“เลอโนโว” สร้างความต่างเลือกโน้ตบุ๊กปรับหน้าจอ 360 องศา IdeaPad Yoga และ ThinkPad Twist ชูโรงวินโดวส์ 8 ก่อนทยอยนำแท็บเล็ตเข้าต้นปีหน้า เชื่อการมาของวินโดวส์ 8 ช่วยให้ผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนเครื่อง เล็งนำทีวี- สมาร์ทโฟนทำตลาดปีหน้า
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความพร้อมของเลอโนโว หลังการเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 จากทางไมโครซอฟท์ว่า ด้วยความที่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตหลายๆ รายนำสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายไม่ทัน ประกอบกับยังมีราคาสูงอยู่จึงอาจต้องรอระยะเวลาให้นวัตกรรมมีราคาถูกลง
“เมื่อโน้ตบุ๊กฟอร์มเฟdเตอร์ใหม่ๆ ที่รองรับการใช้งานวินโดวส์ 8 ซึ่งปัจจุบันราคาระดับพรีเมียมมีราคาลดลงอยู่ในระดับเมนสตรีมราว 20,000-25,000 บาท ตลาดโน้ตบุ๊กจะกลับมามีอัตราการเติบโตสูงอีกครั้งหนึ่ง ทำให้อาจต้องใช้ระยะเวลาสักพัก”
ใกล้เคียงกับเมื่อสมัยอัลตราบุ๊กเริ่มเข้ามาในตลาดช่วงแรกๆ ที่ราคาค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันราคาเริ่มลดลงไปอยู่ในระดับเมนสตรีมแล้ว ดังนั้น เมื่อโน้ตบุ๊กที่รองรับวินโดวส์ 8 อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนเครื่องใหม่ของผู้ใช้ที่เร็วขึ้น
โดยเลอโนโวเลือกเปิด 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่รองรับการใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ซึ่งเลือกที่จะสร้างความแตกต่างจากเวนเดอร์รายอื่นๆ ด้วยการเลือกนำโน้ตบุ๊กที่สามารถหมุนหน้าจอให้กลายเป็นแท็บเล็ตแบบ 360 องศาได้ 2 รูปลักษณ์ ในการจับกลุ่มตลาดคอนซูเมอร์ และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและย่อมมาเป็นรุ่นเปิดตลาด ก่อนจะเติมไลน์สินค้าในฟอร์มเฟกเตอร์อื่นๆ ในช่วงเดือนธันวาคมนี้
สำหรับ IdeaPad Yoga 13 มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel 3rd Gen Core i7 RAM 4GB SSD 128GB เริ่มต้นในราคา 42,900 บาท ส่วน IdeaPad Yoga 11 ที่ใช้หน่วยประมวลผล Nvidia Tegra 3 คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคม เปิดราคาที่ 31,900 บาท และสุดท้าย ThinkPad Twist ราคาเริ่มต้นสำหรับ Core i3 RAM 4GB HD 500 GB ที่ 33,900 บาท ไปจนถึง Core i5 RAM 4GB SSD 128GB 42,900 บาท ซึ่งทั้ง 3 รุ่นได้ทำการเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ในตลาดต่างประเทศ
ส่วนความคืบหน้าในการนำแท็บเล็ตในระดับราคา 6,000 - 7,000 เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศ ยังอยู่ในขั้นตอนการประสานงานเพื่อหาช่องทางจำหน่ายที่เหมาะสม เพราะเลอโนโว ได้เคยทดลองทำตลาดแท็บเล็ตมาแล้วก่อนหน้านี้ และมองว่าความต้องการในช่วงระดับราคาดังกล่าวมีค่อนข้างสูง
ขณะที่การทำตลาดแท็บเล็ต ThinkPad Tablet 2 และแท็บเล็ตไฮบริด IdeaPad Lynx ที่สามารถเชื่อมต่อกับฐานคีย์บอร์ดได้ น่าจะเริ่มทยอยเข้ามาทำตลาดในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากปัจจุบันมีความต้องการในตลาดต่างประเทศค่อนข้างสูง ส่งผลให้มีปัญหาทางด้านปริมาณการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นายจีรวุฒิกล่าวต่อว่า แม้ยอดขายพีซีในตลาดรวมจะไม่มีการเติบโต แต่เลอโนโวยังมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออลอินวัน ซึ่งปัจจุบันยอดจำหน่ายสินค้ากลุ่มคอนซูเมอร์ในเมืองมีปริมาณมากกว่าพีซีแล้ว ส่วนในตลาดองค์กรก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้มากขึ้น
“ปีนี้ถือว่าเลอโนโว ประเทศไทย ทำได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้เมื่อตอนต้นปี โดยมีผลมาจากการเพิ่มบุคลากร ขยายช่องทางการจำหน่ายในตลาดเอสเอ็มบี และคอนซูเมอร์มากขึ้น รวมกับการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ออลอินวันที่มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในตลาด”
ปัจจุบันเลอโนโวมีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ 10% แล้ว ส่วนในปีหน้ากำลังมองหาแนวทางในการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างดิจิตอลทีวี และสมาร์ทโฟน เข้ามาทำตลาด ซึ่งถ้าทำได้ไทยจะกลายเป็นประเทศแรกๆ ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เลอโนโวเข้ามาทำตลาดผลิตภัณฑ์อื่นๆ นอกจากคอมพิวเตอร์
Company Relate Link :
Lenovo
