xs
xsm
sm
md
lg

จัสเทลเย้ยศก.ชะลอตัวไม่ระคายผิว ยิ้มคนไทยเล่นเน็ตดันรายได้ปีนี้ 800 ล้านบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพเด็กไทยยิ้มแย้มหน้าคอมพิวเตอร์ ล่าสุดจัสเทลเผยว่าคนไทยมีอัตราการเล่นอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นแม้เศรษฐกิจชะลอตัว ส่งให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ทะลุ 800 ล้านบาท
"จัสเทล"ยิ้มปีนี้รายได้ 800 ล้านบาทเกินเป้าที่ตั้งไว้ 680 ล้านบาทแค่ครึ่งปีทำเงินไปแล้ว 420 ล้านบาท เศรษฐกิจชะลอตัวไม่กระทบคนใช้ที่ต้องการความเร็วสูงขึ้น ชี้ 3G ไวแม็กซ์ จะทำให้ประเทศไทยมีความเร็วบรอดแบนด์ต่ำสุด 4 กิกะบิต เตรียมทุ่มพันล้านบาทจับมือพันธมิตรต่างชาติลงทุนเคเบิลใต้น้ำดันไทยเป็นฮับไอซีทีใน 3-5 ปี

นายวิทยา ลักษวุธ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการขายบริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค กล่าวว่าจัสเทลเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากเข้ามาให้บริการอินเทอร์เน็ต เกตเวย์เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เกินเป้าหมายที่วางไว้ 680 ล้านบาท เป็นประมาณ 700-800 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ไปแล้ว 420 ล้านบาท แบ่งเป็นไตรมาส 1 มีรายได้ 245ล้านบาทและไตรมาส 2 มีรายได้ประมาณ 270 ล้านบาท ในขณะที่ปีแรกที่จัสเทลเปิดตัวปี 2550 มีรายได้ 80 ล้านบาท ปี2551 มีรายได้ 380 ล้านบาทส่วนในปีหน้าจัสเทลตั้งเป้าหมายทำรายได้ 900 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้สภาพเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องแต่ความต้องการในการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไม่ได้มีจำนวนลดลง แต่กลับมีความต้องการใช้งานและมีความต้องการความเร็วมากขึ้นโดยปีนี้มีจำนวนการใช้แบนด์วิธเพิ่มขึ้นเป็น 70 กิกะบิตและมีแนวโน้มความต้องการใช้แบนด์วิธเพิ่มขึ้นคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ตัวเลข 2 หลักในทุกๆปี

‘ปัจจุบันมูลค่าตลาดเกตเวย์ระหว่างประเทศอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ยปีละ10-15 % ต่อปีซึ่งปัจจุบันจัสเทลมีส่วนแบ่งการตลาด 20 % โดยที่ผ่านมาตลาดเกตเวย์ระหว่างประเทศเติบโตได้มากขึ้นเป็นเพราะมีการเปิดเสรีเกตเวย์ระหว่างประเทศ’นายวิทยากล่าว

สำหรับผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะยังสามารถเติบโตเช่นเดียวกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีความต้องการเพิ่มแบนด์วิธเพื่อใช้งานธุรกรรมออนไลน์มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่นลูกค้ากลุ่มธนาคาร ที่ต้องการเพิ่มแบนด์วิธจาก 10 เมกะบิต เป็น 45 เมกะบิตเพื่อรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์

นายสมชาย ตรีรัตนนุกูล ผู้จัดการทั่วไป จัสเทล เปิดเผยว่า การเลื่อนให้ใบอนุญาต 3G และไวแมกซ์ ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เป็นต้นปีหน้าส่งผลให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่คึกคักและเติบโตเท่าที่ควรโดยจัสเทลได้ลงทุนเทคโนโลยีล่าสุด NG-DWDM เป็นเส้นทางใหม่ด้วยแบนด์วิธเริ่มต้น 40 กิกะบิต และขยายเกตเวย์ผ่านสายส่งไฟฟ้าแรงสูงอีก 10 กิกะบิตเพื่อรองรับการขยายตัวของบรอดแบนด์ และการเกิดขึ้นของ 3Gและไวแม็กซ์ซึ่งเดิมบริษัทได้ประมาณการไว้ว่า 3G และไวแมกซ์จะเกิดขึ้นในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทลงทุนก่อนเทคโนโลยี 3Gและไวแมกซ์จะให้บริการจริง

"หากเทคโนโลยี 3G และไวแม็กซ์เกิดขึ้น จะทำให้มีปริมาณการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันไทยมีจำนวนผู้ใช้งานบรอดแบนด์ต่อประชากรเพียง 5-6 % ขณะที่ประเทศเวียดนามมีจำนวนผู้ใช้งานบรอดแบนด์ต่อจำนวนประชากรถึง 15% การมี 3G และไวแมกซ์จะช่วยให้บรอดแบนด์เข้าถึงผู้ใช้แบบตัวต่อตัว ซึ่งอาจจะมีผู้ใช้ถึง 50 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 60 ล้านคน ในขณะที่บรอดแบนด์ทางสายสามารถเข้าถึงประชากรเป็นครัวเรือน"

นอกจากนี้หากมีการใช้งาน 3G ในประเทศไทยเชื่อว่าความเร็วบรอดแบนด์ขั้นต่ำในประเทศจะอยู่ที่ 4 เมกะบิต เนื่องจากเทคโนโลยี 3G สามารถให้ความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตประมาณ 4-5 เมกะบิตฉะนั้นผู้ประกอบการอินเทอร์เน็ตทางสายจะต้องเพิ่มความเร็วให้สูงกว่าผู้ให้บริการ 3G แบบไร้สาย

นายสมชายย้ำว่าจัสเทลตั้งเป้าผลักดันประเทศไทยให้เป็นไอซีทีฮับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 3-5 ปีโดยมีแผนร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการต่างชาติจำนวน 2 รายสร้างเคเบิลใต้น้ำในแถบอ่าวไทยตะวันออก ละอันดามันนตะวันตกโดยจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท ในลักษณะการร่วมลงทุน ซึ่งการเป็นไอซีทีฮับจะต้องมีการลงทุนเคเบิลใต้น้ำดังกล่าว

Company Related Links :
Jastel
กำลังโหลดความคิดเห็น