ตามไปดูกรณีศึกษาน่าสนใจที่จะทำให้ทุกคนเห็นว่าเครือข่ายสังคมคนทำงานอย่าง "LinkedIn" สามารถเสริมภาพลักษณ์องค์กรได้ดีอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งเทคนิกเหล่านี้สามารถนำไปใช้ได้จริงทั้งในองค์กรและชาวออนไลน์ทั่วโลก
***เพิ่มความเป็นมืออาชีพด้วยการตลาดวิธีใหม่ใน LinkedIn
โดย อินทราณี เตชะวิจิตรวงศ์ (@intranee)
LinkedIn เป็นเว็บไซต์ Social Network สำหรับกลุ่มอาชีพที่เน้นการสร้างเครือข่ายหรือ Network ด้านการทำงานในสาขาอาชีพต่างๆ ซึ่งในเว็บไซต์ จะเน้นข้อมูล Profile ประวัติการทำงานและประสบการณ์ต่างๆ โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านคน จาก 200 ประเทศ (ประเทศที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด คือ สหรัฐ อเมริกา และรองลงมาคือ อินเดีย)
จุดประสงค์หลักของเว็บไซต์นี้ คือให้ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจะสามารถสร้างรายการที่ติดต่อของผู้คนที่พวกเขารู้จักและเชื่อถือในการทำธุรกิจ รายการนี้จะให้ชื่อเรียกว่า "Connections" ซึ่งผู้ใช้สามารถเชิญใครก็ได้ (ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ LinkedIn หรือไม่) เข้ามาเป็น connection
ขณะเดียวกัน สมาชิกจะสามารถสร้างข้อมูลประวัติการทำงาน และผลงานต่าง ๆ ได้ เรียกว่ามีของอะไรก็สามารถนำมาโชว์ได้หมด
LinkedIn จึงเหมาะใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการหาคนเข้าทำงานในตำแหน่งสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทในสหรัฐจำนวนมากต่างก็ใช้ช่องทางนี้ในการสรรหาบุคคลเข้ามารับตำแหน่งงานสำคัญ ด้วยความเชื่อว่าช่องทางนี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ดีกว่าวิธีการดั้งเดิม ที่การหางานในระดับสูงมักต้องใช้การเชื้อเชิญและบอกต่อกันเท่านั้น
นอกจากการสรรหาบุคลากร LinkedIn ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดจากการแนะนำของสมาชิกในเครือข่ายที่เรารู้จักอีกด้วย จุดนี้ในแง่ของแบรนด์และบริษัท LinkedIn ก็เป็นอีกช่องทางในการสร้างแบรนด์ และทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีและดูเป็นมืออาชีพ
ยกตัวอย่างเช่น Dell บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ชื่อดังของโลก ที่มองเห็นโอกาสนี้แล้วลงมือสร้างกลุ่มสมาชิกใน LinkedIn ขึ้นมาหลายกลุ่ม โดยเปิดให้ผู้ใช้สามารถติดตามสถิติของสมาชิกในกลุ่มได้ว่า แต่ละคนมีอาชีพอะไร ทำงานตำแหน่งใด
สถิติของสมาชิก LinkedIn ในกลุ่มจะทำให้เห็นว่า 37% ของสมาชิกมีตำแหน่งเป็นวิศวกร หรือที่ปรึกษาทางด้าน IT
ข้อมูลที่น่าสนใจคือมากกว่า 70% ของสมาชิกในกลุ่มนี้ เป็นผู้บริหารระดับสูง และเจ้าของกิจการ
Dell ใช้วิธีโปรโมท เช่น Banner Ads ใน Group รวมถึงการค้นหา Profile และเรียนเชิญแบบส่วนบุคคล และสร้างหน้าเพจของบริษัทซึ่งใช้ในการรับสมัครพนักงานและแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ไปยังคนที่ Follow ทำให้การแจ้งข่าวมีความเป็นทางการและน่าเชื่อถือ เรียกว่ามืออาชีพมากกว่าที่จะใช้ Social media เช่น Facebook
Dell สามารถแสดงสินค้าและบริการของตัวเองในหน้าบริษัทได้ ทั้งหมดนี้ LinkedIn จึงเป็นช่องทางที่ทั้งลูกค้าและผู้ที่สนใจร่วมงานกับ Dell สามารถเข้ามาติดตามข่าวสารได้มากขึ้น ทำให้ยอดจำนวนคน Follow ของ Dell มีจำนวนสูงถึง 429,000 คน
ดังนั้น ถ้าคุณอยากให้แบรนด์ หรือแม้กระทั่งตัวคุณเอง ดูเป็นมืออาชีพ LinkedIn จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทุกคนควรจะสร้างไว้เช่นกัน ด้วยวิธีการ 4 ขั้นตอนนี้
1. ลงทะเบียน ชื่อ อาชีพ ตำแหน่งและบริษัท และยืนยันการสมัครผ่านอีเมล์ของคุณ
2. สร้าง Profile ของตัวคุณเอง ในชั้นตอนนี้ คุณสามารถกรอกข้อมูลประสบการณ์ได้เต็มที่
3. Add Connection คนที่คุณรู้จัก
4. เข้าร่วมกลุ่มที่คุณสนใจหรือ Follow บริษัทที่ชื่นชอบ
ข้อดีของการสมัคร LinkedIn นอกเหนือจากการสร้าง Connection ก็คือการเป็นช่องทางในการหางานจากบริษัทชั้นนำ หากคุณต้องการค้นหางานก็สามารถเข้าไปที่ Jobs แล้วค้นหาตำแหน่งที่คุณสนใจและสมัครได้เลย นอกจากนี้หากเป็นตำแหน่งที่คุณสนใจ หลายตำแหน่งก็สามารถ save ไว้ได้ด้วย
แต่ถ้าเป็นบริษัทแล้วต้องการรับสมัครพนักงาน จะต้องเสียค่าบริการให้กับ LinkedIn ในการประกาศรับสมัคร โดยเริ่มต้นประมาณ 6 พันบาท เพื่อทดลองในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง ถ้าเทียบกับการได้มาซึ่งพนักงานที่มีคุณภาพ เหมือนกับการแนะนำบอกต่อ
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นบริษัทหรือส่วนบุคคลก็ตาม สามารถเข้าร่วม LinkedIn เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือดูเป็นมืออาชีพ และอาจช่วยเพิ่มยอดขาย หรือโอกาสใหม่ให้ทุกคนได้ไม่ยากเลย
***เพิ่มความเป็นมืออาชีพด้วยการตลาดวิธีใหม่ใน LinkedIn
โดย อินทราณี เตชะวิจิตรวงศ์ (@intranee)
LinkedIn เป็นเว็บไซต์ Social Network สำหรับกลุ่มอาชีพที่เน้นการสร้างเครือข่ายหรือ Network ด้านการทำงานในสาขาอาชีพต่างๆ ซึ่งในเว็บไซต์ จะเน้นข้อมูล Profile ประวัติการทำงานและประสบการณ์ต่างๆ โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านคน จาก 200 ประเทศ (ประเทศที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด คือ สหรัฐ อเมริกา และรองลงมาคือ อินเดีย)
จุดประสงค์หลักของเว็บไซต์นี้ คือให้ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนจะสามารถสร้างรายการที่ติดต่อของผู้คนที่พวกเขารู้จักและเชื่อถือในการทำธุรกิจ รายการนี้จะให้ชื่อเรียกว่า "Connections" ซึ่งผู้ใช้สามารถเชิญใครก็ได้ (ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ LinkedIn หรือไม่) เข้ามาเป็น connection
ขณะเดียวกัน สมาชิกจะสามารถสร้างข้อมูลประวัติการทำงาน และผลงานต่าง ๆ ได้ เรียกว่ามีของอะไรก็สามารถนำมาโชว์ได้หมด
LinkedIn จึงเหมาะใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งในการหาคนเข้าทำงานในตำแหน่งสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทในสหรัฐจำนวนมากต่างก็ใช้ช่องทางนี้ในการสรรหาบุคคลเข้ามารับตำแหน่งงานสำคัญ ด้วยความเชื่อว่าช่องทางนี้ช่วยให้สามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ดีกว่าวิธีการดั้งเดิม ที่การหางานในระดับสูงมักต้องใช้การเชื้อเชิญและบอกต่อกันเท่านั้น
นอกจากการสรรหาบุคลากร LinkedIn ยังสร้างโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดจากการแนะนำของสมาชิกในเครือข่ายที่เรารู้จักอีกด้วย จุดนี้ในแง่ของแบรนด์และบริษัท LinkedIn ก็เป็นอีกช่องทางในการสร้างแบรนด์ และทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีและดูเป็นมืออาชีพ
ยกตัวอย่างเช่น Dell บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ชื่อดังของโลก ที่มองเห็นโอกาสนี้แล้วลงมือสร้างกลุ่มสมาชิกใน LinkedIn ขึ้นมาหลายกลุ่ม โดยเปิดให้ผู้ใช้สามารถติดตามสถิติของสมาชิกในกลุ่มได้ว่า แต่ละคนมีอาชีพอะไร ทำงานตำแหน่งใด
สถิติของสมาชิก LinkedIn ในกลุ่มจะทำให้เห็นว่า 37% ของสมาชิกมีตำแหน่งเป็นวิศวกร หรือที่ปรึกษาทางด้าน IT
ข้อมูลที่น่าสนใจคือมากกว่า 70% ของสมาชิกในกลุ่มนี้ เป็นผู้บริหารระดับสูง และเจ้าของกิจการ
Dell ใช้วิธีโปรโมท เช่น Banner Ads ใน Group รวมถึงการค้นหา Profile และเรียนเชิญแบบส่วนบุคคล และสร้างหน้าเพจของบริษัทซึ่งใช้ในการรับสมัครพนักงานและแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ไปยังคนที่ Follow ทำให้การแจ้งข่าวมีความเป็นทางการและน่าเชื่อถือ เรียกว่ามืออาชีพมากกว่าที่จะใช้ Social media เช่น Facebook
Dell สามารถแสดงสินค้าและบริการของตัวเองในหน้าบริษัทได้ ทั้งหมดนี้ LinkedIn จึงเป็นช่องทางที่ทั้งลูกค้าและผู้ที่สนใจร่วมงานกับ Dell สามารถเข้ามาติดตามข่าวสารได้มากขึ้น ทำให้ยอดจำนวนคน Follow ของ Dell มีจำนวนสูงถึง 429,000 คน
ดังนั้น ถ้าคุณอยากให้แบรนด์ หรือแม้กระทั่งตัวคุณเอง ดูเป็นมืออาชีพ LinkedIn จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทุกคนควรจะสร้างไว้เช่นกัน ด้วยวิธีการ 4 ขั้นตอนนี้
1. ลงทะเบียน ชื่อ อาชีพ ตำแหน่งและบริษัท และยืนยันการสมัครผ่านอีเมล์ของคุณ
2. สร้าง Profile ของตัวคุณเอง ในชั้นตอนนี้ คุณสามารถกรอกข้อมูลประสบการณ์ได้เต็มที่
3. Add Connection คนที่คุณรู้จัก
4. เข้าร่วมกลุ่มที่คุณสนใจหรือ Follow บริษัทที่ชื่นชอบ
ข้อดีของการสมัคร LinkedIn นอกเหนือจากการสร้าง Connection ก็คือการเป็นช่องทางในการหางานจากบริษัทชั้นนำ หากคุณต้องการค้นหางานก็สามารถเข้าไปที่ Jobs แล้วค้นหาตำแหน่งที่คุณสนใจและสมัครได้เลย นอกจากนี้หากเป็นตำแหน่งที่คุณสนใจ หลายตำแหน่งก็สามารถ save ไว้ได้ด้วย
แต่ถ้าเป็นบริษัทแล้วต้องการรับสมัครพนักงาน จะต้องเสียค่าบริการให้กับ LinkedIn ในการประกาศรับสมัคร โดยเริ่มต้นประมาณ 6 พันบาท เพื่อทดลองในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่แพง ถ้าเทียบกับการได้มาซึ่งพนักงานที่มีคุณภาพ เหมือนกับการแนะนำบอกต่อ
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นบริษัทหรือส่วนบุคคลก็ตาม สามารถเข้าร่วม LinkedIn เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือดูเป็นมืออาชีพ และอาจช่วยเพิ่มยอดขาย หรือโอกาสใหม่ให้ทุกคนได้ไม่ยากเลย
