มือถือทำ"ผึ้ง"หลงรัง?

การทดลองครั้งล่าสุดพบว่าคลื่นแม่เหล็กจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือทำให้ผึ้งสับสนจนบินกลับรังไม่ถูก หวั่นผลกระทบใหญ่จะอยู่ที่ห่วงโซ่อาหารในโลก เพราะผึ้งมีบทบาทสำคัญในการแตกหน่อพืชผลมากกว่า 70% ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดอาหารให้ชาวโลกมากกว่า 90%

Daniel Favre นักวิจัยชาวสวิสจากสถาบัน Swiss Federal Institute of Technology ระบุว่าทีมวิจัยได้ทำการทดลองเพื่อศึกษาปฏิกิริยาของผึ้งที่อยู่บริเวณใกล้โทรศัพท์มือถือซึ่งปิดเครื่อง เปิดเครื่องในโหมดสแตนด์บาย และขณะกำลังต่อสายมากกว่า 83 ครั้ง ปรากฏว่าฝูงผึ้งงานส่งเสียงรบกวนหรือเสียงซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า worker piping ดังกว่าปกติถึง 10 เท่าเมื่อโทรศัพท์กำลังต่อสายหรือมีสายเข้า ซึ่งปกติเสียง worker piping นี้จะเกิดขึ้นเมื่อผึ้งต้องการส่งสัญญาณให้ฝูงออกจากรัง แต่ในการทดลอง เสียงที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ฝูงผึ้งมีความสับสน

ผลลัพธ์จากการศึกษาครั้งนี้จึงอนุมานได้ว่าการทำงานของมือถือส่งผลต่อผึ้งที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝูงผึ้งไม่รู้ทิศทางและไม่ยอมบินกลับรัง อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรผึ้งของโลกลดลงอย่างที่เป็นในขณะนี้

ทฤษฎีนี้คือทฤษฎีล่าสุดเกี่ยวกับการลดของประชากรผึ้งที่นักวิจัยทั่วโลกกำลังพยายามศึกษาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ มีการค้นพบว่าสารต้านวัชพืช โรงไฟฟ้า รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนส่งผลกระทบต่อการลดจำนวนประชากรผึ้งทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยยอมรับว่ายังไม่สามารถฟันธงว่า"โทรศัพท์มือถือเป็นตัวการฆ่าผึ้ง"ได้ เพราะข้อสันนิษฐานนี้ยังต้องได้รับการศึกษาและวิจัยอย่างละเอียดอีกมากกว่าจะสามารถสรุปผลที่แน่นอน โดยกำลังอยู่ระหว่างขอความร่วมมือกับชุมชนนักวิทยาศาสตร์นานาชาติเพื่อร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นในทุกด้าน แม้ว่าการศึกษาครั้งนี้จะให้ผลตรงกับงานวิจัยในปี 2008 ซึ่งพบว่าผึ้งไม่สามารถบินกลับรังได้เพราะสัญญาณโทรศัพท์มือถือ

สำหรับทิศทางการศึกษาในอนาคต ทีมวิจัยสัญชาติสวิสระบุว่าจะทำการทดลองในเงื่อนไขที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เช่น การทดลองต่อสายโทรศัพท์บริเวณที่ไกลจากรังผึ้ง ซึ่งจะศึกษาทั้งในรูปแบบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการสืบพันธุ์ เพื่อให้มนุษย์ได้ทราบก่อนจะทำลายห่วงโซ่อาหารโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ไม่เช่นนั้น มนุษย์คงต้องเรียนรู้วิธีผสมเกษรดอกไม้ด้วยตัวเองก่อนที่จะอดตาย.