ฉีกรูปแบบโซเชียลมีเดีย “ทอฝัน” แบ่งรายได้คนใช้

เว็บไซต์ทอฝันจับกระแสคนฮิตเล่นโซเชียลมีเดียผ่านรูปภาพและบล็อก เปิดรูปแบบธุรกิจใหม่ให้คนเล่นหรือเจ้าของคอนเทนต์มีรายได้จากส่วนแบ่งค่าโฆษณา ตั้งเป้าผู้ใช้ 1 แสนรายภายใน 1 ปี หากสำเร็จพร้อมลุยตลาดโลก

นายมาวิน จิรไพศาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทอฝัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาความนิยมโซเชียลมีเดียสร้างรายได้ให้เจ้าของบริษัทระดับแสนล้านบาทอย่างเฟซบุ๊ก แต่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียซึ่งถือเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ให้กับเว็บไซต์นั้นกลับไม่มีรายได้อะไร ทำให้เกิดความคิดที่ว่าน่าจะมีโซเชียลมีเดียที่สร้างรายได้ให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ จึงได้พัฒนาโซเชียลมีเดียด้านคอนเทนต์ขึ้นมา โดยตั้งชื่อว่า ทอฝัน (www.thorfun.com)

“ทอฝันแตกต่างจากโซเชียลมีเดียอื่นๆ ตรงที่มีระบบบริหารการตลาดที่มอบรายได้ 51% จากค่าโฆษณาในหน้าเว็บที่มีการเข้าชมให้แก่ผู้ใช้งานที่เป็นเจ้าของคอนเทนต์นั้น”

คอนเทนต์ในเว็บไซต์ทอฝันจะมี 2 ส่วน คือ 1. คอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพในลักษณะอัลบั้มภาพถ่าย โดยจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในการนำเสนอภาพให้น่าสนใจอยู่ตลอดเวลา กับ 2. ในรูปบล็อกซึ่งเป็นตัวอักษรเหมือนกับบล็อกอื่นๆ โดยที่ทอฝันจะให้ความสำคัญต่อความเป็นเจ้าของสิทธิ์ในคอนเทนต์ที่เจ้าของบล็อกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งเบื้องต้นจะมีคอนเทนต์หลักอยู่ 8 หมวดและจะเพิ่มขึ้นแต่ไม่เกิน 15 หมวด เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ

“การที่เลือกให้บริการคอนเทนต์ 2 ส่วนเนื่องจากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยอายุระหว่าง 15-25 ปีพบว่ามีความต้องการที่จะแสดงออกสูง โดยมีการพรีเซ็นต์ตัวเองผ่านทางบล็อกหรือตามวอลโพสต์ในเฟซบุ๊ก”

สำหรับการแบ่งรายได้ให้เจ้าของคอนเทนต์นั้นมี 3 แบบ คือ 1. ส่วนแบ่งรายได้จากค่าโฆษณา 51% เว็บทอฝันจะมีตำแหน่งโฆษณาทั้งหมด 2 ช่องต่อหนึ่งบล็อก โดยจะฟิกซ์ตำแหน่งเอาไว้ไม่ว่าจะเลื่อนดูส่วนอื่นๆ ภายในบล็อกนั้นๆ ส่วนการส่งมอบเงินนั้นทางระบบจะสร้างเช็คเงินสดเพื่อจัดส่งไปให้เจ้าของคอนเทนต์ โดยมีมาตรฐานวิธีการจ่ายเงินเช่นเดียวกับกูเกิล

“ในเบื้องต้นจะเป็นระบบเช็คไปก่อน เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าสัมผัสจับต้องรายได้ที่มาจากเว็บทอฝันได้”

2. จะมาจากแคมเปญการตลาดต่างๆ จะทำให้ผู้ใช้มีเงินเก็บเริ่มต้น 250 บาท และ 3. เป็นรางวัลคอนเทนต์ยอดนิยมประจำสัปดาห์ โดยมี 10 รางวัลที่มอบให้เจ้าของคอนเทนต์รางวัลละ 500 บาท การที่เว็บทอฝันสามารถให้บริการแบบนี้ได้เพราะใช้เทคโนโลยีมาตรฐานสากลอย่าง HTML 5 หรือระบบฐานข้อมูล no-SQL ที่เฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ใช้อยู่

“เว็บทอฝันถือเป็นบริษัทกลุ่มแรกๆ ในไทยที่ใช้ระบบฐานข้อมูล no-SQL ที่เป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาก เพราะขนาดยูทิวบ์ที่มีความคิดที่จะนำมาใช้งาน ยังจะต้องใช้เวลาในการปรับฐานข้อมูลอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป”

สำหรับกลยุทธ์ในการสร้างกระแสให้เว็บทอฝันนั้นจะทำผ่านฐานผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยผู้ใช้เว็บทอฝันจะเป็นผู้ใช้ล็อกอินบนเฟซบุ๊กเป็นหลัก จึงทำให้ง่ายในแง่ของการนำฐานข้อมูลมาทำงานร่วมกับระบบบริหารจัดการโฆษณาต่างๆ ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่เข้ามาใช้งาน

โดยหลังจากเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.เพียงแค่ 12 วัน เว็บทอฝันมีผู้ใช้บริการแล้ว 1พันราย มีจำนวน 1 แสนเพจวิว โดยเตรียมเงินสำหรับกิจกรรมการตลาดไว้ 1 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ให้เจ้าของคอนเทนต์อีกประมาณ 1.2 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าภายใน 1 ปีจะมีผู้ใช้งานเว็บทอฝันประมาณ 1 แสนราย หรือถ้าเป็นเรื่องของคอนเทนต์ในแต่ละวันน่าจะมีประมาณ 1% ของผู้ใช้ หรือประมาณ 1 พันคอนเทนต์ต่อวัน และจะมีรายได้จากค่าโฆษณาประมาณ 22 ล้านบาทในปีแรก ซึ่งเป้าหมายต่อไปจะก้าวเข้าไปบุกตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีเวนเจอร์แคปปิตอล (Venture Capital) ที่ประเทศสิงคโปร์สนใจที่จะให้เงินลงทุน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะต้องมีการเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ใหม่ให้เป็นสากลมากขึ้น

“มั่นใจว่าเว็บทอฝันจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก โมเดลธุรกิจแบบนี้ยังไม่มีใครทำ เมื่อรวมกับทฤษฎีที่ว่าใครเป็นคนแรกที่ทำมักจะเป็นผู้นำตลาดเสมอ จึงหวังว่าเว็บทอฝันสามารถก้าวไปสู่ตลาดโลกได้อย่างแน่นอน”

Company Related Link :
ทอฝันดอทคอม