ใครจะเชื่อว่าช่องสัญญาณความถี่ 2.1GHz ที่กำลังถูกใช้กับ 3G ใหม่ในไทยนั้น จะมีช่องว่างให้ 4G LTE ถือกำเนิดขึ้นได้จากฝีมือของทรูมูฟ เอช พร้อมประกาศตนเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่ทำตลาด 4G LTE เชิงพาณิชย์เป็นรายแรก
แน่นอนหลายคนอาจเกิดความสงสัยถึงการได้มาของเทคโนโลยี 4G LTE บนคลื่น 2.1GHz แบบเชิงพาณิชย์ ไปถึงเรื่องความเร็วจากการใช้งานจริงของ 4G LTE โดยทรูมูฟ เอช ว่าผลทดสอบจะเป็นอย่างไร มาพิสูจน์พร้อมกัน
**4G LTE บนคลื่น 2.1GHz มาได้อย่างไร**
อย่างแรกต้องทราบก่อนว่าใบอนุญาตความถี่ 2.1GHz ไม่ได้จำกัดเรื่องเทคโนโลยีที่ใช้วิ่งบนความถี่ดังกล่าวได้ ทรูมูฟ เอช จึงมีแนวคิดจะนำระบบ 4G LTE Band 1 ที่มีความถี่ตรงกับใบอนุญาต 2.1GHz มาทำ 4G ควบคู่ไปกับ 3G ใหม่ ด้วยเหตุผลของเทคโนโลยีที่สดใหม่กว่า 3G เดิม และส่วนหนึ่งมาจากแผนการตลาดที่ต้องการใช้ความสดใหม่ของเทคโนโลยีในการดึงลูกค้าจากระบบเก่าหรือเครือข่ายอื่นให้มาใช้งานเครือข่ายของตน ที่ถึงแม้คลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการทำ 4G LTE ในไทยคือ 1800 MHz ที่ต้องรอการประมูลในอนาคต
แต่ถึงอย่างไรการมาของ 4G LTE 2.1GHz เจ้าแรกของไทยสามารถสร้างความสนใจให้กับผู้ใช้มือถือจำนวนมากและพร้อมจะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าก่อนใคร
**แพกเกจใหม่โดนใจหรือชวนสับสน**
ทรูมูฟ เอชเปิดแพกเกจให้บริการ 4G LTE เป็น 2 ส่วน โดยในครั้งแรกของการเปิดให้บริการจะบังคับให้ลูกค้าทรูมูฟ เอชเดิมต้องเปลี่ยนแพกเกจใหม่ถึงจะสามารถใช้งาน 4G LTE ได้แก่ iSmart ที่เป็นแพกเกจโทร.พ่วงเน็ตเริ่มต้นที่ 299 บาท โทร.ได้ 100 นาที อินเตอร์เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด แต่ติด FUP (ความเร็วสูงสุด) แค่ 500 MB ไปถึงราคาแพงสุด 899 บาท โทร.ได้ 500 นาที อินเทอร์เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด แต่ติด FUP (ความเร็วสูงสุด) ที่ 3 GB อย่างไรก็ตามเมื่อติด FUP แล้วต้องการใช้ความเร็ว 4G LTE ทางทรูก็มีแพกเกจเสริมให้จ่าย 350 บาท แลกกับเน็ตความเร็วสูง 1 GB เป็นทางเลือกให้
หลังจากติด FUP ตามปริมาณข้อมูลที่กำหนดไว้ความเร็วสูงสุดสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตในแพกเกจ iSmart จะลดลงเหลือเพียง 64 กิโลบิตต่อวินาที ในส่วนแพกเกจที่สอง iNet เน้นอินเทอร์เน็ตเป็นหลักเริ่มต้นที่ 399 บาท พร้อมเล่นอินเทอร์เน็ต 1GB ไปถึงระดับราคาแพงสุด 899 บาท อินเทอร์เน็ต 3G/4G ไม่จำกัด แต่ติด FUP (ความเร็วสูงสุด) 5GB โดยหลังจากติด FUP ตามปริมาณข้อมูลที่กำหนดไว้ความเร็วสูงสุดสำหรับใช้งานอินเทอร์เน็ตในแพกเกจ iNet จะลดลงเหลือเพียง 128 กิโลบิตต่อวินาที
แต่กลายเป็นว่าช่วงกลางเดือนมิถุนายนทรูมูฟมีการปรับเปลี่ยนแพกเกจใหม่เป็นลูกค้าเก่าทรูมูฟ เอช (850MHz) สามารถใช้โปรเดิมและเปิดบริการ 4G พ่วงไปกับการเปลี่ยนเป็นยูซิม (Usim) ใหม่ ส่วนแพกเกจ 3G และ 4G 2.1GHz จะเน้นไปที่การเปิดเบอร์ใหม่กับบริษัท เรียล ฟิวเจอร์ ที่ยังต้องรอการขยายเสาส่งสัญญาณ 2.1GHz ให้ครอบคลุมมากกว่านี้ เพราะปัจจุบัน 3G และ 4G LTE 2.1GHz มีพื้นที่ให้บริการอยู่เพียงใจกลางกรุงเทพฯ และสิ้นปีกับ 15 จังหวัดใหญ่เท่านั้น
เพราะฉะนั้นลูกค้าทรูมูฟก็คงต้องสับสนกับแพกเกจ 4G และ 3G 2.1GHz อย่างนี้ต่อไปจนกว่าเสาสัญญาณ 2.1GHz จะครอบคลุม พร้อมกับที่บริษัท เรียล ฟิวเจอร์สามารถลืมตาอ้าปากอย่างเต็มตัวเหมือนครั้งสมัย เรียล มูฟ กับ 3G+ เคยเป็นมาแล้ว แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ทรูมูฟยังหัวใสจัดระบบโรมมิ่งสัญญาณอัตโนมัติระหว่างระบบเก่ากับระบบใหม่มาให้ลูกค้ากันสับสนไว้
**ทดสอบความเร็ว**
สำหรับอุปกรณ์ทดสอบทรูมูฟ เอช 4G LTE 2.1GHz คือ ไอโฟน 5 โมเดล A1429 ที่อัปเดต Carrier เป็นเวอร์ชัน 14.1 เพื่อเปิดออปชัน LTE เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากสเปกของไอโฟน 5 จะรองรับความเร็ว LTE ในส่วนดาวน์โหลดสูงสุด 100 เมกะบิตต่อวินาที โดยการทดสอบจะอยู่ในเขต สยาม ชิดลม ถนนเพชรบุรี และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พบว่า ความเร็วส่วนดาวน์โหลดค่อนข้างคงที่มากเพราะไม่ว่าพื้นที่ไหนความเร็วจะอยู่ ประมาณ 29-34 เมกะบิตต่อวินาทีโดยตลอดจะมีช่วงเที่ยงของวันที่ 25 มิถุนายนที่ทีมงานทดสอบได้ความเร็วส่วนดาวน์โหลดเหลือเพียง 14.12 เมกะบิตต่อวินาทีเท่านั้น ส่วนความเร็วขาอัปโหลดจะยืนพื้นที่ประมาณ 7 เมกะบิตต่อวินาที และเมื่อลองปิด 4G LTE ไปใช้งาน 3G 2.1GHz ในโซนพื้นที่เดียวกัน พบว่าความเร็วดาวน์โหลดอยู่ที่ประมาณ 12 เมกะบิตต่อวินาที ส่วนขาอัปโหลดอยู่ที่ประมาณ 2 เมกะบิตต่อวินาที ในขณะที่การทดสอบความเร็วขาดาวน์โหลดของทรูมูฟ เอช 3G+ 850MHz บริเวณเดียวกับการทดสอบผ่านคลื่น 2.1GHz พบว่าความเร็วขาดาวน์โหลดต่ำเพียง 2-7 เมกะบิตต่อวินาที ส่วนขาอัปโหลดอยู่ที่ประมาณ 1.04 เมกะบิตต่อวินาทีเท่านั้น
**ทรูมูฟ เอช 4G LTE เร็วชัวร์หรือมั่วนิ่ม**
จากแพกเกจที่ยังลูกผีลูกคนไปถึงการทดสอบความเร็วจากการใช้งานจริงโดยทีมงานผู้จัดการไซเบอร์ ยอมรับว่า 4G LTE ของ ทรูมีความเร็วที่ดีและสามารถใช้งานจริง เช่น อัปโหลดรูปภาพไปยังเว็บไซต์หรืออัปโหลดคลิปวิดีโอได้อย่างไม่มีปัญหา ถึงแม้ความเร็วจริงที่ได้จะได้ไม่เกิน 50 เมกะบิตอย่างที่ทรูได้คุยไว้ในช่วงเปิดตัว 4G ใหม่ๆ แต่ก็ถือว่าความเร็วดาวน์โหลดปัจจุบันที่ทำได้ในเรต 20-30 เมกะบิตต่อวินาทีสามารถใช้งานด้านดาต้าได้หลากหลายขึ้นกว่าตอนเป็น 3G ปกติเสียอีก
แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นจากแพกเกจส่วนของ Fair Usage Policy (FUP) ที่ในปัจจุบันทรูตั้งความเร็วไว้ในแพกเกจต่ำจนไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์ของ 4G LTE ที่โหมโฆษณาเน้นเรื่องความบันเทิงเป็นหลัก เพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าผู้ใช้ที่สนใจใช้งาน 4G LTE จะต้องเน้นเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ใช้อัตราปริมาณรับส่งข้อมูลค่อนข้างสูง แต่ในแพกเกจ 4G LTE เชิงพาณิชย์ของทรูมูฟ เอช เองกลับกำหนด FUP ในแพกเกจราคาสูงสุดเพียง 5GB แถมความเร็วหลังติด FUP ยังตกไปอยู่ประมาณ 64-128 กิโลบิตต่อวินาทีเท่านั้น แล้วอย่างนี้ 4G LTE จะมีประโยชน์อันใด เมื่อใช้งานไปแค่เพียงดาวน์โหลดคลิป HD จากยูทูปไม่เกิน 5 คลิปแล้วติด Fair Usage Policy จนความเร็วที่ได้ไม่ต่างจาก EDGE เพราะความจริง FUP สำหรับ 4G LTE ควรจะเริ่มต้นที่ 5-10 GB ขึ้นไปน่าจะเหมาะสมมากกว่า
ยิ่งเมื่อรวมกับค่าบริการ 4G ที่จะมีการเรียกเก็บในอนาคตอีก 99 บาท (ปัจจุบันให้ใช้ฟรี) เมื่อรวมกับค่าแพกเกจแล้วก็เท่ากับว่าผู้ใช้ที่ต้องการทั้ง 4G LTE และ 3G ของทรูมูฟ เอชจะต้องเสียค่าแพกเกจเริ่มต้นที่ 398 - 998 บาท (ไม่รวม vat) แต่มี 4G และ 3G ใหม่ให้ใช้ได้เต็มความเร็วแค่เพียงหยิบมือ ก็ดูไม่คุ้มค่าเงินแถมเอาเปรียบผู้บริโภคพอสมควรในเรื่องความเร็วหลังติด FUP ที่ควรมีการหารือกับ กสทช. ใหม่เพื่อแยก FUP 3G กับ 4G LTE ออกจากกันให้ชัดเจนเนื่องจากจุดประสงค์การใช้งานค่อนข้างแตกต่างกัน และการเก็บเงินเพิ่ม 99 บาทในอนาคตจะดูยุติธรรมขึ้นถ้ามีการปรับแพกเกจใหม่ให้ดูเหมาะสม
เรื่องนี้ก็คงต้องฝากเป็นการบ้านให้ทรูไปคิดให้รอบคอบถึงการกำหนดแพกเกจ 4G LTE ใหม่ แน่นอนปัจจุบันโครงการ 4G LTE ในไทยกำลังอยู่ในระยะแรกของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและเป็นความหวังแรกของประเทศไทยกับการมาของ 4G LTE ให้ทัดเทียมกับต่างชาติ ยังมีเวลาอีกเป็นปีกว่าการประมูลคลื่นความถี่ 4G 1800 MHz จะเกิดขึ้น ทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่ใช้ช่องว่างของคลื่น 2.1GHz มาทำสัญญาณ 4G LTE เชิงพาณิชย์รายแรกจะเป็นเช่นไรในวันที่ผู้บริโภคมีทางเลือก 4G LTE มากขึ้นในอนาคต ต้องติดตามกันต่อไป
