หมดยุคคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอายุใช้งานแบตเตอรี่ 1-2 ชั่วโมงแล้ว วันนี้หลายแบรนด์ดังเฮโลโฆษณากันใหญ่โตว่าแบตเตอรี่ของตัวเองสามารถใช้งานได้นับ 10 ชั่วโมง คลุมทั้งตลาดเครื่องราคา 2 หมื่นต้นๆไปจนถึงเกือบ 1 แสนบาท ถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดโน้ตบุ๊กหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร คำตอบหนีไม่พ้นการเปลี่ยนแปลงของตลาดโน้ตบุ๊กทั้งไทยและทั่วโลกที่ทุกคนควรจับตา
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โตชิบานั้นประกาศตัวเป็นเจ้าของสถิติแบรนด์โน้ตบุ๊กที่มีอายุใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในตลาดไทยขณะนี้ โน้ตบุ๊กที่สามารถทำสถิตินี้ได้คือ Protege Slim T130 และ T110 ด้วยตัวเลข 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จครั้งเดียว วันถัดมาหลังการเปิดตัวของโตชิบา เอชพีก็เปิดตัวคอมพิวเตอร์ตระกูล ENVY ราคาหรูฟีเจอร์ครบด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 9 ชั่วโมง
ไม่หวั่นข้อหาโกงชั่วโมง
ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่าไม่หวั่นใจเรื่องข้อครหาว่าโตชิบาอ้างจำนวนชั่วโมงเกินจริง แม้จะยอมรับว่าในการใช้งานจริงย่อมน้อยกว่า
"ตัวเลข 11 ชั่วโมงนี้เราได้จากการทดสอบด้วยโปรแกรม MobileMask ที่เป็นมาตรฐานกลางของการทดสอบแบตเตอรี่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเกือบทุกค่ายอยู่แล้ว ทุกค่ายก็เคลมตัวเลขตรงนี้ ซึ่งหากใช้งานแบบไม่มีเงื่อนไข Protege T130 และ T110 จะได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง"
ถกลเล่าว่าที่ผ่านมา กลุ่มผู้ผลิตคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั้นจะเน้นการพัฒนาเรื่องดีไซน์มากกว่าเรื่องแบตเตอรี่ เนื่องจากการพัฒนาแบตเตอรี่เองจะต้องลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาสูงมาก ส่วนใหญ่จึงใช้แบตเตอรี่จากโรงงานผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ซึ่งมีอยู่ไม่กี่แห่งในปัจจุบัน
เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้โน้ตบุ๊ก Protege ของโตชิบามีแบตเตอรี่ทนทายาดคือโปรเซสเซอร์ Intel Ultra-low Voltage หรือ ULV ซึ่งประหยัดไฟและสามารถทำให้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไม่ต้องมีขนาดหนาและหนักอย่างที่เป็นมา ตรงนี้ถกลเชื่อว่าโน้ตบุ๊กบางเบากลุ่มประหยัดพลังงาน จะกินสัดส่วนตลาดโน้ตบุ๊กไทยได้เกิน 25% ในปีหน้า
"เน็ตบุ๊กนั้นเคยโต 400% ต่อปี ผมเชื่อว่าโน้ตบุ๊กกลุ่มบางเบาและประหยัดพลังงานอาจจะเติบโตได้แบบนั้น เพราะผู้บริโภครับรู้ว่ามันประหยัดพลังงาน สามารถตอบโจทย์การใช้งานนอกบ้าน และลดโลกร้อนได้"
เน็ตบุ๊กที่ถกลกล่าวถึงคือคอมพิวเตอร์รุ่นเล็กที่มีราคาและประสิทธิภาพต่ำกว่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ถกลเชื่อเหมือนผู้บริหารค่ายไอทีส่วนใหญ่ว่า ตลาดเน็ตบุ๊กกำลังจะถูกกลุ่มแบตเตอรี่สุดอึดเข้ามากินตลาด ซึ่งทำให้เน็ตบุ๊กต้องหาทางรอดทั้งการเพิ่มฟังก์ชัน และกลยุทธ์เรื่องราคาอย่างเต็มที่ในอนาคต
คลุมทุกระดับ
ธีรวิทย์ แม่นชนะ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์โน้ตบุ๊ก กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวชื่อ ENVY ในฐานะซับแบรนด์ใหม่ที่เอชพีจะทำตลาดไทยคู่กับซับแบรนด์ที่มีอยู่เดิมอย่าง Presario และ Pavillion ซึ่งอยู่ในตลาดกลางและล่างของเอชพีในขณะนี้ โดยผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กกลุ่มแบตเตอรี่อึดของเอชพีนั้นขยายตัวทั้งในกลุ่ม Pavillion ที่มีราคาตั้งแต่ 2 หมื่นกลางๆ และในกลุ่ม ENVY ที่มีราคาเหยียบแสนบาท
"เราขายโน้ตบุ๊กชิป ULV มานานแล้ว เปิดตัวในกลุ่ม Pavillion ไปหลายรุ่น เชื่อว่าทิศทางการขยายตัวจะเห็นชัดเจนในปีหน้า ระหว่างนี้เราจะทยอยออกมาเรื่อยๆ โน้ตบุ๊กกลุ่ม ENVY ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ก็ใช้ชิป ULV ประหยัดพลังงานจากอินเทล ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องแบบมีเงื่อนไขอยู่ที่ 9 ชั่วโมง"
ธีรวิทย์ระบุว่า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแบตเตอรี่ทนทานที่ใช้ชิปประหยัดพลังงานจากค่ายคู่แข่งอย่างอินเทลและเอเอ็มดีนั้นมียอดจำหน่ายดีในระดับใกล้เคียงกัน โดยเชื่อว่าตลาดโน้ตบุ๊กที่จะเติบโตมากที่สุดในอนาคต คือกลุ่มกลางที่มีราคาตั้งแต่ 25,000 บาทถึง 40,000 บาท
โตชิบาและเอชพีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวอย่างผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบตเตอรี่สุดอึดเท่านั้น ยังมีผู้ผลิตรายอื่นที่ชูจุดขายเรื่องจำนวนชั่วโมงแบตเตอรี่มากมาย แต่ที่ฮือฮาที่สุดเชื่อว่าเป็น Nokia Booklet 3G คอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กเครื่องแรกของโนเกียที่การันตีว่ามีอายุแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องนาน 12 ชั่วโมง ยาวนานกว่าเน็ตบุ๊กทั่วไปถึง 2 เท่า ซึ่งเอทีแอนด์ทีนั้นมีแผนวางจำหน่ายในสหรัฐฯแบบผูกสัญญา 2 ปี ในราคาไม่เกิน 200 เหรียญสหรัฐฯ จากราคาเปิดตัว 816 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินเกือบ 28,000 บาท
ถ้ามองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ผู้นำตลาดโน้ตบุ๊กในประเทศไทยอย่างเอเซอร์ ก็ได้มีการเปิดตัวซีรีส์ Timeline ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นแรกที่ใช้ชิป ULV และวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จากระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องมากกว่า 8 ชั่วโมง ในช่วงราคา 2 หมื่นต้นๆ ไปจนถึง 6 หมื่นกว่าบาท
อย่างไรก็ตาม โน้ตบุ๊กแบรนด์ไทยอย่างเอสวีโอเอที่เพิ่งเปิดตัวโน้ตบุ๊กตระกูล Light & Thin ซึ่งใช้ชิปประหยัดพลังงานตระกูล ULV ของอินเทล กลับประกาศอายุการใช้งานแบตเตอรี่แบบไม่มีเงื่อนไข (เปิดทุกอย่างพร้อมกัน) ที่ 3 ชม.เท่านั้น ราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท เปิดตัวพร้อมกันจำนวน 8 รุ่น ตั้งแต่แพลตฟอร์มเซลเลอรอนจนถึงคอร์ทูดูโอ มีขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว และ 14 นิ้ว น้ำหนักต่ำกว่า 1.5 กิโลกรัม
"เราจะไม่เคลมจำนวนชั่วโมงแบตเตอรี่มากๆให้ผู้บริโภคสับสน แต่กล้ารับประกันเลยว่าหากเปิดทุกอย่างพร้อมกันใช้ได้ 3 ชั่วโมงแน่นอน หลายๆอย่างทำให้เราสามารถทำราคาได้ต่ำกว่าคนอื่น หนึ่งคือเราหักกำไรน้อย เพราะเราอยากเสนอให้โน้ตบุ๊กบางเบาและประหยัดพลังงานเป็นแมส อีกอย่างคือผู้ผลิตชิปปรับราคาแพลตฟอร์มลง (ซีพียูและแมนบอร์ด) ตรงนี้ช่วยได้เยอะ ราคาก็เลยลงมาด้วย" จักเรศ ลือวัฒนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าว
แม้ที่สุดแล้ว จำนวนชั่วโมงใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องของโน้ตบุ๊กนั้นจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน แต่อย่างน้อยที่สุด การประกาศจำนวนชั่วโมงที่เพิ่มขึ้นย่อมแสดงให้เห็นนิมิตหมายอันดีที่แสดงว่าเทคโนโลยีได้ก้าวผ่านขีดจำกัดเดิมๆไปแล้วบางส่วน ซึ่งในอนาคต เราอาจจะได้เห็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอายุใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงก็ได้
Company Related Links :
Toshiba
HP
Acer
