ส่งไม้ต่อเอ็มดีใหม่ “บราเดอร์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย)” เผยวิสัยทัศน์ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดเครื่องพรินเตอร์ และจักรเย็บผ้า ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า พร้อมรับการเติบโตของธุรกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้เป็น 30% จากปัจจุบัน 20%
นายโทโมยูกิ ฟูจิโมโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 พ.ย. 2556 แทนนายทาคาโอะ ชิมะ ที่ครบวาระ 5 ปี กล่าวถึงนโยบายหลักที่วางไว้หลังจากเข้ารับตำแหน่ง คือ การผลักดันให้บราเดอร์ ประเทศไทย กลายเป็นผู้นำในทุกกลุ่มสินค้าด้านพรินเตอร์ และจักรเย็บผ้า ผ่าน 3 แนวทางหลักคือ การเพิ่มอัตราการเติบโตเป็น 2 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า รักษาระดับมาตรฐานด้านงานบริการ และการสร้างสรรค์กิจกรรมทางสังคม (CSR) อย่างต่อเนื่อง
“เพื่อให้สามารถเติบโตได้เป็น 2 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า บราเดอร์จะเน้นการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า ประกอบกับการนำสินค้าที่เหมาะกับการใช้งานในประเทศไทยเพิ่มเข้ามาจำหน่ายด้วย”
ส่วนในมุมของการนำธุรกิจใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย มองว่าถ้ามีโอกาสที่เห็นว่าตลาดสามารถเติบโตได้ก็จะนำเข้ามา ซึ่งในญี่ปุ่นก็จะมีธุรกิจอย่างเว็บคอนเฟอร์เรนซ์ ที่เริ่มทำตลาดและมีอัตราการเติบโตที่ดี
ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดเครื่องพรินเตอร์ในตลาดรวมช่วงครึ่งปีแรกของบราเดอร์อยู่ที่ 20% คิดเป็นอันดับ 3 ในตลาด โดยแบ่งเป็นในกลุ่มอิงก์เจ็ตมัลติฟังก์ชันราว 60% เลเซอร์มัลติฟังก์ชัน 26% แต่ด้วยความที่บราเดอร์ไม่มีเครื่องพิมพ์ดอทเมททริกซ์ ทำให้เมื่อเฉลี่ยรวมแล้วจะอยู่ที่ราว 20%
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของตลาดเครื่องพิมพ์ในไทยส่วนของตลาดองค์กรจะอยู่ที่เลเซอร์มัลติฟังก์ชันเป็นหลัก ส่วนในกลุ่มคอนซูเมอร์ก็จะเป็นเครื่องอิงค์เจ็ทมัลติฟังก์ชัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
“ด้วยความที่ปัจจุบันบราเดอร์ไม่ได้เป็นผู้นำในตลาด ทำให้มีช่องทางในการเติบโตอยู่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาบราเดอร์มีอัตราการเติบโตราว 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และจนถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 15% ในขณะที่ตลาดพรินเตอร์มีอัตราการเติบโตเพียง 5%”
ขณะที่ในส่วนของตลาดโลกบราเดอร์มองว่ากลุ่มประเทศกำลังเติบโตอย่างในภูมิภาคเอเชีย จะกลายเป็นตลาดสำคัญ โดยจากเดิมสัดส่วนรายได้ของบราเดอร์จะมาจากฝั่งอเมริกาและยุโรปราว 80% และเอเชียราว 20% แต่เชื่อว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า รายได้จากทางฝั่งเอเชียจะเพิ่มเป็น 30%
“ในปี 2558 บราเดอร์จะมีรายได้รวมในตลาดโลกราว 2.25 แสนล้านบาท จากเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.55 แสนล้านบาท”
ส่วนในประเทศไทยช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาบราเดอร์จะเน้นไปที่แง่ของการบริการหลังการขาย โดยปัจจุบันมีศูนย์ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ 149 ศูนย์ ครอบคลุม 76 จังหวัด ไม่นับรวมกับศูนย์บริการของบราเดอร์ 5 แห่ง คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ระยอง และหาดใหญ่
นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมาบราเดอร์ได้ทำการสำรวจความพึงพอใจ ปรากฏว่าศูนย์บริการทั้ง 5 แห่งได้รับความพึงพอใจอยู่ที่ 95.4% ในขณะที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายได้รับความพึงพอใจอยู่ที่ 96% และบริการออนไซต์เซอร์วิสในกลุ่มลูกค้าองค์กรได้รับความพึงพอใจอยู่ที่ 97% ทำให้เห็นได้ว่าบราเดอร์มีความมุ่งมั่นที่การเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
Company Relate Link :
Brother