xs
xsm
sm
md
lg

ทำเงินบนโลกไอที (3) : ขายของด้วยเสิร์ชเอนจิ้น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

หากคุณเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเพราะต้องการซื้อสินค้าสักชิ้น คุณสามารถเดินไปที่ชั้นวางของสินค้านั้นได้ด้วยตัวเอง ถ้าไม่ทราบที่ตั้ง คุณก็สามารถถามพนักงานขายได้เลยทันที แต่ถ้าเป็นโลกสรรพสินค้าในจักรวาลออนไลน์ คุณจะไปถามหาสินค้าที่ต้องการได้จากใครถ้าไม่ใช่เสิร์ชเอนจิ้น

ผู้สร้าง"ตลาดดอทคอม" ตลาดขายสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของประเทศไทย บอกเคล็ดลับง่ายๆที่จะเปลี่ยนให้เสิร์ชเอนจิ้นกลายเป็นพนักงานขายของคุณแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เชื่อว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เริ่มคิดจะขายของออนไลน์ ขณะที่คนที่เริ่มไปแล้วก็สามารถตรวจดูได้ว่า เว็บไซต์หน้าร้านของคุณนั้นยังขาดเหลือสิ่งใดไปบ้าง ในการทำให้เสิร์ชเอนจิ้นนำเสนอข้อมูลบนเว็บของคุณได้เต็มที่

เรียกว่า อ่านดีๆ งานนี้มีรวยค่ะ :-D

*******

E-Commerce กับ SEM
(บทความโดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ www.tarad.com)

หากคุณต้องการหาซื้อสินค้าซักชิ้นนึง และอยากหาซื้อสินค้านี้ในช่องทางออนไลน์หรือเว็บไซต์ คุณจะหาสินค้าที่ต้องการได้อย่างไร? ผมว่าคนเกือบ 90% จะบอกว่า ก็ค้นหาข้อมูลสินค้าที่ต้องการในบริการค้นหาข้อมูลออนไลน์ หรือ Search Engine เอาสิ.! แหมเป็นวิธีที่คนเกือบทุกคนทั่วประเทศและทั่วโลก ต่างก็ใช้วิธีนี้กันหมดแหละ ซึ่งผมว่าหลายๆ คนก็คงจะเลือกใช้วิธีนี้เช่นกัน

นั่นคงจะเป็นคำตอบของผู้ที่ซื้อและค้นหาข้อมูล แต่สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ "ผู้ขาย" ของทางอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ ก็คงอยากให้ข้อมูลสินค้าของเว็บไซต์ของคุณ ไปอยู่อันดับต้นๆ ของผลของการค้นหาในระบบ Search Engine ที่คนค้นหา "คำ" (Keyword) ที่เกี่ยวข้อง (Related) กับสินค้าของคุณ แต่การที่จะให้ข้อมูลสินค้าหรือเว็บไซต์ของคุณขึ้นไปอยู่อันดับต้นๆ ของผลของการค้นหาข้อมูลจาก Search Engine ดังๆ อย่าง Google.com หรือ Yahoo.com คงจะไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ และเป็นเรื่องบังเอิญได้บ่อยครั้งหรอกครับ มันมีวิธีการและขั้นตอนการทำให้เว็บไซต์ของคุณ ขึ้นไปเด่นเป็นสง่าอยู่ในอันดับต้นๆ ของการค้นหาได้อย่างไม่ยากเลย

เราเรียกวิธีการทำแบบนี้ว่า การตลาดผ่านการค้นหา (Search Engine Marketing) ซึ่งจะเห็นได้เลยว่า การตลาดวิธีนี้เกี่ยวข้องกับการค้าขายออนไลน์หรือ E-Commerce แทบจะ 100% เลย

จากประสบการณ์ของผม เว็บไซต์ร้านค้าขายของใน TARAD.com ที่ผมให้เปิดให้บริการอยู่ หลายๆ เว็บไซต์ร้านส่วนใหญ่ มียอดขายมากเกิน 50% มาจากคนที่เข้ามาเว็บไซต์ของเค้า ผ่านมาทางการค้นหาข้อมูลจาก Search Engine และบางเว็บไซต์มียอดขายมากกว่า 90% ที่ลูกค้ามักจะเข้ามาซื้อสินค้าของร้านค้าของเค้าผ่านการค้นหาผ่าน Search Engine แต่หลายๆ คนมักจะถามว่า "ทำยังไงเว็บไซต์ของผม ถึงจะไปอยู่อันดับต้นๆ ของการค้นหาได้?" ของแบบนี้คงอาจจะได้มาจากโชคช่วย หรือไม่คุณก็สามารถสร้างโชคให้มันเข้ามาหาคุณได้เช่นกัน

แอบสังเกตพฤติกรรมคนค้นหาสินค้าผ่านเว็บ

ส่วนใหญ่คนที่จะค้นหาสินค้าเกือบ 80% มักจะค้นหาข้อมูลสินค้า จาก Search Engine และส่วนใหญ่จะใช้ ยี่ห้อ, รุ่น, สเป็ก ของสินค้าที่ต้องการหา เป็นคำในการค้นหา เช่น ผมต้องการหาซื้อ รถยนต์ BMW 323i ปี 2000 ผมก็ค้นหาด้วยคำว่า "BMW 323i ปี 2000" ซึ่งจะเห็นว่าจะเป็นการค้นหาด้วย ยี่ห้อ รุ่น ซะส่วนใหญ่

ในบางกรณี จะเริ่มมีการระบุตำแหน่งหรือพื้นที่ที่ต้องการซื้อเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อระบุให้แคบลงมาว่า ต้องการหาข้อมูลสินค้านี้ในพื้นที่ นั้นๆ เช่น ผมต้องการหาซื้อ เฟอร์นิเจอร์ และผมอยู่เชียงใหม่ ผมก็จะค้นหาคำว่า "เฟอร์นิเจอร์ เชียงใหม่" นี้คือพฤติกรรมโดยทั่วไปของคนที่มักจะค้นหาสินค้าทางออนไลน์

เทคนิคง่ายๆ บ้านๆ ที่จะทำให้เว็บไซต์คุณติดในการค้นหา

ทีนี้พอเรารู้แล้วว่าคนส่วนใหญ่มีพฤติกรรมในการค้นหา ข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์อย่างไร เราลองมาดูว่าจะทำยังไงให้เว็บไซต์ของเรา มีโอกาสที่จะไปติดอยู่ในผลลัพธ์การค้นหาของ Search Engine ได้บ้าง

ผมคงไม่ลงรายละเอียดเชิงเทคนิคว่าเราจะทำยังไงให้เว็บเราติดการค้นหาของ Search Engine เพราะมันอาจจะต้องเล่ายาวมากๆ และอาจจะต้องมีขั้นตอนในเชิงเทคนิคมากมายที่คุณจะต้องไปปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณ แต่ผมจะแนะนำเทคนิคง่ายๆ สำหรับท่านที่มีเว็บไซต์ ไว้ขายสินค้าของตัวเอง ว่าจะทำยังไง ถึงทำให้เว็บไซต์ของคุณ ติดอยู่ในผลลัพธ์การค้นหาผ่านระบบ Search Engine ครับ

5 วิธีการง่ายๆ เพิ่มโอกาสเว็บไซต์ติด Search Engine

1.ในหน้าเว็บไซต์ สินค้าของคุณ ควรจะมี ชื่อสินค้า ยี่ห้อ รุ่น อยู่ในหน้าเว็บไซต์ของคุณอย่างชัดเจน และถูกตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งที่คุณจะใส่ได้แก่ ด้านบนสุดของหน้าเว็บไซต์ (Title Page)

2. ในหน้าๆ นั้น ควรจะมี ชื่อสินค้า ยี่ห้อ รุ่น ซ้ำกันหลายๆ ครั้ง เช่น Nokia 5800 ก็ควรมีการเขียนคำๆ นี้ลงไปในหน้าสินค้าของคุณซ้ำกันหลายๆ ครั้ง เพื่อทำให้ระบบ Search Engine เข้าใจว่า หน้านี้น่าจะเกี่ยวข้องกับ Nokia 5800 เพราะหน้านี้มีคำๆ นี้ซ้ำกันหลายๆ ครั้ง (โอกาสที่จะติดอยู่ในอันดับแรกๆ ก็จะเริ่มมีแล้ว)

3. หน้าเว็บไซต์สินค้าของคุณ "ไม่ควรมีข้อมูลสินค้าเพียงไม่กี่ประโยค และก็ราคาเท่านั้น" เพราะจะทำให้ระบบค้นหาข้อมูลหรือ Search Engine คิดว่าข้อมูลของเว็บไซต์ของคุณน้อยเกินไป ซึ่งนั้นหมายถึงโอกาสที่จะไปติดอันดับต้นๆ ก็น้อยตามลงไปด้วย

ในทางที่ถูกต้อง คุณควรจะให้รายละเอียดข้อมูลของสินค้ามากและครบถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการให้ข้อมูลที่มากเพียงพอ เช่น ข้อมูลสเป็กรายละเอียดสินค้าที่ครบถ้วน (ภายในเนื้อหาที่ใส่ลงไป ก็อย่าลืมทรอดแทรก ยี่ห้อ สินค้า และรุ่นลงไปด้วย) นอกจากจะทำให้คนที่เข้าซื้อสินค้าของคุณ อ่านและเข้าใจในตัวสินค้าแล้ว ยังช่วยทำให้เพิ่มโอกาสในการทำให้ Search Engin ค้นหาเว็บไซต์คุณเจอได้เช่นกัน

4. หากคุณต้องการเน้นขายคนในพื้นที่เดียวกับคุณเช่น ขายคนในจังหวัด ภาค หรืออำเภอ การใส่ข้อมูลที่เป็นพื้นที่ลงไปในเว็บไซต์ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เราติดอยู่ในอันดับต้น ๆ หาคนค้นหาผ่าน ชื่อจังหวัดลงไป พร้อมสินค้า

5. พยายามแลกลิงค์ หรือทำลิงค์มาจากเว็บไซต์อื่นๆ เยอะ มาหาที่เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งหามีเยอะ และยิ่งมีลิงค์จากเว็บไซต์ที่เป็นที่รู้จัก และโด่งดัง นั้นหมายถึง เว็บไซต์ของคุณก็จะมีโอกาส ติดใน Search Engine ได้เร็วมากขึ้น หรือจะเข้าไปที่ หรือจะเข้าไปเพิ่มเว็บไซต์ของเราตรงๆ เช่นของ Google.com สามารถเพิ่มเว็บไซต์เข้าไปได้ที่ www.google.com/addurl ได้เลย นี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะทำ Search Engine รู้จักเว็บเราได้เร็วมากขึ้น

ทั้ง 5 วิธีนี้ เป็นขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เองง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคการพัฒนาเว็บไซต์อะไรมากมาย เพียงแต่อาศัยการ เขียนและการวางข้อมูลลงไปในหน้าเว็บไซต์ที่มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ครับ ซึ่งจริงๆ แล้วมันจะมีเทคนิคและวิธีการเชิงลึกมากกว่านี้เยอะ เอาเป็นว่าหากใครสนใจ ลองไปศึกษาเพิ่มเติมได้ฟรีๆ ที่ www.pawoot.com ผมมีบทความสำหรับเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine Marketing ไว้ให้คุณสามารถไปศึกษาต่อเองได้เลย หรือจะลองเข้าไปที่ www.SEM.or.th เว็บไซต์ของชมรม Search Engine Marketing ของไทย ที่มีเว็บบอร์ด และข้อมูลเกี่ยวกับการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Search Engine มากมาย

ต้องบอกว่า ความรู้เหล่านี้เป็นเรื่องที่คนทำเว็บไซต์และคนค้าขายออนไลน์ควรศึกษา และติดตามอยู่ตลอดเวลา เพราะนั้นหมายถึง โอกาสการเพิ่มยอดขาย และเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ได้ง่ายกว่าวิธีอื่นๆ

ยังไงก็ขอให้ลองทำดูนะครับ เพราะมันไม่ยากเลย

Pawoot P.

กำลังโหลดความคิดเห็น