บราเดอร์ชูนโยบาย Value-Added เน้นสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่น ลุยกลยุทธ์หลัก 3 ประการ คาดปีนี้โต 17% ส่วนเหตุการณ์อุทกภัยในไทย บราเดอร์ไม่บอบช้ำมาก พลาดเป้าแค่ 5%
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) กล่าวว่าในปี 2555 บราเดอร์จะชูนโยบายไปที่การสร้าง Value-Added ให้มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่น โดยแบ่งเป็น 3 กลยุทธ์ คือ 1. การแจกซอฟต์แวร์ BRAdmin ให้ใช้งานฟรี โดยชุดซอฟต์แวร์นี้จะมีหน้าที่ในการจัดการเน็ตเวิร์กภายในองค์กร เพื่อให้งานพิมพ์เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด 2. บราเดอร์จะต่อยอดแผน Music Marketing ด้วยการมอบบัตรชมคอนเสิร์ตจากศิลปินดังในประเทศ เพื่อเป็นการคืนกำไรแก่ลูกค้า และ3. สิ่งสำคัญที่จะทำให้บราเดอร์ประสบความสำเร็จได้ นั่นคือการกำหนดราคาโดยเฉพาะราคาเครื่องและหมึกพิมพ์จะต้องมีราคาจำหน่ายที่ สมเหตุสมผลมากที่สุด
"เราไม่ต้องการที่จะขายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ เครื่องพิมพ์ในราคาถูกกว่าความเป็นจริง แต่แอบไปตั้งราคาหมึกที่ใช้ในงานพิมพ์ในราคาแพงมหาศาล ซึ่งมันไม่เป็นธรรมต่อลูกค้า"
สำหรับการเติบโตของบราเดอร์นั้น ในปี 2555 บราเดอร์จะเติบโตที่ 17% ส่วนปีที่แล้วบราเดอร์เติบโตอยู่ที่ 10% ต่ำกว่าเป้าที่วางเอาไว้ 5% แต่ทั้งนี้ตัวเลขการเติบโต 10% ยังเป็นตัวเลขที่บราเดอร์พึงพอใจ เพราะถูกผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมในประเทศไทย แต่ยังมองโลกในแง่ดีว่าปัญหาดังกล่าวเป็นแค่ผลกระทบทางอ้อม ที่ใช้ระยะเวลาไม่นานก็สามารถฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ตามปีงบประมาณ 2554 ของบราเดอร์จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2555 และปีงบประมาณใหม่จะเริ่มต้นที่เดือนเม.ย.จบที่เดือนมี.ค. 2556
'ธุรกิจพรินเตอร์ ปี 55 จะสามารถสร้างอัตราการเติบโตราว 5-10% ในแง่ของปริมาณ ส่วนในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาบราเดอร์มีส่วนแบ่งตลาดอิงค์เจ็ต พรินเตอร์ อยู่ที่ 30% เป็นรองจากแคนนอน ส่วนเลเซอร์ พรินเตอร์ มีส่วนแบ่งอยู่ 20% อยู่ในอันดับ 3 รองจากซัมซุง และเอชพี สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มพรินเตอร์ปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวราว 15 รุ่น มีทั้งกลุ่มอิงค์เจ็ต พรินเตอร์ และกลุ่มเลเซอร์ พรินเตอร์'
นายธีรวุธกล่าวว่า ในปี 2555 บราเดอร์จะยังเน้นไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่อย่าง ธุรกิจจักรเย็บผ้าที่เริ่มเปิดตลาดมาแล้วประมาณ 2 ปี โดยตอนนี้ต้องการให้ชื่อของบราเดอร์เป็นที่คุ้นหูในกลุ่มลูกค้าจักร เย็บผ้าไปก่อน ส่วนยอดขายด้านจักรเย็บผ้าปีที่แล้วเติบโต 60% จากยอดขายจักรรวมทั้งตลาดที่เติบโต 164% คิดเป็นตลาดรวมประมาณ 30,000-40,000 เครื่องต่อปี
ท้ายที่สุดบราเดอร์ยังได้ประกาศว่าเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวที่มีศูนย์บริการครบ 77 จังหวัด เป็นจำนวน 184 แห่ง โดยศูนย์บริการของบราเดอร์จะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพของพนักงาน โดยจะมี Service Experience ซึ่งจะมีการเทรนนิ่งพนักงาน และมีการติดตามผลการทำงานของพนักงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้มีการเปิดศูนย์ที่ภาคใต้เพิ่มที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จากเดิมที่บราเดอร์มีศูนย์อยู่ใหญ่ที่ จังหวัดเชียงใหม่, ขอนแก่น, ระยอง และกทม.
Company Related Link :
Brother