อัสซุสฝันขึ้นท็อป3โน้ตบุ๊กโลก ปรับโครงสร้างลุยตลาดราชการ

อัสซุสตั้งเป้าเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกให้ได้ใน 3 ปี ส่วนในไทยเชื่อว่าจะขึ้นอันดับ 3 ได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ มั่นใจทำได้ไม่ยากหลังประเดิมปรับโครงสร้างองค์กรอัสซุสประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี แถมตั้งทีมลุยตลาดราชการและต่างจังหวัดเพิ่ม เชื่อจะเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 3 ปีนี้

พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการบริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก "ยูซีรีส์ (U Series)" 5 รุ่นใหม่ของอัสซุสที่มีน้ำหนักไม่ถึง 2 กิโลกรัมว่า สถิติปี 51 อัสซุสมีส่วนแบ่งตลาดโน้ตบุ๊กอยู่อันดับ 9 ของโลก ตั้งเป้าว่าจะขึ้นสู่อันดับ 3 ของโลกให้ได้ในปี 2555 หรือ 3 ปีนับจากนี้ โดยมั่นใจว่า โน้ตบุ๊กยูซีรีส์ที่เปิดตัวใหม่จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโน้ตบุ๊กให้อัสซุสได้ 10-15% ในปลายไตรมาสที่ 3 ซึ่งนอกจากโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ อัสซุสยังปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สามารถเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้

"ที่ผ่านมาเราเน้นขายปลีกในกรุงเทพฯ สัดส่วนตลาดคอนซูเมอร์อยู่ที่ 80% ตอนนี้เราปรับโครงสร้าง มีทีมงานและตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ที่เน้นขยายตลาดโปรเจกต์ตามราชการ บริษัทองค์กร และต่างจังหวัดมากขึ้น ตอนนี้เราพยายามช่วยให้ดีลเลอร์ต่างจังหวัดมีแรงในการทำกิจกรรมของอัสซุสมากขึ้น เริ่มฟอร์มทีมมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว คิดว่าจะเห็นผลในไตรมาสนี้"

พรเทพอธิบายว่า จากเดิมที่อัสซุสต้องดูทุกผลิตภัณฑ์ มองภาพกำไรเป็นภาพรวม แต่ 6 เดือนที่ผ่านมาอัสซุสได้แยกธุรกิจออกเป็น 3 หน่วย ได้แก่ Open Platform BU ดูแลผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เช่นเมนบอร์ด และหน้าจอแอลซีดี, System BU ธุรกิจคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊ก และ Handheld BU ธุรกิจอุปกรณ์พกพา โดยแต่ละหน่วยจะมีทีมขายเฉพาะทาง จุดนี้พรเทพระบุว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การจำหน่ายของอัสซุสในอนาคต

"เดิมคือเราพยายามให้ตัวแทนจำหน่ายอัสซุสมีผลิตภัณฑ์ครบไลน์มากที่สุด แต่ตอนนี้คือจะมีทีมเข้าไปสำรวจ ถ้าตัวแทนไม่ถนัดขายก็ไม่เป็นไร ก็เปิดให้ตัวแทนรายอื่นรับไปทำแทน ข้อดีที่เกิดขึ้นคือแต่ละคนจะได้ทำงานตามความถนัดได้ดีขึ้น การแยกธุรกิจแบบนี้ทำให้เรารู้ว่าธุรกิจใดควรปรับตรงไหน และกลุ่มไหนบ้างที่เราควรจะ Spin off แยกไปตั้งบริษัทใหม่ เช่น ธุรกิจ Case ที่เราสปินออฟออกไปแล้ว"

พรเทพยอมรับว่าการปรับโครงสร้างและการแยกธุรกิจออกเป็น 3 ส่วนเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจโลกและปัญหาภายในองค์กรของอัสซุสเอง

"Open Platform BU นั้นเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างนิ่ง ขณะที่ System BU ยังสามารถเติบโตได้มาก เราเชื่อว่าจะเติบโตอีก 100% ในปีนี้ ขณะที่ Handheld BU เราก็จะรีแบรนด์เพื่อทำตลาดผ่านดีลเลอร์รายใหม่ จะแถลงให้ชัดเจนภายในไตรมาส 3 นี้ ทั้งหมดจะทำให้เราให้ความสนใจแต่ละธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น"

โน้ตบุ๊กยูซีรีส์ที่อัสซุสเพิ่งเปิดตัวนั้นเป็นโน้ตบุ๊กกลุ่ม Ultra Thin ซึ่งเน้นดีไซน์และความบางของเครื่อง จุดนี้ เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่าคอมพิวเตอร์กลุ่มบางพิเศษนี้จะเป็นสีสันของตลาดโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดในปีนี้

"ผมเชื่อว่า Ultra Thin จะเป็นเซกเมนต์ที่ทุกคนลงมาเล่น ตอนนี้ตลาดเน็ตบุ๊กกินตลาด Ultra Thin อยู่ เชื่อว่าปีหน้า เราจะได้เห็นตลาด Ultra Thin เติบโตชัดเจนกว่านี้"

ขณะนี้อัสซุสประเทศไทยสามารถทำรายได้จากกลุ่ม Open Platform BU ราว 55%, System BU 45% และ Handheld BU 5% โดยรายได้จากเน็ตบุ๊ก EeePC มีสัดส่วนที่ 10% สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กพรเทพเชื่อว่ายังคงที่ เชื่อว่าจะมีทิศทางดีขึ้นในไตรมาส 3 ของปีนี้

Company Related Links :
ASUS