เผยสถิติไวรัสระบาดในคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จากปีที่ผ่านมา 1 วินาทีพบ 2.2 ตัว มาในปีนี้เพิ่มเป็น 7.7 ตัว เอเซอร์เสนอบริการเฝ้าระวังภัยไวรัสบนพีซีและเซิร์ฟเวอร์แบบ 24 ชั่วโมง ภายใต้ “ SAFE”เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเอง
จากสถิติทั่วโลกพบว่าในปีที่ผ่านมาทุก 1 วินาทีมีการพบไวรัส 2.2 ตัว และมาในปีนี้พบว่า 1วินาทีมีการพบไวรัสเพิ่มเป็น 7.7 ตัว แสดงให้เห็นการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว โดยมีประเทศพบไวรัสมากที่สุดคือ จีน รองลงมาคือรัสเซีย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 16 มาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 14 และเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 15 โดยแนวโน้มการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นทุกปี ส่วนหนึ่งเพราะมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมากขึ้น ( ADSL )
ในส่วนของเอเซอร์นอกจากเป็นผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่เป็นโปรดักต์แล้วยังให้ความสำคัญการเฝ้าระวังในรูปแบบของการมอนิเตอร์ไวรัสพบพีซีและเซิร์ฟเวอร์อีกด้วย ภายใต้บริการ eDC เอเซอร์ เสนอบริการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนไวรัส (Acer Anti-Virus Monitoring Service - AVOC) ให้บริการด้านการจัดการความปลอดภัย ในรูปแบบบริการเอาต์ซอร์สการตรวจสอบความปลอดภัยและการบริการการจัดการด้านความปลอดภัย โดยมี Smart & Automatic Filter Engine (SAFE) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เอเซอร์พัฒนาขึ้นมาเองให้บริการ
นายโสภณ ปานฉิม ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า AVOC ไม่ใช่แอนติไวรัสไลเซนส์แต่เป็นการนำโปรดักต์มาบวกกับการบริการเพื่อนำเสนอให้ลูกค้าในรูปแบบการมอนิเตอร์ตรวจสอบความปลอดภัยบนพีซีและเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง ลูกค้าเพียงแต่ติดตั้งระบบ SAFE ในคอนโซลบนเซิร์ฟเวอร์ (Console Server) ของระบบป้องกันไวรัสต่างๆ จากนั้นระบบจะทำหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบพร้อมส่งข้อมูลกลับไปยังศูนย์ AVOCทันทีเพื่อวิเคราะห์การทำงานของระบบป้องกันไวรัสรวมทั้งพฤติกรรมของตัวไวรัสนั้น ในเวลาเดียวกัน ลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนสถานะของไวรัสที่คุกคามและสามารถจัดการกับไวรัสต่างๆได้ นอกจากนี้ บริการ AVOC สามารถช่วยเหลือลูกค้าในการสร้างระบบเฝ้าระวังไวรัสเชิงรุกและลดความเสี่ยง รวมถึงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากไวรัสต่างๆ บริการของ AVOC ยังช่วยขยายศักยภาพการแจ้งเตือนไวรัสภายในระบบและทำการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยรวมถึงการอัปเกรดระบบป้องกันไวรัสอยู่ตลอดเวลา
นายเร็กซ์ วู ผู้อำนวยการฝ่ายการขาย และการตลาด เอเซอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เอเซอร์ องค์กรธุรกิจมีความเสี่ยงตลอดเวลาจากการคุกคามเครือข่ายและไวรัสซอร์สการเฝ้าระวังการคุกคามจากไวรัสเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ SME ที่มีขนาดองค์กรไม่ใหญ่นัก ไม่คุ้มกับการจ้างพนักงานมานั่งประจำเพื่อเฝ้าระวังไวรัสอย่างเดียวเมื่อเทียบกับการเอาต์ซอสหน่วยงานภายนอกดูแลจะคุ้มว่า
“การถูกโจมตีจากการเจาะระบบโดยแฮกเกอร์และไวรัสนั้นคล้ายกันมาก เครื่องพีซีของผู้ใช้คือจุดอ่อนที่จะติดไวรัสได้ ฝ่ายดูแลระบบ (MIS) ต้องออกกฎระเบียบเพื่อจัดการกับคอมพิวเตอร์ที่ถูกโจมตี ด้วยบริการของ AVOC จะมีการอัปเดตสถานะของระบบฯ ทุกวัน”
โสภณ กล่าวว่า เอเซอร์ eDC ได้พัฒนาเทคโนโลยี SAFE ขึ้นมาเองซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยลูกค้าในการเฝ้าระวังและป้องกันระบบจากไวรัสที่เข้ามาโจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการทำงานที่มีความยืดหยุ่น และสามารถรองรับการพัฒนาระบบป้องกันไวรัสที่มีรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มเติมได้ในอนาคต สำหรับแพลตฟอร์มของ SAFE เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวังตรวจสอบระบบป้องกันไวรัสที่แตกต่างกันได้ รวมทั้งคอยติดตามการทำงานของซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัส ได้แก่ ไซแมนเทค เทรนด์ไมโคร แม็คอาฟี่ และแคสเปอร์สกี โดยมีข้อมูลที่ใหม่และทันสมัยที่สุดเกี่ยวกับไวรัส ทำให้เอเซอร์แนะนำลูกค้าให้สามารถกำจัดวงของไวรัสได้
ก่อนหน้าที่เอเซอร์จะเปิดตลาดเป็นผู้ให้บริการมอนิเตอร์การเฝ้าระวังไวรัสในประเทศไทยเอเซอร์เปิดบริการนี้แล้วที่ไต้หวัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 2 ประเทศต่อไปที่จะเปิดบริการคือ มาเลเซีย และจีน
ในไต้หวันเอเซอร์เป็นผู้นำในธุรกิจบริการนี้ด้วยส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 70% ส่วนในประเทศไทยจะทำตลาดผ่านบริษัท เมโทร ซิสเต็มส์ และบริษัท ริกโก้ โดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าSMBที่มีขนาดการใช้งาน 50 เครื่องลงมา และตลาดที่เป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ คาดว่าถึงสิ้นปีจะทำตลาดในกลุ่มลูกค้า SMBได้ประมาณ 100 รายและ กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ได้ประมาณ 10 ราย โดยคิดอัตราการบริการ 30,000 บาทต่อปี สำหรับกลุ่มลูกค้า SMB
Company Related Links :
Acer