xs
xsm
sm
md
lg

แซสชี้โฆษณาในทีวีดิจิตอลแข่งเดือด แนะใช้อะนาไลติกช่วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แซสชี้สัดส่วนการโฆษณาในสื่อทีวีกำลังจะเปลี่ยนไปจากการเข้ามาของดิจิตอลทีวี โดยผู้ลงโฆษณาจะต้องคิดและเลือกมากขึ้นในขณะที่อัตราค่าใช้จ่ายจะลดลง แนะน้องใหม่ในวงการดึงลูกค้าเข้ามาชมด้วยคอนเทนต์และหาจุดที่น่าสนใจ ดึงผู้บริโภคเข้ามามากๆ ก่อให้เกิดผลดีต่อธุรกิจ พร้อมส่งแซส อะนาไลติก ช่วยจัดการด้านข้อมูลสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ตั้งเป้าลูกค้าในกลุ่มทีวีดิจิตอลไว้ 3 ราย

นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในเมืองไทยในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังดูฟรีทีวีอยู่ หากเทียบจำนวนผู้ชมระหว่างฟรีทีวี กับเคเบิลทีวีแล้วจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 62% และ 38% ตามลำดับ เช่นเดียวกับทางด้านการลงโฆษณาเฉพาะสื่อประเภททีวีที่เป็นเอเยนซีส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญต่อสื่อนี้ในอัตราที่สูง โดยมีการลงโฆษณาผ่านสื่อฟรีทีวีถึง 86% ในขณะที่มีการลงโฆษณาในเคเบิลเพียง 14% เท่านั้น ซึ่งการเกิดขึ้นของสื่อใหม่อย่างดิจิตอลทีวีจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนไปเช่นกัน

“เดิมฟรีทีวีในเมืองไทยมีเพียงไม่กี่ช่อง ทำให้ผู้ที่จะโฆษณาก็จะไม่ต้องเลือกมากเพราะแต่ละช่องก็จะมีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่หลังจากการเข้ามาของดิจิตอลทีวีแล้วก็ทำให้เกิดตัวเลือกมากขึ้นเนื่องจากมีสื่อเกิดขึ้นมาก ในขณะที่ประชากรมีจำนวนเท่าเดิมจึงต้องเลือกที่จะลงสื่อใดสื่อหนึ่งมากขึ้นเพื่อให้คุ้มกับค่าโฆษณาที่เสียไป นอกจากนี้ในส่วนของอัตราค่าโฆษณายังมีแนวโน้มที่ลดลง”

ดังนั้นดิจิตอลทีวีซึ่งถือว่าเป็นสื่อใหม่จึงควรที่จะนำเสนอคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และหาจุดที่จะดึงให้คนเข้ามาดูให้ได้มากที่สุดเพื่อดึงให้โฆษณามาลง เพราะในขณะนี้หากคอนเทนต์ยังฟรีอยู่คนก็จะสนใจดูมากเช่นกัน ซึ่งการโฆษณาก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจทีวี ยิ่งทำให้รายได้มากขึ้นเท่าไรก็จะส่งผลดีต่อดิจิตอลทีวีมากขึ้นเท่านั้น

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า การมีทีวีดิจิตอลทำให้ตลาดขยายตัวเพิ่มมากขึ้น แต่การจะประสบความสำเร็จของผู้ประกอบการหน้าใหม่ต้องคำนึงใน 3 เรื่อง คือ 1. ต้องสามารถจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้ เพราะข้อมูลที่มาจากลูกค้ามีค่ามาก 2. มีคอนเทนต์ที่ตรงใจลูกค้า โดยแต่ละช่วงเวลาผู้ชมจะมีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรจัดหาคอนเทนต์ที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านรายได้ได้ดี 3. ต้องมีความฉลาดที่จะใช้ข้อมูล ซึ่งในประเทศอื่นๆ มีการนำบิสิเนสอะนาไลติก (Business Analytic) เข้ามาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ทั้งนี้ การนำข้อมูลมาวิเคราะห์จะช่วยเสริมไม่ให้ตัดสินใจผิดพลาด และสามารถเลือกที่จะนำคอนเทนต์มานำเสนอได้อย่างเหมาะสม และก่อให้เกิดรายได้ โดยผู้ประกอบการจะสามารถรับรู้ได้ว่าลูกค้าดูรายการไหน และช่วงไหนมีคนเข้าชมมากที่สุด เพื่อนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาจัดการเพื่อสร้างรายได้เพิ่มจากลูกค้าเหล่านี้ นอกจากนี้ การนำข้อมูลลูกค้ามาจัดการจะช่วยในการจัดกลุ่มลูกค้า เพื่อหาโปรโมชันที่ตรงใจและนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มนั้นๆ ได้

นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการรายใดที่มีการเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นจำนวนมากก็จะสามารถจัดการกับข้อมูลเหล่านั้นได้มีประโยชน์มากขึ้น การที่ทำให้มีผู้ชมมากขึ้น โฆษณาต่างๆ ก็จะเข้ามา เหมาะสมกับผู้ประกอบการใหม่ๆ นอกจากนี้ บิซิเนสอะนาไลติกยังสามารถคิดและวิเคราะห์ข้อมูลภายในขององค์กรได้ว่าขณะนี้ต้นทุนเป็นอย่างไร จะควบคุมอย่างไร และจะช่วยในการคิดได้ว่าจะต้องลงทุนเพิ่มอย่างไรให้เหมาะสมกับบุคลากรที่มีอยู่
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด
“เดิมธุรกิจดิจิตอลทีวีอาจจะมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 5-6 ปี แต่หากนำบิสิเนสอะนาไลติกเข้ามาช่วยจัดการด้านคอนเทนต์ต่างๆ แล้วนำมาวิเคราะห์แล้ว จากกรณีศึกษาพบว่าจะช่วยเพิ่มรายได้มากกว่า 18% หรือคือการนำโซลูชันนี้มาใช้แล้วจะทำให้คุ้มทุนเร็วขึ้น 1 ปี และนับจากนั้นก็จะกลายเป็นกำไรที่จะได้เร็วและมากกว่าผู้ที่ไม่ใช้การวิเคราะห์ข้อมูล”

นายทวีศักดิ์กล่าวว่า สำหรับในเมืองไทยยังไม่มีการใช้บิสิเนสอะนาไลติกเหล่านี้เหมือนที่ต่างประเทศใช้ เพราะของไทยถือเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ประกอบการ ซึ่งธุรกิจทีวีนี้อยู่ในกลุ่มคอมมูนิเคชันของแซส โดยให้บริการโซลูชันนี้ในต่างประเทศแล้วกว่า 1,000 รายในยุโรป และอเมริกา และใช้กันมากว่า 5 ปีแล้ว ส่วนเมืองไทยปีนี้แซสตั้งเป้าลูกค้าแซส อะนาไลติกในกลุ่มดิจิตอลทีวีไว้ 3 ราย จากลูกค้าใหม่ทั้งหมดที่ตั้งไว้ 24 ราย

ทั้งนี้ การใช้ แซส อะนาไลติก นั้นหากผู้ประกอบการดิจิตอลทีวียังมีลูกค้าไม่มากนักก็เสียค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท จากนั้นสามารถขยายไปเป็นขนาดใหญ่ตามจำนวนผู้ชมได้ เพราะแซส อะนาไลติก เป็นโซลูชันที่สามารถเพิ่มเติมได้อย่างต่อเนื่องเมื่อใช้มาแล้วระยะหนึ่งแต่ต้องการเพิ่มและขยายไปสู่หน่วยงานอื่นๆ ได้ โดยเน้นกลุ่มรีเทล เช่น ธุรกิจที่มีเชนร้านอาหารเยอะๆ มีรายได้หลัก 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และกลุ่มพลังงาน

“องค์กรใหญ่ๆ ยังมีการลงทุนอยู่แต่อาจชะลอไปบ้าง เช่นลดขนาดลงหน่อย แต่อีกหลายองค์กรก็จะมองว่าเป็นโอกาสที่จะขยาย ส่วนขนาดกลางและเล็กมีผลกระทบโดยตรง สำหรับแซสยังไม่ได้โฟกัสในตลาดราชการมากเท่าใดนัก จึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบ ดังนั้นขณะนี้เราเลยต้องเพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับลูกค้าว่าเทคโนโลยีอะนาไลติกมีผลดีอย่างไร และจะช่วยเหลือพวกเขาได้อย่างไร ผ่านการสัมมนา นอกจากนี้ยังมีการนำผู้เชี่ยวชาญของแต่ละอุตสาหกรรมเข้ามาพบปะกับลูกค้า เราไม่ได้เน้นการขายซอฟต์แวร์หรือเทคโนโลยี แต่เราจะเน้นการเข้าไปเป็นที่ปรึกษามากกว่า”
กำลังโหลดความคิดเห็น