนี้ Chrome เปิดให้ผู้ใช้สามารถอ่านอีเมลจากบริการ "จีเมล (Gmail)" ได้แบบออฟไลน์, รวมถึงตารางนัดหมายในบริการ Calendar และเอกสารออนไลน์ ซึ่งล้วนทำให้บัลลังก์ของอดีตแชมป์อย่างไออี (Internet Explorer) ของไมโครซอฟท์ต้องสะเทือน
4 Google Street View เดินทางผ่านหน้าจอ
“กูเกิลสตรีทวิว (Google Street View)” เป็นคุณสมบัติยอดนิยมบน Google Maps ซึ่งเปิดให้บริการแล้วใน 56 ประเทศทั่วโลก ด้วยฟีเจอร์นี้ผู้ใช้สามารถสำรวจตรวจสอบพื้นที่ตามจุดต่างๆ ผ่านภาพพาโนรามาในระดับถนนของประเทศต่างๆ โดยผู้ใช้จะสามารถดูภาพถ่ายได้ด้วยการซูมเข้าไปที่ระดับต่ำสุดบนแผนที่ของกูเกิล ขณะเดียวกันก็สามารถชมวิวสวยจากสถานที่ท่องเที่ยวได้แบบเต็มหน้าจอโดยไม่ต้องเดินทาง
สิ่งที่กูเกิลทำคือการตั้งทีมงานเพื่อขับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องแบบพิเศษ ทีมงานจะออกเดินทางและเก็บภาพถ่ายระดับถนนในพื้นที่สาธารณะ โดยมักเริ่มจากเมืองหลวงก่อนขยายไปในพื้นที่สำคัญของประเทศ วิธีนี้ทำให้ชาวออนไลน์สามารถมองเห็นวิวถนนของหลายประเทศในแบบ 360 องศาชนิดไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน
3 Project Ara สมาร์ทโฟนตัวต่อ
ต้นปีที่ผ่านมา กูเกิลให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันว่าบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ผู้ใช้จะสามารถเติมต่อและประกอบได้เองภายในปีหน้าหรือ 2015 โดยยืนยันว่ากูเกิลจะมุ่งพัฒนาให้สมาร์ทโฟนนี้สามารถวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 50 เหรียญสหรัฐเท่านั้น หรือประมาณ 1,650 บาท
โครงการนี้เป็นที่รู้จักดีในนาม "โปรเจ็กต์ เอรา (Project Ara)" จุดประสงค์คือการสร้างสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในและภายนอกได้เอง ซึ่งชิ้นส่วนนี้จะสามารถถอดประกอบได้ง่ายเหมือนตัวต่อเลโก้ (Lego) ของคุณหนู
Project Ara นั้นเป็นโครงการที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนตั้งแต่ปี 2012 ภายใต้การดูแลของแผนกกลุ่มงานโปรเจ็กต์และเทคโนโลยีก้าวหน้า Advanced Technology and Projects Group ของโมโตโรลา โดยกลุ่มงานนี้เป็นกลุ่มที่กูเกิลขอยกเว้น ไม่นำไปรวมกลุ่มกับธุรกิจสมาร์ทโฟนของโมโตโรลาที่กูเกิลจำหน่ายให้เลอโนโวด้วยมูลคค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การปิดกั้นผู้ใช้เป็นที่มาของจุดประสงค์สำคัญของโครงการนี้ เพราะ Project Ara ต้องการมอบอำนาจให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสเลือกว่าต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อการทำงานใด แล้วจึงเลือกฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมที่สุด ทั้งหน่วยประมวลผลหลากระดับ และกล้องดิจิตอลความละเอียดหลายความคมชัด ซึ่งหากวันหนึ่งผู้ใช้ต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพดีกว่า ก็สามารถเลือกเปลี่ยนเฉพาะกล้องโดยไม่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ สามารถลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ใช้สามารถออกแบบรูปร่างและสีวัสดุประกอบเครื่องได้ตามชอบ
แนวคิดนี้เชื่อว่าจะทำให้วงการสมาร์ทโฟนโลกถึงจุดเปลี่ยนแน่นอน
2 Android ระบบปฏิบัติการบันลือโลก
กูเกิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ในฐานะแพลตฟอร์มการทำงานสำหรับอุปกรณ์พกพามาตรฐานเปิดครั้งแรกในปี 2007 หลังจากนั้น กูเกิลจับมือกับนักพัฒนาทั้งภายในและภายนอกบริษัท ร่วมกันพัฒนาศักยภาพจนทำให้แอนดรอยด์กลายเป็นระบบปฏิบัติการอันดับ 1 ในตลาดอุปกรณ์ไอทีพกพาขณะนี้
คาดว่ารัศมีของแอนดรอยด์จะเกริกไกรกว่านี้ เพราะเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กูเกิลเพิ่งเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แวร์ (Android Wear) ซึ่งเชื่อขนมกินได้ว่าระบบปฏิบัติการนี้จะถูกพัฒนาต่อเนื่องจนทำให้นาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้อื่นๆหันมาใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มากขึ้น
1 Google Drive บริการฝากไฟล์นานาประโยชน์
ที่ผ่านมา กูเกิลไดร์ฟ (Google Drive) บริการฝากไฟล์ออนไลน์ของกูเกิลนั้นจัดเต็มแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเอกสารออนไลน์ ทั้งบริการสไลด์ (Slides) เพื่อการสร้างสไลด์นำเสนอภาพเคลื่อนไหว, ด็อกส์ (Docs) เพื่อการสร้างเอกสารงานพิมพ์ และชีตส์ (Sheets) เพื่อการสร้างแผ่นงานคำนวณ ทั้งหมดนี้ทำให้ชาวออนไลน์ทั่วโลกสามารถมีเครื่องมือสร้างเอกสารออนไลน์ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมบนเครื่อง
บริการสร้างไฟล์เอกสารออนไลน์ของกูเกิลนั้นถูกใจผู้ใช้ไม่น้อย เพราะทุกบริการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สร้างไฟล์ที่เพื่อนในกลุ่มจะสามารถร่วมกันแก้ไขหรือเพิ่มข้อมูลพร้อมกันแบบเรียลไทม์ ทุกการเปลี่ยนแปลงในเอกสารจากบริการบน Google Drive ทั้ง Slides, Docs และ Sheets ล้วนจะถูกบันทึกหรือ save แบบอัตโนมัติในบริการ Drive โดยที่ผู้ใช้และผองเพื่อนสามารถเรียกดูประวัติการเปลี่ยนแปลงเอกสารย้อนหลังได้อย่างเสรี
ว่าแล้วก็ขอบคุณกูเกิลจากใจ ที่ทำให้ชีวิตชาวโลกง่ายขึ้นอย่างแท้จริง
เพื่อร่วมฉลองบทบาทบริษัทมหาชนของกูเกิลในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เราจะไปร่วมตามรอย 10 นวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่หลายคนยกนิ้วว่าเป็นผลงานการสร้างสรรค์ที่ทำให้การใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิตอลนั้นง่ายขึ้นอย่างแท้จริง
10 Google Search เสิร์ชอัจฉริยะ
สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงกูเกิลคือบริการกูเกิลเสิร์ช (Google Search) บริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ที่ช่วยให้ชาวโลกได้รับรู้รายละเอียดเรื่องราวที่สงสัยในเวลาไม่กี่วินาที ล่าสุด "เอมิต สิงหล (Amit Singhal)" ประธานฝ่ายบริการ Google Search ของกูเกิลออกมาให้ข้อมูลว่ากูเกิลได้ปรับปรุงระบบ Google Search ไปมากกว่า 890 จุดในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา
ตัวเลข 890 จุดนั้นถือว่ามากกว่าสถิติที่กูเกิลเคยประกาศมา ในปี 2009 กูเกิลเคยประกาศว่าได้ปรับปรุงความสามารถของ Google Search ไปราว 350-400 จุด ก่อนที่ปี 2010 กูเกิลจะขยับจำนวนเพิ่มขึ้นมาเป็น 550 จุด
วันนี้ Google Search ถูกพัฒนาให้ระบบสามารถเดาใจผู้ใช้ ทำให้นักท่องเน็ตไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์คำค้นหาแบบเต็มขั้นทุกครั้ง ที่สำคัญ ความสามารถของระบบแปลภาษาในกูเกิลทรานสเลท (Google Translate) ก็ถูกพัฒนาขึ้นมากกว่าการเป็นบริการทดลองใช้เมื่อ 10 ปีก่อน โดยสถิติล่าสุดพบว่าข้อความมากกว่า 80 ภาษาถูกส่งมาแปลบน Google Translate มากกว่า 1 พันล้านครั้งต่อวัน
9 Self-Driving Car รถขับเคลื่อนตัวเอง
หลังจากทดสอบมานานหลายปี กูเกิลตัดสินใจเปิดตัวต้นแบบรถขับเคลื่อนตัวเองที่ไม่ต้องการคนขับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ได้รับไฟเขียวให้สามารถใช้งานบนถนนเปิดได้จริง ซึ่งแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่โลกก็เชื่อว่าความฝันในการเดินทางแห่งอนาคตที่แสนสะดวกสบายจะไม่ไกลเกินเอื้อม
รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองของกูเกิลไม่เพียงจะช่วยให้ผู้พิการหรือผู้สูงอายุมีอิสระในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทั่วไปวัยทำงานด้วย โดยจากวิดีโอสาธิต รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองของกูเกิลจะทำให้เจ้าของไม่ต้องวุ่นวายกับการวนหาที่จอดรถ เพราะรถสามารถจอดและส่งเจ้าของก่อนจะไปทำภารกิจอื่นต่อได้ทันที ขณะเดียวกัน คุณแม่ที่มีลูกน้อยจะสามารถรับมือกับเจ้าตัวเล็กได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องวุ่นวายบังคับพวงมาลัยหรือเสี่ยงกับความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น
ที่สำคัญ นักร่ำเมรัยจะสามารถดื่มได้เต็มที่เพราะมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้กูเกิลระบุว่ายังไม่เคยพบอุบัติเหตุเลยตลอดการทดสอบรถที่ดำเนินมาเป็นระยะทางรวมมากกว่า 5 แสนไมล์ในขณะนี้
8 Google Maps เพชรฆาตแผนที่กระดาษ
ก่อนที่โลกจะรู้จักบริการกูเกิลแม็ปส์ (Google Maps) นักเดินทางมักต้องเสี่ยงหลงทางกับแผนที่กระดาษที่มักไม่ให้ข้อมูลทันสมัยตามเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่หลายคนทำในยุคนั้นคือการถามทางคนแปลกหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าหนทางที่แสดงบนแผนที่กระดาษนั้นถูกต้องจริงหรือไม่
กระทั่ง Google Maps ให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2005 กูเกิลจัดการดึงภาพถ่ายผ่านดาวเทียม และข้อมูลการเดินรถ (driving directions) มาผนึกเข้าด้วยกันกับบริการแผนที่ ซึ่งหลังจากนั้น 2 ปี กูเกิลเริ่มเพิ่มข้อมูลจราจร และขยายข้อมูลให้ครอบคลุมรูปแบบการเดินทางที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้ชาวออนไลน์หลายคนนึกถึง Google Maps ทันทีที่ต้องการเดินทาง
ขณะนี้ แอปพลิเคชัน Google Maps App สามารถบอกเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวหรือ Turn-by-Turn Navigation แถมยังบอกข้อมูลการเปลี่ยนขบวนรถหรือ Transit Directions และเปิดให้ผู้ใช้สร้างความมั่นใจก่อนการเดินทางด้วยการชมวิวถนนจริงจาก Street View ด้วย
7 Project Loon เน็ตในถิ่นทุรกันดาร
กูเกิลมีความเชื่อว่าเรือเหาะทรงบอลลูนจะสามารถแก้ปัญหาความด้อยโอกาสในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่โครงข่ายหรือ infrastructure เข้าไม่ถึง ดังนั้นมิถุนายนปี 2013 กูเกิลจึงประกาศแนวคิดโครงการปล่อยบอลลูนขึ้นฟ้า เพื่อให้บอลลูนนี้กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งจะทำให้ประชากรโลกในถิ่นทุรกันดารราว 2 ใน 3 สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้
โครงการนี้มีชื่อเรียกว่า "โปรเจ็กต์ลูน (Project Loon)" แม้กูเกิลจะยอมรับว่าบอลลูนไฮเทคนี้มีข้อกำจัดทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่ก็ถือว่าทีมงานโครงการนี้สามารถแก้ไขปัญหาและทำให้โครงการนี้มีความก้าวหน้ามากขึ้นทุกขณะที่ทดสอบ
6 Google Glass แว่นอัจฉริยะ
กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา แว่นอัจฉริยะต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างกูเกิลกลาส (Google Glass) ตกเป็นข่าวว่ารุ่นสีขาวนั้นถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากกูเกิลกลาสถูกวางจำหน่ายวันเดียวที่เพจกูเกิลด้วยราคา 1,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 48,000 บาท
เหตุที่ทำให้ชาวออนไลน์สนใจสั่งซื้อแว่น Google Glass เวอร์ชัน “Explorer Edition” ถล่มทลายคือคุณสมบัติเบื้องต้นของแว่น ที่ผู้สวมจะได้เห็นหน้าจอความละเอียด 640x360 พิกเซล (เทียบเท่าหน้าจอความละเอียดสูงขนาด 25 นิ้ว ที่อยู่ห่างจากผู้ใช้ราว 8 ฟุต) หน้าจอนี้จะสามารถบอกข้อมูลเรียลไทม์ประกอบทุกสถานที่ที่ผู้ใช้เดินไปหรือมองผ่านแว่น ตัวแว่นมาพร้อมกล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 720p หน่วยความจำภายใน 16GB ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ด้วยการเอ่ยคำสั่ง ตัวเครื่องรองรับไวไฟ 802.11b/g ภายในมีเครือข่ายข้อมูลไร้สายบลูทูธ พร้อมระบบปล่อยสัญญาณเสียงผ่านกระดูกสู่หูส่วนในของผู้สวมใส่
แว่นแห่งอนาคตนี้เชื่อว่าจะเป็นอีกอุปกรณ์ที่ช่วยให้ชาวโลกมีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่ดีกว่า
5 Chrome สุดยอดโปรแกรมเปิดเว็บ
5 ปีหลังจากเปิดตัว วันนี้โปรแกรมเปิดเว็บไซต์ของกูเกิลอย่าง "โครม (Chrome)" นั้นมีผู้ใช้มากกว่า 750 ล้านคนทั่วโลก จุดเด่นที่หลายคนชื่นชอบคือความรวดเร็วและใช้งานง่ายเหนือโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์อื่น
วันนี้ Chrome เปิดให้ผู้ใช้สามารถอ่านอีเมลจากบริการ "จีเมล (Gmail)" ได้แบบออฟไลน์, รวมถึงตารางนัดหมายในบริการ Calendar และเอกสารออนไลน์ ซึ่งล้วนทำให้บัลลังก์ของอดีตแชมป์อย่างไออี (Internet Explorer) ของไมโครซอฟท์ต้องสะเทือน
4 Google Street View เดินทางผ่านหน้าจอ
“กูเกิลสตรีทวิว (Google Street View)” เป็นคุณสมบัติยอดนิยมบน Google Maps ซึ่งเปิดให้บริการแล้วใน 56 ประเทศทั่วโลก ด้วยฟีเจอร์นี้ผู้ใช้สามารถสำรวจตรวจสอบพื้นที่ตามจุดต่างๆ ผ่านภาพพาโนรามาในระดับถนนของประเทศต่างๆ โดยผู้ใช้จะสามารถดูภาพถ่ายได้ด้วยการซูมเข้าไปที่ระดับต่ำสุดบนแผนที่ของกูเกิล ขณะเดียวกันก็สามารถชมวิวสวยจากสถานที่ท่องเที่ยวได้แบบเต็มหน้าจอโดยไม่ต้องเดินทาง
สิ่งที่กูเกิลทำคือการตั้งทีมงานเพื่อขับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องแบบพิเศษ ทีมงานจะออกเดินทางและเก็บภาพถ่ายระดับถนนในพื้นที่สาธารณะ โดยมักเริ่มจากเมืองหลวงก่อนขยายไปในพื้นที่สำคัญของประเทศ วิธีนี้ทำให้ชาวออนไลน์สามารถมองเห็นวิวถนนของหลายประเทศในแบบ 360 องศาชนิดไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน
3 Project Ara สมาร์ทโฟนตัวต่อ
ต้นปีที่ผ่านมา กูเกิลให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันว่าบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ผู้ใช้จะสามารถเติมต่อและประกอบได้เองภายในปีหน้าหรือ 2015 โดยยืนยันว่ากูเกิลจะมุ่งพัฒนาให้สมาร์ทโฟนนี้สามารถวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 50 เหรียญสหรัฐเท่านั้น หรือประมาณ 1,650 บาท
โครงการนี้เป็นที่รู้จักดีในนาม "โปรเจ็กต์ เอรา (Project Ara)" จุดประสงค์คือการสร้างสมาร์ทโฟนที่ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในและภายนอกได้เอง ซึ่งชิ้นส่วนนี้จะสามารถถอดประกอบได้ง่ายเหมือนตัวต่อเลโก้ (Lego) ของคุณหนู
Project Ara นั้นเป็นโครงการที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณชนตั้งแต่ปี 2012 ภายใต้การดูแลของแผนกกลุ่มงานโปรเจ็กต์และเทคโนโลยีก้าวหน้า Advanced Technology and Projects Group ของโมโตโรลา โดยกลุ่มงานนี้เป็นกลุ่มที่กูเกิลขอยกเว้น ไม่นำไปรวมกลุ่มกับธุรกิจสมาร์ทโฟนของโมโตโรลาที่กูเกิลจำหน่ายให้เลอโนโวด้วยมูลคค่า 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
การปิดกั้นผู้ใช้เป็นที่มาของจุดประสงค์สำคัญของโครงการนี้ เพราะ Project Ara ต้องการมอบอำนาจให้ผู้ใช้ได้มีโอกาสเลือกว่าต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อการทำงานใด แล้วจึงเลือกฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมที่สุด ทั้งหน่วยประมวลผลหลากระดับ และกล้องดิจิตอลความละเอียดหลายความคมชัด ซึ่งหากวันหนึ่งผู้ใช้ต้องการสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพดีกว่า ก็สามารถเลือกเปลี่ยนเฉพาะกล้องโดยไม่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์เครื่องใหม่ สามารถลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ใช้สามารถออกแบบรูปร่างและสีวัสดุประกอบเครื่องได้ตามชอบ
แนวคิดนี้เชื่อว่าจะทำให้วงการสมาร์ทโฟนโลกถึงจุดเปลี่ยนแน่นอน
2 Android ระบบปฏิบัติการบันลือโลก
กูเกิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ในฐานะแพลตฟอร์มการทำงานสำหรับอุปกรณ์พกพามาตรฐานเปิดครั้งแรกในปี 2007 หลังจากนั้น กูเกิลจับมือกับนักพัฒนาทั้งภายในและภายนอกบริษัท ร่วมกันพัฒนาศักยภาพจนทำให้แอนดรอยด์กลายเป็นระบบปฏิบัติการอันดับ 1 ในตลาดอุปกรณ์ไอทีพกพาขณะนี้
คาดว่ารัศมีของแอนดรอยด์จะเกริกไกรกว่านี้ เพราะเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กูเกิลเพิ่งเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แวร์ (Android Wear) ซึ่งเชื่อขนมกินได้ว่าระบบปฏิบัติการนี้จะถูกพัฒนาต่อเนื่องจนทำให้นาฬิกาอัจฉริยะและอุปกรณ์ไอทีสวมใส่ได้อื่นๆหันมาใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มากขึ้น
1 Google Drive บริการฝากไฟล์นานาประโยชน์
ที่ผ่านมา กูเกิลไดร์ฟ (Google Drive) บริการฝากไฟล์ออนไลน์ของกูเกิลนั้นจัดเต็มแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเอกสารออนไลน์ ทั้งบริการสไลด์ (Slides) เพื่อการสร้างสไลด์นำเสนอภาพเคลื่อนไหว, ด็อกส์ (Docs) เพื่อการสร้างเอกสารงานพิมพ์ และชีตส์ (Sheets) เพื่อการสร้างแผ่นงานคำนวณ ทั้งหมดนี้ทำให้ชาวออนไลน์ทั่วโลกสามารถมีเครื่องมือสร้างเอกสารออนไลน์ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมบนเครื่อง
บริการสร้างไฟล์เอกสารออนไลน์ของกูเกิลนั้นถูกใจผู้ใช้ไม่น้อย เพราะทุกบริการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สร้างไฟล์ที่เพื่อนในกลุ่มจะสามารถร่วมกันแก้ไขหรือเพิ่มข้อมูลพร้อมกันแบบเรียลไทม์ ทุกการเปลี่ยนแปลงในเอกสารจากบริการบน Google Drive ทั้ง Slides, Docs และ Sheets ล้วนจะถูกบันทึกหรือ save แบบอัตโนมัติในบริการ Drive โดยที่ผู้ใช้และผองเพื่อนสามารถเรียกดูประวัติการเปลี่ยนแปลงเอกสารย้อนหลังได้อย่างเสรี
ว่าแล้วก็ขอบคุณกูเกิลจากใจ ที่ทำให้ชีวิตชาวโลกง่ายขึ้นอย่างแท้จริง