เอซุส-โตชิบาฟันธงกำลังซื้อโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์กลับสู่ภาวะปกติในเดือนมิถุนายนนี้ ระบุตลาดต่างจังหวัดมีโอกาสเติบโตสูง คาดสิ้นปียอดขายทั้งตลาดจบที่ 2.6 ล้านเครื่อง
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในไตรมาส 2 นี้กำลังซื้อโน้ตบุ๊กคอมมพิวเตอร์ของผู้บริโภคคนไทยเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ซึ่งอาจจะชะลอไปบ้างในช่วงเดือนเทศกาลสงกรานต์ ทางเอซุสคาดว่า ไตรมาสนี้น่าจะขายได้ถึง 1 แสนเครื่อง เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีนี้ที่ทางเอซุสสามารถปิดได้ที่ 83,000 เครื่อง ในขณะที่เคเอฟเครายงานว่ายอดขายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ทั้งตลาดในไตรมาสแรกที่ผ่านมาอยู่ที่ 590,000 เครื่อง
“ปัญหาการซัปพลายฮาร์ดดิสก์จากโรงงานผลิตในไทยเกือบกลับมาสู่ภาวะปกติแล้วประมาณ 90% ซึ่งต่างจากไตรมาสแรกที่ฮาร์ดดิสก์มีไม่เพียงพอ”
ขณะที่นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ในแง่กำลังซื้อของผู้บริโภค หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยเป็นต้นมาโตชิบาคาดว่าน่าจะกลับมาอย่างเต็มตัวในช่วงเดือนมิถุนายน เพราะเริ่มเห็นแนวโน้มการซื้อเพิ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอีกหลายๆ แบรนด์ที่ยอดขายเพิ่มขึ้น
นายพรเทพยังกล่าวอีกว่า ความต้องการโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในตลาดต่างจังหวัดยังสามารถเติบโตได้อีกมาก กำลังซื้อยังมีอยู่สูง โดยสัดส่วนการขายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในต่างจังหวัดที่เจเอฟเครายงานเอาไว้ว่ามีถึง 44% ที่เหลือมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเพิ่มจากในอดีตที่ยอดขายส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพฯ ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดที่เดิมเคยคิดว่าโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ที่มีราคา 2 หมื่นกว่าบาทขึ้นไปจะขายไม่ได้ แต่วันนี้ตลาดพร้อมที่จะจ่ายสำหรับเครื่องในระดับนี้เพิ่มขึ้น
“เวลานี้สัดส่วนยอดขายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์เอซุสในตลาดต่างจังหวัดกับในกรุงเทพฯ มีพอๆ กันประมาณ 50%”
นายพรเทพกล่าวว่า เครื่องที่ขายได้มากคือเครื่องระดับหมื่นต้นๆ ถึงหมื่นกลางๆ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด จากการที่เอซุสเน้นกิจกรรมการตลาดทั้งในส่วนผู้ขายและผู้ซื้อควบคู่ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องทางขายอย่างโมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เกต รวมถึงการตั้งคีออสก์ตามร้านค้าทั่วประเทศที่เวลานี้มีอยู่ถึง 100 แห่ง และมีการขยายอย่างต่อเนื่อง 30-40 แห่งในแต่ละไตรมาส ก็มีส่วนช่วยให้เอซุสสามารถเข้าถึงตลาดต่างจังหวัดได้เพิ่มขึ้น
“คาดว่าตลาดรวมโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ของไทยน่าจะจบที่ 2.6 ล้านเครื่อง เติบโตขึ้น 19%”
นายถกลกล่าวว่า สัดส่วนยอดขายโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัดในปัจจุบันอยู่ที่ 60-40% แต่เชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยับเป็น 55-45% ขณะที่โตชิบามีสัดส่วนตลาดต่างจังหวัดปัจจุบันราว 35% ซึ่งเชื่อว่าจะขยับเพิ่มเท่ากับตลาดในช่วงปลายปีนี้เช่นเดียวกันจากการขยายชอปในต่างจังหวัดเพิ่ม 6 แห่ง รวมกับจุดขายอีก 100 แห่งทั่วประเทศ
Company Relate Link :
Asus Thailand
Toshiba Thailand