คงเป็นปัญหาจริงๆสำหรับสมาร์ทโฟนในตอนนี้ ที่มีความสามารถมากมายพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบครันเกินกว่าจะเป็นเพียงโทรศัพท์มือถือ แต่เมื่อเราใช้งานไม่เท่าไรบางทีไม่ถึงวันแบตเตอรีก็ขึ้นขีดแดงไม่เว้นแม้แต่ไอโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ จาก Apple อย่างไอพอดทัช/ไอแพดที่เป็นแบตเตอรีแบบลิเธียม
วันนี้ทีมงานขอเสนอ 13 ทิปเด็ด ที่จะช่วยให้ไอโฟนของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรีหลายๆ ครั้ง
1. เก็บไอโฟนของคุณให้ห่างไกลจากความร้อน
สิ่งที่ไม่ควรอย่างแรกเลยก็คือวางไอโฟนหรือไอแพดที่มีความร้อนระอุอย่างในรถ หรือแม้กระทั่งวางไว้ให้โดนแดด ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พลังงานในแบตเตอรีหมดลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงยังทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไวขึ้นอีกด้วย และแน่นอนว่า Apple ไม่ได้มีการรับประกันในส่วนนี้นะครับ
2. ปรับค่าความสว่างหน้าจอของคุณให้พอดี
รู้หรือไม่การที่เราปรับค่าความสว่างหน้าจอ (Brightness) ไว้ที่ค่าสูงสุดอยู่ตลอดเวลา จะทำให้สิ้นเปลื้องพลังงานไปอย่างมาก ซึ่งถึงแม้ว่าที่เราปรับไว้ในมีค่าความสว่างที่สูงในเวลากลางวัน ก็เพื่อให้เรามองเห็นได้อย่างคมชัด แต่ในตอนกลางคืนหรือในที่แสงน้อย ก็อย่าลืมปรับค่าความสว่างกลับมาให้ต่ำด้วย ซึ่งในที่นี้จะขอแนะนำไว้ที่ประมาณ 30% พร้อมทั้งกับเปิดฟังก์ชัน Auto-Brightness อยู่ตลอดเวลาด้วย
วิธีการ Settings -> Brightness -> Auto-Brightness
3. ปรับเวลาการ Auto-Lock ของหน้าจอให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
นอกเหนือจากการที่เราปรับค่าความสว่างให้เหมาะสมแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องปรับด้วยก็คือ เวลาในการ Auto-Lock ให้เร็วที่สุด เพื่อที่มันจะได้ปิดหน้าจออัตโนมัติลงได้อย่างรวดเร็ว โดยที่เราไม่ต้องไปสั่งมันอีกครั้งหนึ่ง ยกตัวอย่างกรณีที่เราใช้งานไอโฟนเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือฟังเพลง เมื่อเราไม่ต้องการใช้งานแล้ว ก็สามารถที่จะหย่อนลงไปในกระเป๋ากางเกงได้ทันทีโดยไม่ต้องไปแตะอะไรอีก
วิธีการ Settings -> General -> Auto-Lock
4. เปลี่ยนไปใช้ Airplane Mode เมื่อจะไม่ใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตนานๆ
ถ้ารู้ตัวว่าเราจะใช้งานไอโฟนโดยไม่ต้องการใช้งานโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเป็นระยะเวลานานๆ แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์หรือฟังเพลงก็ตาม ขอแนะนำให้ใช้ Airplane Mode ซึ่งจะทำการปิดไวไฟและการเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งหมด ส่งผลให้ยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรีได้อย่างทันที อีกทั้งยังจะไม่มีอะไรมารบกวนเรา ขณะที่กำลังเล่นเกม หรือฟังเพลง
วิธีการ Settings -> Airplane Mode
5. เมื่อเราเชื่อมต่อด้วยไวไฟแนะนำให้ปิด 3G ลงซะ
ถึงแม้ว่าแอปเปิลจะออกมาบอกไว้ว่าไอแพดมีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี 10 ชั่วโมง เมื่อเชื่อมต่อกับไวไฟและ 9 ชั่วโมงเมื่อใช้ 3G ซึ่งสำหรับไอโฟนจะเป็น 6 ชั่วโมงเมื่อใช้ 3G และ 10 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อผ่านไวไฟ แต่ถ้าเมื่อไรเราสามารถที่จะเลือกเชื่อมต่อไวไฟได้ แนะนำว่าอย่าลืมที่จะปิดการเชื่อมต่อของ 3G ลงด้วย เพราะไม่อย่างนั้นในการใช้งานจริงไอโฟนหรือไอแพด เราจะใช้งานไม่ได้นานอย่างที่แอปเปิลบอกไว้
วิธีการ Settings -> Network -> Enable 3G
6. ปิดระบบ Push Mail เมื่อเราไม่ได้กำลังรออีเมลด่วน
อย่างที่ทราบกันไอโฟนของเราจะทำการอัปเดตอีเมลอยู่ตลอดเวลาโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น หากเราไม่ได้กำลังรออีเมลด่วนจากใครเป็นพิเศษ ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดการทำงานของ Push Email เพราะเพียงแค่เราใช้งานอีเมลเมื่อไร ตัวแอปฯ เองก็จะตรวจสอบ All inboxes ให้อย่างอัตโนมัติอยู่แล้ว สะดวกง่ายดาย แถมประหยัดแบตเตอรี เพราะระบบ Push Mail ไม่ได้ทำงานอยู่ตลอดเวลา
วิธีการ Settings -> Mail, Contacts, Calendar -> Fetch New Data
7. ปิดระบบการแจ้งเตือนต่างๆ (Notification) ที่ไม่จำเป็น
หากว่าเราไม่ได้ติดตามทวิตเตอร์หรือเฟซบุ๊กอยู่เป็นประจำหรือต้องการที่จะอัปเดตแอปฯต่างๆ ตลอดเวลาอยู่ ก็สามารถที่จะปิดระบบการแจ้งเตือนเหล่านี้ (Notification) ได้โดยทันที หารู้ไม่ว่าฟังก์ชัน Notification ก็กินแบตเตอรีเหมือนกัน อีกทั้งยิ่งเรามีแอปฯที่ต้องการอัพเดตสถานะจำนวนมากเท่าไรก็ยิ่งเปลืองแบตเตอรีมากขึ้นไปอีกด้วย
วิธีการ Settings -> Notification
8. ลดระดับเสียงหรือปิดระบบเสียงที่ไม่ต้องการให้ทำงาน
ถือแม้ว่ามันจะดูไม่สำคัญเท่าไรนัก สำหรับการมานั่งปรับระดับเสียงหรือปิดเสียงระบบต่างๆ แต่มันก็มีผลกับการใช้พลังงานจากแบตเตอรีโดยตรงเลย ลองตรวจสอบดูว่าเสียงลำโพงดังเกินหรือไม่ และระบบเสียงไหนที่เราไม่จำเป็นต้องใช้งานบ้างก็ทำการปิดไปได้
วิธีการ Settings -> Sounds -> Ringer and Alerts
9. ปิด Location Services ในแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ
ถ้าเราไม่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชัน Location Services หรือแอปฯไหนที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ควรปิดแอปฯนั้นไป เนื่องจากตัวไอโฟนเองจะใช้ชิป GPS ในการทำงาน
วิธีการ Settings -> General -> Location Services
10. ปิด Bluetooth ทุกครั้ง หลังจากใช้งานเสร็จ
ไม่ว่าเราเปิดสัญญาณบลูทูธเพื่อเชื่อมต่อกับ Bluetooth Headset หรือจะเป็น Bluetooth Keyboard ก็ต้องอย่าลืมที่จะปิดบลูทูธทุกครั้ง มันจะช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานไอโฟนของคุณไปได้อย่างแน่นอน
วิธีการ Settings -> General -> Bluetooth
11. ปิดคุณสมบัติการทำงานสั่น (Vibrate) ในแต่ละเกมส์
ปิดการตอบสนองของเกมส์ที่ใช้การสั่น (Vibrate) เพื่อเสริมความสนุกสมจริงในแอคชั่นของหลายๆ เกมส์ ซึ่งการจำลองความรู้สึกโต้ตอบที่เกิดขึ้นในเกมส์นั้นๆ โดยกลไกการทำงาน ก็คือการขับมอเตอร์ลูกเบี้ยวให้หมุน ซึ่งต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่นั่นเอง
12. ปิดการทำงานแอปฯที่ไม่ใช้งานใน Multitasking
สำหรับผู้ใช้ iOS 4 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติ Multitasking ซึ่งสามารถการเปิดแอปพลิเคชันค้างไว้ได้หลายๆ อัน ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรีหมดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแอปฯที่มีการติดต่อกับอินเทอร์เน็ต อาทิ Skype สำหรับขั้นตอนการปิดก็แค่ดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่ม Home ก็จะแสดงแอปฯ ต่างๆ ที่รันค้างไว้ก็จะปรากฎขึ้น จากนั้นใช้นิ้วกดค้างไว้จนกากบาท (X) ปรากฎขึ้นมาที่มุมบนซ้ายของไอคอน สุดท้ายให้ใช้นิ้วแตะเพื่อปิดแอปฯนั้น
13. ทำการใช้แบตเตอรีไอโฟนให้หมด พร้อมกับชาร์จใหม่ให้เต็มบ้าง อย่างนี้เดือนละครั้ง
ไอโฟน,ไอพอด ทัช, ไอแพด ของเราต้องการที่จะทำการใช้แบตเตอรี่ให้หมดบ้าง พร้อมกับชาร์จใหม่ให้เต็ม (Dischange) ทำอย่างนี้เดือนละหนึ่งครั้ง เนื่องด้วยวิธีการนี้จะทำให้แบตเตอรีทุกเซลล์ได้มีการเปลี่ยนถ่ายประจุใช้ งานบ้าง ส่งผลให้ช่วยลดการเสื่อมสภาพแบตเตอรีลงได้
ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ specphone.com