ฟูจิตสึฟุ้งยอดขายครึ่งปีแรก โต 60 % ผลจากการขยันออกสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นเท่าตัว และลงเล่นตลาดผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น มั่นใจปีนี้โต 100 % ดันมาร์เกตแชร์ขยับเป็น 2 % ล่าสุดเปิดตัว ไลฟ์บุ๊ก U2010 โน้ตบุ๊กลูกผสมแท็บเลต โน้ตบุ๊กและพีซีมือถือ เจาะลูกค้านักเดินทาง ตั้งเป้าขาย 2,000 ตัว
นางสาว วรสชา สาระสุรีย์ภรณ์ ผู้จัดการประจำสาขาประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์ พีซี บริษัท ฟูจิตสึ ซิสเต็ม บิสสิเนส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าในครึ่งปีแรก(เม.ย.-ก.ย. 2551) บริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสาเหตุที่ส่งผลให้บริษัทเติบโตเนื่องจากหันมาเพิ่มปริมาณสินค้าใหม่มากขึ้นจากปีที่ผ่านมาครึ่งปีแรกวางจำหน่ายเพียง 5 รุ่นเป็น 10 รุ่นในปีนี้ และหันทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าทั่วไปมากยิ่งขึ้น จากที่ผ่านมาเน้นทำตลาดลูกค้าพรีเมียมเป็นหลัก
ส่วนเป้าหมายยอดขายในปีนี้คาดว่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมา 100 %คิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ซึ่งยอดขายปี 2550 เติบโตจากปีก่อนหน้า 30 % และยังตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดร่วม(มาร์เกตแชร์)เพิ่มขึ้นเป็น 2 % จากปีที่ผ่านมามีมาร์เกตแชร์ 1 %
“ปัจจัยสำคัญมาจากการออกสินค้าคอมพิวเตอร์พกพา (โน้ตบุ๊ก) เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และการขยายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ ส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการเปิดตัวสินค้าเข้าสู่ตลาดแล้วกว่า 10 รุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีการออกสินค้าเข้าสู่ตลาดเพียง 5 รุ่นเท่านั้น ล่าสุด บริษัทได้ทำการเปิดตัว ฟูจิตสึ พีซี ไลฟ์บุ๊ก U2010 คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอเพียง 5.6 นิ้ว โดยบริษัทจะขยายเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียน, นักศึกษา, โรงพยาบาล, โรงเรียน และกลุ่มธุรกิจบริการ”
อย่างไรก็ดีภาวะเศรษฐกิจการเมืองในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/2551 ที่ผ่านมา แต่เป็นผลกระทบเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าไอทียังเป็นที่ต้องการใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดการณ์ตลาดรวมคอมพิวเตอร์จะมีจำนวนอยู่ที่ 1 ล้านเครื่อง
นางสาววรสชา กล่าวต่อว่าฟูจิตสึได้เปิดตัว ไลฟ์บุ๊ก U2010 เป็นคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานแบบทรี-อิน-วัน เป็นการผสมผสานความสามารถทั้งแท็บเลต โน้ตบุ๊ก และพีซีมือถือ (พีดีเอโฟน) เข้าไว้ด้วยกัน และการนำเอาระบบติดตามตำแหน่งผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) มาเสริมเพื่อเป็นจุดเด่นให้กับสินค้า เพื่อเป็นการขยายเข้าสู่กลุ่มลูกค้าที่ชอบการเดินทาง บริษัทจะวางจำหน่ายในราคา 45,900 บาท (รุ่นที่ไม่มีจีพีเอส) และ 49,900 บาท (มีจีพีเอส) โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเมื่อสิ้นปีงบประมาณในเดือนมีนาคม 2552 ไว้ที่ 2,000 เครื่อง
“หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราได้มีการวางจำหน่ายในรุ่นที่ไม่มีจีพีเอสบ้างแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ไลฟ์บุ๊ก U2010 รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นคัลเลอร์ฟูลของเรา มีสีให้เลือก 5 สี มาพร้อมกับกล้องขนาด 1.3 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นตัวต่อยอดของรุ่น U1010 ที่ได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา”
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2551 นี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่เน้นสีสันขนาดหน้าจอ 14 นิ้วเข้าสู่ตลาด ซึ่งจะมีระดับราคาอยู่ที่ 30,000-40,000 บาท ส่วนกระแสคอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊กที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้นั้น ทางบริษัทก็มีแผนที่จะนำเสนอสินค้ากลุ่มนี้เข้าสู่ตลาดเช่นกัน คาดว่าจะได้เห็นในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ในระดับราคา 20,000-25,000 บาท โดยจะชูจุดเด่นในเรื่องของประสิทธิภาพของการใช้งาน และดีไซน์
“จะเห็นได้ว่าเราจะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มไฮเอทเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีศักยภาพในการใช้จ่ายอยู่ ซึ่งระดับราคาสินค้าของบริษัทจะมีความเหมาะสมกับฟีเจอร์ และฟังก์ชันในการใช้งาน ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการจะรู้สึกว่าราคาของเราไม่ได้สูงเกินไป ปัจจุบันกลุ่มสินค้าระดับราคา 50,000 บาทขึ้นไปถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทอยู่ที่กว่า 70-80%”
นางสาววรสชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานเมื่อสิ้นปีงบประมาณเดือนมีนาคม 2552 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 100% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณเดือนมีนาคม 2551 ที่ผ่านมาบริษัทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 30% ทั้งนี้ จากแผนการขยายสินค้า และเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้บริษัทสามารถขยับอันดับส่วนแบ่งการตลาดขึ้นมาอยู่ที่ 2% ของตลาดรวม จากเดิมอยู่ที่ 1%
Company Related Links :
Fujitsu
