ไอบีเอ็มนำซอฟต์แวร์ใหม่ในกลุ่ม ‘เรชันแนล’ รวมทั้งบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดประเทศไทย ช่วยบริหารความเสี่ยงและลดค่าใช้จ่าย ชูจุดขายเป็นเอ็นทูเอ็น โซลูชัน และราคาเริ่มลดลง
แคทธี แมนเดลสไตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มซอฟต์แวร์เรชันแนล ไอบีเอ็ม คอร์ปอเรชัน กล่าวว่า ไอบีเอ็มได้นำซอฟต์แวร์ใหม่ในกลุ่ม ‘เรชันแนล’ รวมทั้งบริการใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดประเทศไทย เพื่อช่วยให้การลงทุนทางด้านซอฟต์แวร์ขององค์กรทำงานประสานกับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยให้องค์กรบริหารความเสี่ยงและลดค่าใช้จ่าย ด้วยการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบและประเมินสถานะของโครงการต่างๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ และทำให้โครงการสร้างผลลัพธ์ให้แก่องค์กรอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ปัจจุบัน การตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาด ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ผู้บริหารไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ยากจะแก้ไขตามมา จากผลงานการวิจัยจากนิตยสารบิสิเนส วีกพบว่า ผู้บริหารถึง 77% ตระหนักดีว่าการตัดสินใจทางธุรกิจที่มีสาเหตุมาจากการได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ครบถ้วน อาจก่อให้เกิดปัญหาสำคัญตามมาได้
โดยที่จริงแล้วปัญหาดังกล่าวสามารถป้องกันได้ล่วงหน้า หนึ่งในวิธีการป้องกันปัญหาดังกล่าวก็คือ ผู้บริหารต้องเปลี่ยนมุมมองการลงทุนทางด้านซอฟต์แวร์ขององค์กรเสียใหม่ โดยแทนที่จะมองการลงทุนเหล่านั้นเป็นค่าใช้จ่ายสิ้นเปลือง แต่ต้องมองว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวคือการลงทุนในสินทรัพย์อันมีค่าขององค์กร เนื่องจากผู้บริหารสามารถใช้ประโยชน์จากการลงทุนดังกล่าว และดึงประโยชน์จากสถานะต่าง ๆ การทำงานของซอฟต์แวร์ที่องค์กรใช้อยู่พร้อม ๆ กับความต้องการทางธุรกิจอื่น ๆ ขององค์กรมาใช้เพื่อให้การตัดสินใจทางธุรกิจสามารถทำได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพดีขึ้น
เครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถทำเรื่องดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ซอฟต์แวร์ เรชันแนล อินไซต์ ซอฟต์แวร์โซลูชันที่ช่วยประเมินผลการลงทุนและบริหารโครงการทางด้านซอฟต์แวร์ในองค์กร รวมทั้งช่วยให้ผู้บริหารสามารถวัดผล และบริหารจัดการผลงานของทีมงานต่าง ๆ ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเมตตริก หรือแดชบอร์ด มาใช้ในการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาต้นตอที่ทำให้โครงการต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ขององค์กรเกิดความล่าช้า ยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาองค์กรหลายแห่งมักเสียโอกาสที่จะใช้ประโยชน์จากบทเรียนที่เคยผ่านมากับโครงการทางด้านซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ทั้งจะเป็นจากโครงการที่เคยทำแล้วประสบความสำเร็จหรือผิดพลาดมาก่อน ด้วยเฟรมเวิร์กตัวใหม่ของไอบีเอ็ม คือ Measured Capability Improvement Framework (MCIF) องค์กรสามารถใช้เฟรมเวิร์กดังกล่าว เชื่อมโยงและปรับปรุงการพัฒนาระบบไอทีให้เข้ากับการพัฒนาความสามารถทางธุรกิจ เพื่อทำให้โครงการด้านซอฟต์แวร์ที่ทำอยู่ได้ผลลัพธ์สูงสุด โดยมุ่งเน้นการวัดผลโครงการทั้งในด้านวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและทางด้านไอทีทั้งในอดีตและปัจจุบัน แล้วนำมาปรับใช้กับโครงการในปัจจุบันให้เกิดผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
ผู้บริการไอบีเอ็มเชื่อว่าด้วยความสามารถของผู้บริหารในการป้องกันความล่าช้าหรือข้อผิดพลาดต่าง ๆ ต่อโครงการทางด้านซอฟต์แวร์ขององค์กร ก็มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของงานในท้ายที่สุด ด้วยซอฟต์แวร์เรชันแนล ซิสเต็ม อาคิเท็ค ซอฟต์แวร์เครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรปรับใช้โครงการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการใหม่ๆ ด้านไอทีและทำให้โซลูชันที่พัฒนาขึ้นสามารถทำงานสัมพันธ์กับแผนงานทางธุรกิจโดยตรง ช่วยลดช่องว่างระหว่างธุรกิจและไอที อีกทั้งช่วยให้สินทรัพย์ทางด้านไอทีขององค์กรทำงานสอดคล้องกับความผันผวนต่าง ๆ ได้
ขณะเดียวกัน ยังจะช่วยบริหารจัดการด้านการเงิน ทรัพยากรบุคคล และตารางการทำงาน เพื่อช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงการทางด้านซอฟต์แวร์ล่วงหน้าได้ ผู้บริหารไอบีเอ็มย้ำว่าจุดเด่นที่เป็นจุดขายของซอฟต์แวร์ Tool นี้ คือความเป็นเอ็นทูเอ็น โซลูชัน และราคาที่ลดลงมาให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ จากเดิมผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็มอยู่ในระดับราคาที่สูงมาก
Company Related Links :
IBM