ดีคอม กรุ๊ปปรับยุทธศาสตร์การทำธุรกิจ ชูกลยุทธ์มัลติแบรนด์ และขยายธุรกิจสู่ตลาดรถยนต์ นาฬิกาหรู อสังหาริมทรัพย์ หวังกระจายความเสี่ยง พร้อมเจรจาต่างชาติเข้าถือหุ้นบริษัทในเครือ ตั้งเป้ารายได้ปี 53 โต 30% มูลค่ากว่า 8 พันล้านบาท
นายวิกร วิวิธคุณาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีคอม กรุ๊ป กล่าวว่า ดีคอมได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในเชิงรุกมากขึ้น โดยธุรกิจหลักที่เกี่ยวกับไอทีได้มีการนำสินค้าออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 กลุ่มคือ 1.PC Component 2.Finished Good 3.Networks Solution โดยจะร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตรทั้งในและนอกประเทศภายใต้กลยุทธ์มัลติแบรนด์ เพื่อสร้างความหลากหลายในกลุ่มธุรกิจไอที
นอกจากนี้ ยังเข้าสู่ธุรกิจการจัดจำหน่ายรถยนต์และนาฬิกาจากแบรนด์ระดับโลก ซึ่งได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร โดยมีบริษัทในเครือประกอบด้วยบริษัท ดี ดิสทริบิวแอนด์มาร์เก็ตติ้ง บริหารงานด้านการตลาดและผลิตภัณฑ์ บริษัท ดี โลจิสแอนด์เซอร์วิส บริหารงานด้านการบริการหลังการขายและระบบขนส่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับต่างชาติเพื่อทำเป็นบริษัทร่วมทุน เนื่องจากต้องทำเอาต์ซอร์สให้กับอินเตอร์แบรนด์ รวมถึงการซ่อมเมนบอร์ดด้วย บริษัท วิลมิล ซึ่งดำเนินกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และนาฬิกา ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสทางการตลาด เพราะมีกำลังซื้อสูง โดยรถยนต์กับนาฬิกาจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 3 ปีนี้
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ทำบ้านจัดสรรที่อุดรธานีไปแล้ว 2 โครงการ โดยโครงการแรกมี 14 หลัง ลงทุนไป 40 ล้านบาท โครงการที่ 2 มี 62 หลังลงทุน 150 ล้านบาท และจำหน่ายจนหมดแล้ว
ล่าสุดดีคอมได้ร่วมกับเอ็มเอสไอผู้ผลิตเมนบอร์ดและการ์ดจอ ซึ่งมีการเปิดตัวสินค้าออกสู่ตลาดไปแล้ว นอกจากนี้ ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กของโตชิบาจากเดิมที่ทำเฉพาะแบรนด์อัสซุส และยังอยู่ระหว่างการเจรจากับซัปพลายเออร์อีก 2-3 ราย ส่วนโปรเซสเซอร์ก็ขายของเอเอ็มดีด้วย จากเดิมที่เป็นอินเทลเจ้าเดียว นอกจากนี้ ยังขายแบล็กเบอรี่ให้กับเอไอเอสพีดีเอโฟนของแอลจี จากเดิมที่ขายเพียงของอัสซุส
“ธุรกิจเราเมื่อประสบความสำเร็จ อย่าง 3 กลุ่มุธุรกิจมีมาร์จิ้นมากกว่า 10% พอเรามีเงินก็ขยายไปธุรกิจอื่น และขายสินค้าหลากหลายขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยง อย่างกลุ่มตลาด Luxury Products ในไทย ทั้งเรื่องรถยนต์และนาฬิกาถือเป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน”
ผู้บริการดีคอมเชื่อว่าจากการขยายธุรกิจครั้งนี้ จะทำให้ดีคอม กรุ๊ปมีความแข็งแกร่งด้านการเงินเพิ่มขึ้น และคาดว่ายอดขายร่วมทุกกลุ่มธุรกิจในรอบปี 2553 จะมีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท หรือโตประมาณ 30%
Company Related Links :
Dcomputer