สองยักษ์ใหญ่ไอทีประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุดกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หนึ่งคือเลอโนโว (Lenovo) ที่กำไรเพิ่มขึ้น 30% เพราะตลาดเกิดใหม่ขยายตัวทั่วโลก อีกหนึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างซิสโก้ (Cisco) ที่กำไรเพิ่มขึ้นมากกว่า 56% ผลจากความต้องการในตลาดสูง ทั้งหมดนี้สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจไอทีในวันที่บางส่วนของโลกพบวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ
เลอโนโวออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (16) ว่า บริษัทมีกำไร 144 ล้านเหรียญสหรัฐ (เม.ย.-มิ.ย. 2012) หรือประมาณ 4.4 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 30% โดยตลอด 3 เดือนเลอโนโวระบุว่าบริษัทมียอดจำหน่ายรวม 8 พันล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้นถึง 59% เมื่อเทียบกับปี 2011
เลอโนโวนั้นเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พีซีอันดับ 2 ของโลก โดยไตรมาสที่ผ่านมาสามารถจัดส่งคอมพิวเตอร์พีซีมาจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและละตินอเมริกาเพิ่มขึ้นถึง 59.2% ขณะเดียวกัน ยอดจัดส่งสินค้าเพื่อจำหน่ายในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกากลับยิ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น 62.3% สะท้อนว่าวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในบางภูมิภาคของโลกนั้นสร้างผลกระทบต่อตลาดพีซีในระยะสั้นเท่านั้น ทำให้เลอโนโวยังสามารถทำกำไรในตลาดพีซีโลกได้ต่อเนื่อง
หวง เหว่ยหมิง (Wong Waiming) ประธานฝ่ายการเงินของเลอโนโว กล่าวว่า ความสำเร็จของเลอโนโวนั้นเกิดขึ้นเพราะกลยุทธ์การลงทุนในตลาดโมบายล์อินเทอร์เน็ต ซึ่งเริ่มทำให้บริษัทมียอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นบนผลกำไรที่เติบโตในทิศทางเดียวกัน คาดว่าทิศทางดังกล่าวจะขยายตัวต่อเนื่องอีกหลายไตรมาส
เลอโนโวนั้นสามารถเอาชนะเดลล์ (Dell) และขึ้นเป็นผู้ผลิตพีซีรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา โดยอันดับ 1 ในตลาดพีซียังเป็นเอชพี (Hewlett-Packard) ซึ่งเลอโนโวระบุว่าสามารถลดระดับช่องว่างระหว่างส่วนแบ่งตลาดที่เอชพีครองอันดับ 1 ได้อย่างต่อเนื่อง
เลอโนโวมีสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่งและที่ย่าน Research Triangle Park ในนอร์ทแคโรไลนา ที่ผ่านมาบริษัทเริ่มลงทุนในตลาดอินเทอร์เน็ตไร้สายตั้งแต่ปี 2010 จากนั้นจึงเริ่มเปิดตัวสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพื่อแข่งขันกับแอปเปิล, ซัมซุง และเอชทีซี แต่ยังไม่มีการเปิดตลาดวงกว้างในประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน
ความคืบหน้าล่าสุดของเลอโนโวคือการเปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล ThinkPad รุ่นล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยออกแบบมาเพื่อเอาใจผู้ใช้ซึ่งต้องการแท็บเล็ตใช้งานง่าย เปิดใช้งานได้รวดเร็ว น้ำหนักเบา และมีแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานกว่า
***ซิสโก้ขายทรงตัว-กำไรโต
ในขณะที่เลอโนโวไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ยักษ์ใหญ่ผู้ค้าอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างซิสโก้กลับได้รับผลกระทบเล็กน้อย โดยประกาศว่าบริษัทสามารถทำยอดขายรวม 1.17 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุดไตรมาสที่ 12 กรกฎาคม 2012) คิดเป็นสัดส่วนเติบโต 4% เท่านั้น แต่ในมุมกำไร บริษัทระบุว่าสามารถทำกำไรตลอดไตรมาสราว 1.9 พันล้านเหรียญ หรือประมาณ 0.36 เหรียญต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 56%
จอห์น ชามเบอร์ส (John Chambers) ประธานและซีอีโอซิสโก้ ยอมรับว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป โดยยอดสั่งซื้อสินค้าในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกามีจำนวนลดลง 6% ผลจากการตัดสินใจของผู้ให้บริการในยุโรปที่ชะลอการลงทุนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในช่วงครึ่งแรกปี 2012
ธุรกิจหลักของซิสโก้อย่างการจำหน่ายอุปกรณ์สวิตชิ่ง (switching) และเราเตอร์ (router) นั้นทรงตัว ขณะที่ธุรกิจระบบเครือข่ายเพื่อการทำงานร่วมกันจากทางไกลนั้นลดลง 8% โดยธุรกิจที่ซบเซาที่สุดคือธุรกิจ Telepresence หรือระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ทางไกลที่ลดความสำคัญลงเพราะเครื่องมือสื่อสารออนไลน์ราคาประหยัดที่มีให้เลือกมากขึ้นในปัจจุบัน
ธุรกิจที่เติบโตที่สุดของซิสโก้คือแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ Unified Computing System หรือระบบไอทีไร้รอยต่อที่มียอดติดตั้งเติบโตถึง 58% ขณะที่ยอดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารไร้สายมียอดเติบโต 22% ผลจากกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายที่เน้นขยายจุดบริการไวไฟ (Wi-Fi) มากขึ้น
สำหรับทั้งปี 2012 ซิสโกระบุว่าบริษัทสามารถทำรายได้รวม 4.61 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2011 กำไรต่อหุ้นเฉลี่ย 1.49 เหรียญต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 27% จากปี 2011
Company Related Link :
Lenovo
Cisco