ปิดไตรมาส 4 ปี 2555 “เลอโนโว” ขึ้นที่ 2 ตลาดพีซี พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดโตอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาส พร้อมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่หวังเจาะกลุ่มนักเรียน โปรซูเมอร์ เชื่อราคาเฉลี่ยโน้ตบุ๊กปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากโดนแท็บเล็ตแย่งตลาดล่าง ส่งผลดีลเลอร์ต้องปรับตัวให้ทันผู้บริโภคมากขึ้น
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวทางการทำตลาดพีซีของเลอโนโวในปีนี้ไว้ว่า เป้าหมายหลักคือการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส เท่ากับว่าถ้าตลาดพีซีมีการเติบโตเลอโนโวก็ต้องเติบโตกว่าตลาด หรือถ้าตลาดหดตัว เลอโนโวก็ต้องหดตัวให้น้อยกว่าตลาดเช่นเดียวกัน
“ยอดไตรมาส 4 ปี 2555 ที่ผ่านมาเลอโนโวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดรวมพีซีด้วยส่วนแบ่งตลาด 11% ขณะที่อันดับ 1 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 16% ขณะที่ถ้ามองเฉพาะตลาดโน้ตบุ๊กเลอโนโวจะอยู่ในอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่ง 10% ส่วนคอมพิวเตอร์แบบออลอินวันถือเป็นอันดับ 1 ที่ส่วนแบ่ง 25% โดยปีที่ผ่านมายอดรวมตลาดโน้ตบุ๊กลดลงประมาณ 10% เหลือประมาณ 2.2 ล้านเครื่อง"
ขณะที่ในตลาดทั่วโลก เลอโนโวขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มพีซีคอนซูเมอร์ด้วยส่วนแบ่งตลาด 13.4% แต่ถ้าเป็นตลาดรวมพีซีจะอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 16% รองจากอันดับ 1 ที่ 17% ซึ่งปีที่ผ่านมาตลาดพีซีทั่วโลกอยู่ที่ 350 ล้านเครื่อง ตกลงจากปีก่อนหน้า 8%
“หลายคนเป็นห่วงในเรื่องที่แท็บเล็ตจะมาแย่งตลาดโน้ตบุ๊ก แต่ในความเป็นจริงแล้ว แท็บเล็ตจะมาแทนที่โน้ตบุ๊กในช่วงระดับราคา 1 หมื่นบาท ดังนั้นจะทำให้ค่าเฉลี่ยของโน้ตบุ๊กสูงขึ้น ผู้บริโภคจะหันมาซื้อโน้ตบุ๊กในช่วงราคา 1.5-3 หมื่นบาทแทน ส่งผลให้ท้ายที่สุดก็จะเหมือนกับตลาดเดสก์ท็อบในช่วงที่โน้้ตบุ๊กเริ่มเข้ามาแทนที่”
นอกจากนี้ ทางเลอโนโวก็เตรียมพร้อมทำตลาดแท็บเล็ต และสมาร์ทโฟนในช่วงไตรมาส 2 เพียงแต่ทั้ง 2 ช่องทางถือเป็นช่องทางใหม่สำหรับเลอโนโว จึงคาดว่าจะยังไม่เข้ามาสร้างรายได้อย่างเป็นนัยสำคัญ เพราะราคาเฉลี่ยของทั้งสองผลิตภัณฑ์ต่ำกว่า
นายปวิณ วรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ ให้ข้อมูลเสริมว่า ในตลาดคอนซูเมอร์ ผู้บริโภคมีความต้องการหลากหลายมากขึ้น และเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของตนเอง ดังนั้นผลิตภัณฑ์จะเป็นในแนวลึกมากขึ้น ไม่ใช้เพียงเปลี่ยนซีพียู และขนาดหน้าจอเหมือนสมัยก่อน
ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายก็ต้องปรับตัวเข้าหาผู้บริโภคมากขึ้น เช่น การวางดิสเพลย์เพื่อจำหน่ายสินค้า ต้องมีการจัดแบ่งเป็นโซนให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้ว่าสามารถนำอุปกรณ์เสริมใดๆ ไปใช้งานควบคู่ด้วยได้
“ทางฝั่งเวนเดอร์มีการนำนวัตกรรมเข้ามาเติมไลน์ให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภคแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับทางช่องทางจำหน่ายว่าจะสามารถนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายแก่ผู้บริโภคได้หรือไม่ ซึ่งในปีนี้เลอโนโวก็มีแผนที่จะเพิ่มหน้าร้านคอนเซ็ปชวลสโตร์ สำหรับโชว์สินค้าเพียงอย่างเดียว เพื่อสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภคด้วย”
นายจีรวุฒิกล่าวต่อว่า นอกจากช่องทางจำหน่ายเดิมแล้ว ทางเลอโนโวก็มีแผนที่จะเข้าไปทำตลาดดิจิตอลมากขึ้น อย่างการให้บริการ หรือจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงให้ความสำคัญกับช่องทางจำหน่ายอื่นๆ อย่างการรวมตัวกันของสหกรณ์
ล่าสุดเลอโนโวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใน 2 กลุ่มลูกค้า คือ IdeaPad Y400 และ Y500 สำหรับคอเกมส์ที่ต้องการระบบมัลติมีเดียแบบเต็มประสิทธิภาพ และ IdeaPad Z400 และ Z500 ในการเจาะตลาดผู้ใช้งานที่ต้องการเครื่องที่มีสีสัน ในระดับราคาตั้งแต่ 22,990 บาทไปจนถึง 39,990 บาท
“กลุ่มลูกค้าที่ยังมีกำลังซื้ออยู่ในปัจจุบันคือกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวก และถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตราว 30% อย่างต่อเนื่อง ถ้าสามารถเติบโตในกลุ่มตลาดนี้ได้ ก็จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมได้เช่นเดียวกัน”
Company Relate Link :
Lenovo