หลังจากพยายามสร้างจุดต่างให้เหนืองานแสดงสินค้าไอทีคู่แข่งอย่างคอมมาร์ตมาตลอด ล่าสุด"ดิ แอสไพเรอร์ส"ผู้จัดงานคอมเวิล์ดประกาศหนึ่งในคอนเซ็ปต์งานปีนี้ว่าจะเน้นกระตุ้นตลาดเครื่องประกอบหรือ DIY แบบที่ไม่เคยมีใครทำ ดึงผู้จำหน่ายส่วนประกอบคอมพิวเตอร์หรือคอมโพเนนท์ (Component) หลากหลายมาร่วมมือกัน ชี้ตลาดมีอยู่แต่ถูกละเลยการกระตุ้นไป เชื่องานนี้จะดันตลาดส่วนประกอบคอมพ์ให้เติบโตจากสัดส่วน 30% เป็น 40% ได้ ตั้งเป้าคนร่วมงาน 5-7 แสนคน ยอดขายไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
วิโรจน์ อัศวรังสี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ แอสไพเรอร์ส กรุ๊ป จำกัด ระบุว่างาน ComWorld 2010 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 29 เม.ย. - 2 พ.ค. 53 ที่สยามพารากอนนั้นจะเปลี่ยนแปลงจากปีก่อนที่การตั้งพื้นที่จัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นตลาดเครื่องประกอบตั้งแต่ทางเข้างาน หวังสร้างตลาดใหม่ในกลุ่มคอเกม วัยรุ่น และครอบครัว
"ก่อนนี้เข้ามาจะเป็นบูธกล้อง แล้วบูธอินเตอร์แบรนด์จะอยู่ข้างในฮอลล์ ปีนี้เราเอาบูธกล้องและอินเตอร์แบรนด์เข้าไปข้างใน แล้วจัดเป็น DIY Zone อยู่ข้างนอกให้เห็นชัดๆ เป็นพื้นที่สำหรับคนที่ต้องการซื้อคอมพ์แบบประกอบเองและคนที่ต้องการอัปเกรดเครื่อง ตลาดนี้เคยมีสัดส่วนสูงมากแต่ปัจจุบันลดลง ไม่ใช่เพราะว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขึ้นมาแทนที่แต่เป็นเพราะไลฟ์สไตล์ของคนที่เปลี่ยนไป ตลาดตรงนี้มีอยู่แล้วแต่ไม่ถูกกระตุ้นเท่าที่ควร"
วิโรจน์ย้ำว่า การกระตุ้นด้วยฝีมือคอมเวิลด์จะไม่ใช่การจัดแข่งประกอบเครื่องแบบเดิมๆ แต่จะหันมาดึงเยาวชน จัดกิจกรรมสอนเด็กและครอบครัวให้ใช้เวลาประกอบเครื่องด้วยกัน
"จะมีการสอนวิธีการบรอดคาสต์สัญญาณภาพวิดีโอภายในบ้าน ตรงนี้จะทำให้เกิดเซกเมนต์ใหม่ของตลาด ซึ่งเราเรียกว่า Creative DIY ไม่ได้เน้นที่การประกอบเครื่องเพื่อราคาที่ถูกลงอย่างเดียว แต่เป็นการประกอบเพื่อตอบความต้องการเฉพาะทาง เช่น การทำระบบกล้องวงจรปิดในบ้าน คาดว่ารายได้จากสินค้าคอมโพเนนท์ในงานนี้จะคิดเป็นสัดส่วน 40% จากยอดรวมที่หวังไว้ 1,200 ล้านบาท"
"DIY" ตลาดดีที่ถูกมองข้าม
พันธมิตรหลักในธุรกิจชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ของผู้จัดงานคอมเวิล์ดปีนี้ คือ อินเทล อัสซุส และซินเน็ค ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชิปคอมพิวเตอร์ มาร์เธอร์บอร์ด และส่วนประกอบอื่นๆเช่นฮาร์ดไดร์ฟ การ์ดจอ รวมถึงเมาส์ คีย์บอร์ด ทั้งหมดเชื่อว่าคอมเวิลด์ 2010 คือนิมิตหมายที่ดีต่อการกระตุ้นตลาดคอมโพเนนท์ที่ทรงตัวมานานปี และยังไม่มีผู้จัดงานไอทีรายใดวางกลยุทธ์เพื่อกระตุ้นตลาด DIY อย่างจริงจัง
"ตลาดคอมโพเนนท์ปี 52 มีมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท คงที่จากปีก่อนๆแต่ปีนี้คาดว่าจะโตขึ้นราว 10% แต่ส่วนของซินเน็คเองยอดขายคอมโพเนนท์เราโตขึ้นตลอด เพราะสามารถกินส่วนแบ่งตลาดรายอื่นมาได้" สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว
ตัวเลข 20,000 ล้านบาทนั้นเป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์คอนซูเมอร์ปี 52 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่ามีมูลค่ารวม 72,000 ล้านบาท คาดว่าจะเติบโตราว 10%-15% ในปีนี้ แตะระดับ 80,000-85,000 ล้านบาท
พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่าตลาด DIY ในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตสูงแม้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและคอมโพเนนท์ของอัสซุสในขณะนี้จะอยู่ที่ 60-40 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม 50-50
"มูลค่าตลาด DIY ค่อนข้างใหญ่ แต่บางทีถูกมองข้ามไปเพราะตลาดโน้ตบุ๊กขยายตัวมากกว่า ต้องมองว่าตอนนี้ยังมีผู้ใช้บางกลุ่มที่โน้ตบุ๊กตอบโจทย์ไม่ได้ เช่น คอเกม นักกราฟฟิก ซึ่งเหมือนนักแข่งรถที่จำเป็นต้องโมฯเครื่องเพื่อลงแข่ง"
แม้ชาว DIY ดั้งเดิมจะนิยมหาซื้อสินค้าราคาสบายกระเป๋าในห้างไอทีฮาร์ดคอร์อย่างพันธุ์ทิพย์มากกว่าสยามพารากอน แต่วิโรจน์ย้ำว่าไม่มีปัญหาเพราะคอมเวิล์ดเน้นหนักที่กลุ่ม Extream DIY เพื่อให้ผู้ใช้ปรับแต่งคอมพิวเตอร์ตามต้องการได้โดยไม่เน้นเรื่องราคาถูก
"แต่เราก็ยังไม่ทิ้งเรื่องโปรโมชันโน้ตบุ๊กและกล้องดิจิตอล รายละเอียดโปรโมชันในงานจะแถลงอีกครั้งหลังสงกรานต์"
ชวนค้างพารากอน
วิโรจน์ยังไม่ลืมแนวคิดที่เคยประกาศว่าต้องการจัดงานไอทีที่ผู้ชมงานจะรู้สึกสนุกสนานเหมือนชมคอนเสิร์ตซูเปอร์สตาร์อย่างเบิร์ด ธงไชย คอมเวิล์ดปีนี้จึงร่วมมือกับ"โชว์โนลิมิต"เพื่อเนรมิตโซน "Reality LAN Party" แข่งขันเกมนาน 4 วัน 3 คืนครั้งแรกของเอเชีย ซึ่งผู้ร่วมปาร์ตี้จะได้สิทธิ์นอนค้างที่ห้างดังกลางเมืองอย่างสยามพารากอน
"ผู้สนใจสามารถยกคอมพิวเตอร์ที่บ้านมาประชันโฉมและประลองฝีมือตลอดเวลาจัดงาน 80 ชั่วโมง เราจะเตรียมอินฟราสตรัคเจอร์ อาหาร และที่นอนไว้ให้ มีรปภ.พร้อม งานนี้ไม่ต้องเป็นรปภ.ห้างก็มีสิทธิ์ได้นอนค้างที่ห้างพารากอน" พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ โชว์โนลิมิต กล่าว
พงศ์สุขระบุว่างานเกมมาราธอนนี้จะจำกัดผู้เข้าร่วมงานเฉพาะผู้อายุ 18 ปีขึ้นไปและทุกคนต้องมีใบรับรองแพทย์ โดยสามารถร่วมประลองฝีมือแข่งเกมบนต้นแบบสุดยอดคอมพิวเตอร์จำนวน 60 ตัวที่จะรันเกมหนักๆตลอด 24 ชั่วโมง ชิงรางวัลรวม 1 แสนบาท
อีกความพิเศษในงานนี้คือการที่"ทรูอินเทอร์เน็ต"ระบุว่าจะเปิดแบนด์วิธเต็มที่ในงานนี้ ซึ่งจะทำให้งานนี้คืองานแรกที่ชาวไอทีและคอเกมจะได้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วพิเสษสูงสุด 100 เมกะบิต
หนีคอมมาร์ต
นี่คือความเคลื่อนไหวล่าสุดหลังจากที่วิโรจน์จัดงานแถลงข่าวงดงานคอมเวิลด์ช่วงปลายปี 2552 เนื่องจากวิกฤติไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 และการที่ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อขายสินค้าไอที โดยมองว่าไม่จำเป็นต้องซื้อภายในงานแฟร์อีกแล้ว เพราะผู้ค้าแต่ละแบรนด์นำโปรโมชันที่ขายในงานส่งให้กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าในราคาเดียวกันได้
กลุ่ม DIY จึงเป็นตลาดล่าสุดที่ผู้จัดคอมเวิลด์ตั้งไว้ให้ต่างออกไปจากคู่แข่งอย่าง"คอมมาร์ต"หลังจากที่คอมเวิลด์เคยหันไปเน้นตลาดกล้องดิจิตอลมาแล้ว ไม่สนใจคำประกาศที่คอมมาร์ตบอกอยู่เสมอว่ายอดขายหลักจากทั้งหมด 3 พันล้านนั้นส่วนใหญ่มาจากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
และแม้จะไม่เอ่ยชื่อ แต่ข้อมูลจากวิโรจน์ก็สะท้อนความมั่นใจว่า คอมเวิลด์จะมีความพร้อมด้านการแสดงสินค้าที่หลากหลายกว่าคอมมาร์ต ซึ่ง "เออาร์" ผู้จัดงานคอมมาร์ตนั้นเพิ่งแถลงข่าวว่า “คอมมาร์ต ไทยแลนด์ 2010” จะมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-21 มีนาคม 2553 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนความพิเศษของงานคือการดึงเครือข่ายสังคมหรือ social network มาใช้
"เราจะเอา iPad สินค้าระบบปฏิบัติการหลากชนิด รวมทั้งพาเหรดอีรีดเดอร์ มาแสดงในงานนี้ งานเดือนมีนาคมอาจจะมีไม่ครบ แต่เชื่อว่าเดือนพฤษภาคมจะมีให้เห็นหลากหลายกว่า หลังจากนั้นเราจะไปจัดกิจกรรมกระตุ้นตลาด DIY ตามไอทีมอลล์ต่างจังหวัดภายในปีนี้ สิ่งที่เราทำจะช่วยเหลือห้างไอที ดึงคนเข้ามาซื้อที่ห้าง ไม่ใช่ไปจัดอีเวนท์ข้างนอกแล้วดึงคนออกไป"
ซึ่งประโยคหลังเป็นคำครหาที่งานแฟร์ไอทีได้รับอยู่บ่อยๆ
Company Related Links :
ComWorld