หลังจากตกเป็นเป้าวิจารณ์ว่าถอดแบบ "MacBook Pro" ตั้งแต่ตัวเครื่องจนถึงคีย์บอร์ด ล่าสุดเอชพีตัดสินใจส่ง HP ENVY หน้าจอ 13 และ 15 นิ้ววางตลาดไทยแล้วในราคา 89,900 และ 99,900 บาทไม่รวมภาษี ระบุว่าไม่ได้ลอกแบบใครแต่พัฒนาตามความต้องการผู้บริโภคที่ได้วิจัยมา หวังโตยาวโดยแยก ENVY เป็น"ซับแบรนด์ใหม่"ลุยตลาดหรูที่เน้นดีไซน์และประสิทธิภาพแบบไม่เกี่ยงราคา
นายประเสริฐ จรูณไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเล็ตต์แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างการเปิดตัวคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กตระกูล ENVY (เอ็นวี่) รุ่นใหม่ของเอชพีว่า ชื่อ ENVY จะเป็นซับแบรนด์ใหม่ที่เอชพีจะทำตลาดไทยคู่กับซับแบรนด์ที่มีอยู่เดิมอย่าง Presario และ Pavillion ซึ่งคลุมตลาดกลางและล่างของเอชพีในขณะนี้
"การเปิด ENVY เป็นซับแบรนด์ใหม่ไม่ได้ทำเพราะต้องการดึงมาร์จิ้น แต่ทำเพราะเราต้องการมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมครบทุกระดับ ตามที่ผู้บริโภคต้องการ ฟีเจอร์เรื่องคุณภาพเสียงหรือโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่มีใน ENVY ก็ไม่ได้ออกมาเพื่อแข่งกับใคร แต่เราทำตามทีมวิจัยของเอชพีที่สำรวจแล้วพบว่าผู้บริโภคต้องการอะไร"
คอมพิวเตอร์ตระกูล ENVY ที่ผู้บริโภคจะเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเกือบ 1 แสนบาทนั้นมาพร้อมกับวัสดุอัลลอยด์ รุ่นหน้าจอ 13 นิ้วมาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel Core 2 Duo บาง 0.8 นิ้ว น้ำหนัก 1.69 กิโลกรัม รุ่นหน้าจอ 15 นิ้วใช้ชิป Intel Core i7 หน่วยความจำระบบ DDR3 เสียบเพิ่มได้สูงสุด 16GB (สล็อต 4 ช่อง) ขนาดบาง 1 นิ้ว น้ำหนักเริ่มต้น 2.35 กิโลกรัม มาพร้อมโปรแกรม Corel Photo&Video เวอร์ชันเต็ม ทั้ง 2 รุ่นใช้ชิป ULV ประหยัดพลังงานจากอินเทล ระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ต่อเนื่องแบบมีเงื่อนไขอยู่ที่ 9 ชั่วโมง
"ย้ำว่านี่ไม่ใช่โน้ตบุ๊กสำหรับทุกคน แต่เป็นโน้ตบุ๊กสำหรับกลุ่มที่ต้องการดีไซน์พิเศษ เน้นแบรนด์ และใช้งานได้ทุกฟังก์ชัน สัดส่วนของกลุ่มนี้ไม่ใหญ่แน่นอน แต่ในกลุ่มที่ซื้อโน้ตบุ๊กเกิน 60,000 บาทนี่เราอาจจะได้ทั้งกลุ่ม เราจะไม่วางขายทุกร้าน วางเฉพาะบางร้านของเอชพีช็อป ไม่ได้วางรวมกับรุ่นอื่น แต่ต้องมีสแตนด์ต่างหาก มีเซลล์เฉพาะคอยบอกว่าฟีเจอร์ไหนเหมาะกับอะไร เป้ายอดขายยังบอกไม่ได้ตอนนี้"
ประเสริฐระบุว่าผลิตภัณฑ์กลุ่ม Presario และ Pavillion เป็นแหล่งรายได้หลักในกลุ่มคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเอชพีตลอดช่วงที่ผ่านมา แต่หลังการเปิดซับแบรนด์ ENVY อย่างจริงจัง เชื่อว่าสัดส่วนรายได้ของ Presario และ Pavillion จะเปลี่ยนมาอยู่ที่ราว 80% และ ENVY จะทำได้ราว 20%
"จุดเด่นที่เราจะเน้นใน ENVY คือต้องมีบริการหลังการขายที่ไม่ธรรมดา มีแผนจะทำ CRM กับกลุ่มนี้ แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้"
CRM ที่เอชพีเคยทำนั้นอยู่ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Pavillion เป็นการดึงลูกค้าเอชพีมาทำบัตรสมาชิกเพื่อรับส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรเอชพีเช่น โรงภาพยนตร์ ค่ายเพลง และผู้จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดัง
"เรื่องการเปิดตัวโน้ตบุ๊กราคาแพงในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจไม่หวั่นใจ เพราะในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส ในส่วนนักลงทุนไทยได้รับผลกระทบไม่มาก ออกจะทรงตัวและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น"
Company Related Links :
HP
