“ทีโอที” ผู้วางโครงข่าย 3G รายแรกของประเทศ ทุ่มงบประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อขยายโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G ระยะที่ 2 พร้อมเร่งเดินหน้าเปิดให้บริการ 4G ในพื้นที่ที่มีความต้องการใช้บริการข้อมูลเป็นจำนวนมาก อีกทั้งคิดยุทธศาสตร์บุกตลาดในพื้นที่ 76 จังหวัด และเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ด้วยแพกเกจราคาถูกเอาใจฐานลูกค้าเดิม
นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินงานในโครงการเปิดให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ TOT3G ในระยะที่ 1 ว่ามีจำนวนสถานีฐานที่ต้องทำการติดตั้งทั้งหมด 5,320 สถานีฐาน ซึ่งในปัจจุบันได้ทำการติดตั้งและเปิดให้บริการแล้วจำนวน 4,000 สถานีฐาน และนโยบายในปีนี้ทีโอทีมีแผนที่จะขยาย 3G ในระยะที่ 2 โดยใช้เทคโนโลยี HSPA+ (High Speed Packet Access Plus) เป็นหลัก
ในส่วนพื้นที่ที่มีความต้องการใช้บริการข้อมูลเป็นจำนวนมาก อย่างย่านใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ ทางทีโอทีจะนำคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz มาทำการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เพื่ออัพเกรดให้เป็น 4G โดยใช้เทคโนโลยี LTE (Long Term Evolution) ซึ่งได้ทำการทดลองเปิดให้บริการ 4G ไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ลานพาร์คพารากอน สามารถวัดความเร็วได้สูงถึง 70 Mbps และจะทยอยเปิดให้ทดลองใช้บริการจำนวน 200 สถานีฐานในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน และแนวรถไฟฟ้า BTS ต่อไป ซึ่งโครงการนี้ใช้วงเงินงบประมาณในการดำเนินงานกว่า 30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทีโอทีได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินงาน มาบุกตลาดในลักษณะการให้บริการ “ซิมที่ 2” อันเนื่องมาจากปัญหาด้านการลงทุน และสถานีฐานยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเน้นการให้บริการด้านข้อมูลเป็นหลัก เนื่องจากการให้บริการ Voice มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง จากผู้ให้บริการหลัก 3 รายในตลาด ซึ่งบริการซิมที่ 2 นี้ จะเป็นการทำตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัดเป็นหลัก
โดยการผนวกบริการ 3G เข้ากับบริการอื่นๆ ของทีโอที เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ ที่ต้องการใช้บริการ 3G ด้วยแพกเกจราคาถูกสุดเพียงเดือนละ 299 บาท ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต 3G ได้ไม่จำกัดบนความเร็วสูงสุด ในปริมาณข้อมูลไม่เกิน 2GB และเมื่อใช้ข้อมูลครบ 2GB จะถูกปรับลดความเร็วลงเหลือไม่เกิน 384 Kbps
นายยงยุทธกล่าวย้ำว่า “ลูกค้าที่อยู่ภายใต้โครงข่ายของทีโอทีทั้ง 76 จังหวัดรวมทั้งกรุงเทพฯ จะได้พบกับโปรโมชันที่ตอบสนองความต้องการในบริการมากขึ้นอย่างแน่นอน จึงขอความร่วมมือว่าคุณภาพดีๆ แบบนี้ ท่านเลือกใช้เราเถอะครับ”
ทั้งนี้ ทีโอทีได้กำหนดกลยุทธ์ธุรกิจแบบขายส่งบริการให้กับพันธมิตรรวม 5 ราย ได้แก่ สามารถบริษัทสามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด บริษัท เอ็มคอนซัลท์เอเซีย จำกัด และบริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด เพื่อเป็นการเข้ามาช่วยทีโอทีทำการตลาดและเป็นการเพิ่มทางเลือกในส่วนโปรโมชันให้แก่ผู้ใช้บริการด้วย
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)