อีเอ็มซีเดินหน้าผันตัวสู่ธุรกิจบริการ ประกาศปีนี้ขอบุกตลาดอย่างเต็มตัว ชูความพร้อมทีมงานที่มีประสบการณ์ประสานงานในระดับภูมิภาคร่วม 200 คนพร้อมให้บริการลูกค้า เผยไทยมีโอกาสในการขยายตลาดอีกมากโดยเฉพาะองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ธุรกิจยังคงเดินหน้าบริหารจัดการด้วยไอที ผนวก พ.ร.บ.คอมพ์กำหนดให้ต้องมีการจัดเก็บข้อมูล ส่งผลธุรกิจคอนซัลต์ขยายตัว
อัคคมนฑ์ ศรีริรัญ ผู้จัดการฝ่ายบริการ บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น (ประเทศไทย) กล่าวถึงทิศทางการทำตลาดธุรกิจการให้บริการที่ปรึกษาระบบหรือคอนซัลต์ในประเทศไทยว่ายังมีโอกาสในการขยายตัวได้อีกมาก แม้ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจจะไม่ดีนัก แต่โดยภาพรวมของตลาดแล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอี ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอนเตอร์ไพรส์ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ โดยมองว่าตลาดรวมยังคงขยายตัวได้อีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร ภาคอุตสาหกรรม รีเทล หรือโทรคมนาคม
การที่ธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอนเตอร์ไพรส์ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะความจำเป็นในการขยายธุรกิจที่ต้องเดินหน้าต่อไป ยิ่งในสภาพการแข่งขันในปัจจุบันยิ่งต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยในการอำนวยความสะดวกในการทำตลาด ให้บริการลูกค้าหรือการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเพราะ พ.ร.บ. ที่กำหนดให้ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลด้านคอมพิวเตอร์ 2 ปัจจัยนี้ส่งผลให้ตลาดธุรกิจการให้บริการด้านคอนซัลต์ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหารอีเอ็มซีกล่าวว่า เมื่อยังคงมีการจัดเก็บข้อมูลอีกทั้งปริมาณข้อมูลก็มีมากยิ่งขึ้นทุกวัน ความจำเป็นในการบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นระบบตลอดจนจัดเรียงตามความสำคัญในการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยยกตัวอย่างความสำคัญของข้อมูลในธุรกิจธนาคาร เช่น เช็ค จะมีความสำคัญเมื่อลูกค้านำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ความสำคัญของข้อมูลในช่วงแรกก็จะอยู่ในลำดับแรกที่ 1 และเมื่อภายหลังที่ลูกค้าได้เงินจากธนาคารไปแล้วความสำคัญของข้อมูลก็จะถูกลดระดับลงมา และถูกเก็บไว้ในลำดับท้าย หากจะมีความสำคัญถูกยกระดับมาใช้งานอีกครั้งก็ต่อเมื่อเช็คใบนั้นเปลี่ยนสถานะเป็นเช็คที่เรียกเก็บเงินไม่ได้
ผู้บริหารอีเอ็มซีกล่าวว่า จากการมองแนวโน้มการทำตลาดในอนาคตว่าธุรกิจบริการจะเป็นตัวทำรายได้ให้มากกว่าการทำตลาดฮาร์ดแวร์ อีเอ็มซีมีแนวทางที่จะผันตัวมาเป็น “ไอทีสตรักเจอร์ แมเนจเมนต์” มากกว่าการเป็นผู้ค้าฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว โดยเริ่มเข้าสู่ธุรกิจคอนซัลต์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มาในปีนี้อีเอ็มซีขอประกาศตัวว่ามีความพร้อมอย่างมากในการเปิดตัวในตลาดเซอร์วิสนี้ ทั้งในแง่ทีมงานที่ประจำในประเทศไทยและทีมงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พร้อมดึงมาร่วมทีมได้รวมแล้วเกือบ 200 คน โดยในปัจจุบันได้รับการยอมรับในตลาดมีลูกค้าใช้บริการในประเทศไทยแล้วกว่า 6 ราย และในปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มอีก 3-4 ราย
อีเอ็มซีชี้ประเด็นสำคัญที่องค์กรธุรกิจควรให้ความสำคัญต่อธุรกิจคอนซัลต์โดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกว่า ด้วยประสบการณ์ของอีเอ็มซีจะแยกแยะให้ลูกค้าเห็นถึงความสำคัญของการจัดลำดับข้อมูลว่าข้อมูลประเภทไหนควรจัดลำดับให้อยู่ลำดับแรกสุดและข้อมูลประเภทไหนควรอยู่ในระดับรองลงมา ซึ่งหากองค์กรธุรกิจทำการจัดลำดับข้อมูลเองอาจมองว่าข้อมูลทุกอย่างสำคัญหมดการจัดลำดับอาจไม่เหมาะสมตามความจำเป็นในการใช้งาน
การจัดลำดับข้อมูลที่จำเป็นไว้เป็นระดับแรกสุด ส่วนข้อมูลที่จำเป็นในลำดับรองลงมาไว้ในลำดับต่อๆไปจะส่งผลให้เกิดการประหยัดงบประมาณในการใช้จ่าย ทั้งนี้เพราะข้อมูลในลำดับแรกจะมีการเรียกใช้งานบ่อยย่อมมีการใช้พลังงานมากกว่า ซึ่งเมื่อมีการจัดลำดับความสำคัญได้อย่างดีแล้วจะส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานได้มาก ส่งผลให้ธุรกิจประหยัดการใช้จ่ายได้ในที่สุด โดยที่ผ่านมาอีเอ็มซีมีการเปรียบเทียบการจัดลำดับข้อมูลที่เป็นระบบระเบียบจะส่งให้ธุรกิจลดค่าใช้จ่ายได้ 20% เป็นอย่างต่ำ
ในส่วนกรีนเทคโนโลยีซึ่งเป็นกระแสที่มาแรงในปัจจุบัน ผู้บริหารอีเอ็มซีกล่าวว่า การให้ความสำคัญต่อกรีนเทคโนโลยีไม่ควรมองแต่ความสำคัญของการลดการใช้พลังงานลง และประหยัดค่าใช้จ่ายได้เท่านั้น แต่ควรมองประเด็นสำคัญที่ว่าองค์กรธุรกิจนั้นจะได้ประโยชน์อย่างไรจากการใช้กรีนเทคโนโลยีด้วย
Company Related Links :
EMC
อัคคมนฑ์ ศรีริรัญ ผู้จัดการฝ่ายบริการ บริษัท อีเอ็มซี อินฟอร์เมชั่น (ประเทศไทย) กล่าวถึงทิศทางการทำตลาดธุรกิจการให้บริการที่ปรึกษาระบบหรือคอนซัลต์ในประเทศไทยว่ายังมีโอกาสในการขยายตัวได้อีกมาก แม้ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจจะไม่ดีนัก แต่โดยภาพรวมของตลาดแล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอี ส่วนธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอนเตอร์ไพรส์ไม่น่าจะได้รับผลกระทบ โดยมองว่าตลาดรวมยังคงขยายตัวได้อีก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร ภาคอุตสาหกรรม รีเทล หรือโทรคมนาคม
การที่ธุรกิจขนาดใหญ่หรือเอนเตอร์ไพรส์ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเพราะความจำเป็นในการขยายธุรกิจที่ต้องเดินหน้าต่อไป ยิ่งในสภาพการแข่งขันในปัจจุบันยิ่งต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยในการอำนวยความสะดวกในการทำตลาด ให้บริการลูกค้าหรือการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นเพราะ พ.ร.บ. ที่กำหนดให้ต้องมีการจัดเก็บข้อมูลด้านคอมพิวเตอร์ 2 ปัจจัยนี้ส่งผลให้ตลาดธุรกิจการให้บริการด้านคอนซัลต์ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ผู้บริหารอีเอ็มซีกล่าวว่า เมื่อยังคงมีการจัดเก็บข้อมูลอีกทั้งปริมาณข้อมูลก็มีมากยิ่งขึ้นทุกวัน ความจำเป็นในการบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้ให้เป็นระบบตลอดจนจัดเรียงตามความสำคัญในการใช้งานจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยยกตัวอย่างความสำคัญของข้อมูลในธุรกิจธนาคาร เช่น เช็ค จะมีความสำคัญเมื่อลูกค้านำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ความสำคัญของข้อมูลในช่วงแรกก็จะอยู่ในลำดับแรกที่ 1 และเมื่อภายหลังที่ลูกค้าได้เงินจากธนาคารไปแล้วความสำคัญของข้อมูลก็จะถูกลดระดับลงมา และถูกเก็บไว้ในลำดับท้าย หากจะมีความสำคัญถูกยกระดับมาใช้งานอีกครั้งก็ต่อเมื่อเช็คใบนั้นเปลี่ยนสถานะเป็นเช็คที่เรียกเก็บเงินไม่ได้
ผู้บริหารอีเอ็มซีกล่าวว่า จากการมองแนวโน้มการทำตลาดในอนาคตว่าธุรกิจบริการจะเป็นตัวทำรายได้ให้มากกว่าการทำตลาดฮาร์ดแวร์ อีเอ็มซีมีแนวทางที่จะผันตัวมาเป็น “ไอทีสตรักเจอร์ แมเนจเมนต์” มากกว่าการเป็นผู้ค้าฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว โดยเริ่มเข้าสู่ธุรกิจคอนซัลต์ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา มาในปีนี้อีเอ็มซีขอประกาศตัวว่ามีความพร้อมอย่างมากในการเปิดตัวในตลาดเซอร์วิสนี้ ทั้งในแง่ทีมงานที่ประจำในประเทศไทยและทีมงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พร้อมดึงมาร่วมทีมได้รวมแล้วเกือบ 200 คน โดยในปัจจุบันได้รับการยอมรับในตลาดมีลูกค้าใช้บริการในประเทศไทยแล้วกว่า 6 ราย และในปีนี้คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มอีก 3-4 ราย
อีเอ็มซีชี้ประเด็นสำคัญที่องค์กรธุรกิจควรให้ความสำคัญต่อธุรกิจคอนซัลต์โดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกว่า ด้วยประสบการณ์ของอีเอ็มซีจะแยกแยะให้ลูกค้าเห็นถึงความสำคัญของการจัดลำดับข้อมูลว่าข้อมูลประเภทไหนควรจัดลำดับให้อยู่ลำดับแรกสุดและข้อมูลประเภทไหนควรอยู่ในระดับรองลงมา ซึ่งหากองค์กรธุรกิจทำการจัดลำดับข้อมูลเองอาจมองว่าข้อมูลทุกอย่างสำคัญหมดการจัดลำดับอาจไม่เหมาะสมตามความจำเป็นในการใช้งาน
การจัดลำดับข้อมูลที่จำเป็นไว้เป็นระดับแรกสุด ส่วนข้อมูลที่จำเป็นในลำดับรองลงมาไว้ในลำดับต่อๆไปจะส่งผลให้เกิดการประหยัดงบประมาณในการใช้จ่าย ทั้งนี้เพราะข้อมูลในลำดับแรกจะมีการเรียกใช้งานบ่อยย่อมมีการใช้พลังงานมากกว่า ซึ่งเมื่อมีการจัดลำดับความสำคัญได้อย่างดีแล้วจะส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานได้มาก ส่งผลให้ธุรกิจประหยัดการใช้จ่ายได้ในที่สุด โดยที่ผ่านมาอีเอ็มซีมีการเปรียบเทียบการจัดลำดับข้อมูลที่เป็นระบบระเบียบจะส่งให้ธุรกิจลดค่าใช้จ่ายได้ 20% เป็นอย่างต่ำ
ในส่วนกรีนเทคโนโลยีซึ่งเป็นกระแสที่มาแรงในปัจจุบัน ผู้บริหารอีเอ็มซีกล่าวว่า การให้ความสำคัญต่อกรีนเทคโนโลยีไม่ควรมองแต่ความสำคัญของการลดการใช้พลังงานลง และประหยัดค่าใช้จ่ายได้เท่านั้น แต่ควรมองประเด็นสำคัญที่ว่าองค์กรธุรกิจนั้นจะได้ประโยชน์อย่างไรจากการใช้กรีนเทคโนโลยีด้วย
Company Related Links :
EMC
