ตำรวจกองปราบปรามตามจับกุมหนุ่มใหญ่ชาวเกาหลีใต้ที่ก่อคดีฉ้อโกง และหลอกลวงชาวเกาหลีด้วยกันเอง มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก มาหลบกบดานในเมืองไทย โดยถูกจับกุมได้ที่เมืองพัทยา
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ พ.ต.อ.สมภพ พงษ์ฤกษ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป.และ พ.ต.ท.ธวัชชัย คำแหงพล ช่วยราชการ รอง ผกก.2 บก.ป. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายคิม ดอง ฮวน (MR.KIM DONG HYUN) อายุ 48 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศเกาหลีใต้ เลขที่ SC1414397 แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จับกุมได้ที่ร้านเอ็กซ์คูล มาสซาจ เลขที่ 8/4-6 ถนนพัทยาเหนือ หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายชู แซง วอน เจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีใต้ ได้ประสานมายังกองปราบปรามให้ดำเนินการติดตามจับกุมนายคิม ดอง ฮวน ผู้ต้องหาที่หนีมากบดานในเมืองไทย หลังก่อคดีในประเทศเกาหลีใต้ 5 คดี ประกอบด้วย 1.คดียักยอกทรัพย์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548 มูลค่าความเสียหาย 200,000 ดอลล่าร์สหรัฐ 2.คดีฉ้อโกง มูลค่าเสียหาย 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2549 3.คดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหาย 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2550 4.คดีหลอกลวงให้ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่ทราบมูลค่าเสียหายโดยคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นอัยการ และ 5.คดีหลอกให้ซื้อประกันภัย ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวต่อว่า ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่า นายคิม ดอง ฮวน ได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ที่เมืองพัทยา เป็นเวลากว่า 6 ปี โดยประกอบธุรกิจสปาชื่อร้าน “เอ็กซ์คูล มาสซาจ” จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่า นายคิม ดอง ฮวน กระทำความผิดอื่นใดในเมืองไทย มีเพียงข้อมูลการอาศัยอยู่ในประเทศไทยตามหนังสือเดินทางที่ขาดอายุแล้วตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2551 สอบสวนนายคิม ดอง ฮวน ให้การรับสารภาพ จึงนำส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.อภิชาติ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ยักย้ายถ่ายเทเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย เบื้องต้นพบว่ามีเพียงธุรกิจสปาร์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมี ชาวไทยเป็นนอมินีทำธุรกรรมแทนอีกด้วย ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาจะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ดำเนินคดีต่อไป
“ในส่วนของคนร้ายที่เข้ามาใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดหรือแฝงตัวมาในลักษณะของนักท่องเที่ยวเพื่อหลบหนีคดีต่างๆ จากต่างประเทศนั้น ทางกองปราบปรามได้ประสานกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเฝ้าติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่างต่อเนื่องโดยพบข้อมูลว่ามีอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งจะเร่งจับกุมดำเนินคดีต่อไป” รอง ผบก.ป.กล่าว