ศาลอัยการนิวยอร์กสั่งบริษัทแอนตี้ไวรัสเบอร์หนึ่งและสองของสหรัฐฯอย่างไซแมนเทคและแมคอาฟี (Symantec,McAfee) จ่ายเงินจำนวน 375,000 เหรียญสหรัฐเพื่อชดใช้ค่าเสียหายในข้อหาคิดค่าธรรมเนียมต่ออายุใช้งานซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติและไม่มีการแจ้งให้ลูกค้าทราบ แม้ทั้งสองบริษัทจะยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ว่าทำไปเพื่อต้องการปกป้องลูกค้าเท่านั้น
ศาลสหรัฐฯคุ้มครองผู้บริโภคเต็มที่ด้วยการตัดสินให้ทั้งสองบริษัทมีความผิดฐานไม่ให้ข้อมูลแก่ลูกค้าก่อนว่าจะมีการคิดค่าต่ออายุซอฟต์แวร์แบบอัตโนมัติ จนเป็นผลให้ลูกค้าถูกเก็บค่าบริการโดยไม่ได้ยินยอม โดยนอกจากคำสั่งปรับ ศาลยังระบุให้ทั้งสองบริษัทแจ้งข้อมูลเงื่อนไขการต่ออายุซอฟต์แวร์ทันทีที่มีการสมัครสมาชิก
การให้บริการแบบต่ออายุสมาชิกอัตโนมัตินั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปีแล้ว และกลายเป็นเรื่องธรรมดาในอุตสาหกรรมแอนตี้ไวรัสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แมคอาฟีและไซแมนเทคยืนยันว่าการต่ออายุสมาชิกแบบอัตโนมัติทำไปเพื่อป้องกันไม่ให้คอมพิวเตอร์พีซีของลูกค้ามีความเสี่ยง ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำนี้ทำให้ลูกค้าปลอดภัยขึ้นจริง แต่ก็ทำให้รายได้ของทั้งสองมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้น
ไซแมนเทคเริ่มตั้งค่า"ต่ออายุซอฟต์แวร์อัตโนมัติ"เป็นค่าเริ่มต้น (default) แก่ลูกค้าในอเมริกาเหนือตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2005 ก่อนจะขยายไปทดลองยังภูมิภาคอื่นทั่วโลก ขณะที่แมคอาฟีเริ่มทดลองก่อนเมื่อปี 2001 โดยลูกค้าจะชำระค่าบริการปีแรกเมื่อแรกเข้า ก่อนจะได้รับใบเสร็จอัตโนมัติในปีต่อไป
แม้จะยอมจ่ายค่าปรับแต่โดยดี แต่ทั้งสองบริษัทยืนยันว่าได้มีการพัฒนาให้ผู้ใช้สามารถยกเลิกการตั้งค่านี้ออกไปโดยสะดวก โดยไซแมนเทคได้เปิดกว้างให้ลูกค้าสามารถยกเลิกการต่ออายุซอฟต์แวร์จากหน้าให้บริการของค่ายอื่น เช่น ลูกค้าที่ต้องการใช้แอนตี้ไวรัสของยอร์ตัน (Norton) ก็สามารถบอกเลิกการเป็นสมาชิกกับไซแมนเทคได้จากหน้าเว็บเพจของนอร์ตันโดยตรง ขณะที่ลูกค้าแมคอาฟีก็สามารถยกเลิกบริการได้จากคอลล์เซ็นเตอร์โทรฟรีด้วย
ทั้งไซแมนเทคและแมคอาฟีตกลงคืนค่าบริการต่ออายุสมาชิกแบบอัตโนมัติแก่ลูกค้าภายใน 60 วันนับจากวันออกคำสั่งศาล แต่ไม่มีรายงานการคืนค่าใช้จ่ายในประเทศไทย
Company Related Links :
Symantec
McAfee