จับสองเอเยนต์ยาไอซ์-อี-เค-ไฟฟ์ สั่งงานจากคุกคลองเปรม

ตำรวจสวัสดิภาพเด็กและสตรี บช.น.รวบเอเยนต์ขายยาไอซ์พร้อมเปิดห้องย่านบางแคให้ให้เด็กมั่วสุมเสพยากัน ก่อนขยายผลจับเอเย่นต์รายใหญ่อีกราย สารภาพเคยทำธุรกิจประดับยนต์แต่เจ๊ง เลยหันมาค้ายาโดยรับคำสั่งจากนักโทษเรือนจำคลองเปรม ให้ไปรับยาจากชาวสิงคโปร์ไปปล่อยให้ลูกค้า

เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (23 ก.พ.) ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.บช.น.) พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.กก.ดส.บช.น. พ.ต.ต.สวัสดิ์ ภักดี สว.งานสงเคราะห์และคุ้มครอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมชาย หรืออ๋อง อิศรพันธ์กุล อายุ 50 ปี และนายประทีป หรือหลอ คงศิริ อายุ 49 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักรวม 21 กรัม ยาเค จำนวน 150 ขวด ยาอีก จำนวน 15 เม็ด ยาไฟฟ์-ไฟฟ์ 10 แผง เงินสด จำนวน 220,000 บาท และเครื่องชั่งน้ำหนัก 1 เครื่อง

พ.ต.อ.ชุมพล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. ได้รับแจ้งจากสายว่านายสมชาย เป็นเอเย่นต์ลักลอบจำหน่ายยาไอซ์และมักจะชักชวนเยาวชนมามั่วสุมเสพยากันที่ห้องพักเลขที่ 307 อาคารสบายเพลส ซอยเพชรเกษม 57 แขวงและเขตบางเเค จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นที่ห้องดังกล่าว ก็พบยาไอซ์น้ำหนัก 1 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าจึงยึดไว้เป็นของกลาง เบื้องต้นนายสมชายรับสารภาพว่าซื้อยาไอซ์มาจากนายประทีป เจ้าหน้าที่จึงขยายผลการจับกุมโดยให้นายสมชายเป็นคนติดต่อล่อซื้อยาไอซ์จากนายประทีปอีกจำนวน 20 กรัม โดยให้นำมาส่งที่ห้างบิ๊กซี ถนนบางนา-ตราด กม.3

พ.ต.อ.ชุมพล กล่าวต่อว่า ต่อมาเวลา 23.00 น.วานนี้ (22 ก.พ.) นายประทีปได้ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน ชอ-8385 กทม.มาพบตามนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นก็พบยาไอซ์จำนวนก 20 กรัม ซุกซ่อนอยู่ที่ด้านข้างประตูฝั่งคนขับ จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ 2247 อาคารสุนทรีย์อพาร์ทเม้นต์ ซอยศรีนครินทร์ 40 ก็พบยาเคแพคไว้เป็นห่อละ 5 ขวด รวมจำนวน 150 ขวด ยาอี 15 เม็ด ยาไฟฟ์ไฟฟ์ 10 แผง เงินสด 220,000 บาท และเครื่องชั่ง 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ

จากการสอบสวนนายประทีปให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจประดับยนต์ย่านวรจักรมาก่อนแต่ขาดทุนเลยปิดกิจการ แล้วหันมาค้ายาจนถูกจับมาแล้วครั้งหนึ่ง พอพ้นโทษออกมานายเปี๊ยก นักโทษเรือนจำคลองเปรม แดน 2 ซึ่งเคยรู้จักกันสมัยที่ตนเคยติดคุก ก็จะเป้นคนสั่งนำให้ไปรับยาเคมาจากชาวมาเลเซีย และสิงค์โปร์ในราคาขวดละ 1,200 บาท ก่อนจะนำไปปล่อยให้ลูกค้าในสถาบันเทิงย่านรัชดาฯ กับสุขุมวิท ในราคาขวดละ 1,500-1,600 บาท จนกระทั่งมาถูกตำรวจจับอีกครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์, ยาอี และยาเค) และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภทที่ 2 (อิลินินไฟฟ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวทั้งคู่ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป