F5 เน็ตเวิร์กส์แต่งตั้งวินท์คอม เป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในไทย หวังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมอุตสาหกรรมโดยมุ่งไปที่แมนูแฟกเจอริงและภาครัฐ ขณะเดียวกันวินท์คอมได้ไลน์สินค้าต่อยอดให้พาร์ตเนอร์ที่เป็นเอสไอ และดันเป้ารายได้ปีนี้ให้ถึง 1 พันล้านบาท
นายวอง ฮวา ชอง รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก F5 เน็ตเวิร์กส์ ผู้พัฒนาเครือข่ายเพื่อการขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน หรือเอดีเอ็น กล่าวว่า บริษัทได้แต่งตั้งวินท์คอม เทคโนโลยี เป็นตัวแทนจำหน่ายหลัก (Value-added Distributor) เพื่อทำตลาดโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนแอปพลิเคชันและข้อมูลบนระบบเครือข่ายในประเทศไทย
การแต่งตั้งครั้งนี้นับเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านพันธมิตรช่องทางจำหน่ายให้แก่ F5 ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยขยายศักยภาพของ F5 ในการรองรับลูกค้าภาคอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น ภาคโทรคมนาคม และภาคการเงินได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการขยายตลาดสู่ภาครัฐและภาคการผลิตหรือแมนูแฟกเจอริ่งด้วย
เหตุผลที่เลือกวินท์คอมเป็นคู่ค้าครั้งนี้ เพราะวินท์คอมเป็นผู้ให้บริการไอทีมืออาชีพ และเป็นตัวแทนจำหน่ายรายหลักสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับเอ็นเตอร์ไพรส์มาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งปัจจุบันกิจกรรมเกี่ยวกับการรวมระบบงานในดาต้าเซ็นเตอร์ และการโยกย้ายการจัดเก็บข้อมูลกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ F5 มั่นใจว่าวินท์คอมมีความเชี่ยวชาญอย่างมากในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์
นอกจากนี้ วินท์คอม ยังมีเครือข่ายพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม ช่วยให้ F5 สามารถขยายตลาดโดยเสนอโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนแอปพลิเคชันบนระบบเครือข่ายได้ครอบคลุมตลาดประเทศไทย
สำหรับวินท์คอมเริ่มก่อตั้งในปี 2544 ด้วยการร่วมลงทุนระหว่างผู้ค้าไอทีรายใหญ่คือ บริษัท เดอะแวลูซิสเต็มส์ และบริษัท วี เน็ท แคปปิตอล ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท เริ่มต้นโดยการเป็นผู้วางระบบไอที และเป็นคู่ค้าหลักกับบริษัท ซัน ไมโครซิสเต็มส์ ต่อมาได้ขยายแนวสินค้าไปยังกลุ่มเน็ตเวิร์ก โดยได้นำผลิตภัณฑ์ระดับโลกเข้ามาจำหน่าย เช่น Adtarn, MRV, 3Com, Wildpackets, Symantec, Riverbed
“ในช่วงเวลาที่ทุกบริษัทต่างต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายอย่างเข้มงวด สำหรับธุรกิจแล้วสิ่งที่สำคัญที่ต้องทำเป็นอันดับแรกๆ คือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ได้มากยิ่งขึ้น การลดค่าใช้จ่ายลง พร้อมทั้งสามารถนำเสนอบริการที่สร้างรายได้ดีออกสู่ตลาดให้ได้เร็ว”
จากมุมมองของผู้บริหาร F5 จึงได้มีการนำโซลูชันใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเพิ่มเติม โยกย้าย ขยับขยายหรือปรับลดทรัพยากรที่ใช้สำหรับให้บริการข้อมูลและแอปพลิเคชันแก่ผู้ใช้ในองค์กรได้ในทันทีที่ต้องการในลักษณะออนดีมานด์ ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ตาม
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ F5 นำออกสู่ตลาดครั้งนี้คือ เว็บแอปพลิเคชันไฟร์วอลล์ BIG-IP Application Security Manager (ASM) หรือบิ๊ก-ไอพี เอเอสเอ็ม เวอร์ชัน 10 โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือองค์กรและผู้ให้บริการที่ต้องการให้โครงสร้างระบบผสานการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และสามารถปรับใช้งานด้านแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
บิ๊ก-ไอพี เอเอสเอ็ม เวอร์ชันใหม่นี้ จะช่วยยกระดับการป้องกันการจู่โจมได้อย่างมีประสิทธิผล ลดการคุกคาม และทำให้มองเห็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่ โดยมีจำหน่ายทั้งในรูปของอุปกรณ์เดี่ยวแบบสแตนด์อะโลน หรือเป็นซอฟต์แวร์โมดูลบนผลิตภัณฑ์
ด้านนางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ วินท์คอม เทคโนโลยี กล่าวว่า การให้บริการของวินท์คอมไม่ใช่แค่บล็อกที่ซื้อมาขายไป แต่ให้บริการแบบโซลูชัน และวางตำแหน่งตัวเองชัดเจนคือเป็นดิสทริบิวเตอร์ชัดเจน ไม่ใช่ซิสเต็ม อินติเกรเตอร์ หรือเอสไอ เพราะพันธมิตรที่เป็นเอสไอมีอยู่หลายรายแล้ว และการที่ได้เป็นคู่ค้ากับ F5 ก็เป็นการเพิ่มไลน์สินค้าและขยายตลาดให้กับ F5 ขณะเดียวกันก็เป็นการต่อยอดให้แก่เอสไอที่เป็นพาร์ตเนอร์ด้วย
จากการเป็นดิสทริบิวเตอร์ให้แก่ F5 คาดว่าจะเป็นส่วนผลักดันรายได้ของวินท์คอมให้ถึงเป้าที่วางไว้ 1 พันบาท หรือโตขึ้น 30% ในปีนี้ และจากรายได้ส่วนนี้จะมาจากผลิตภัณฑ์ของ F5 ประมาณ 30%
Company Related Links :
F5