สหภาพ กสท เข้าพบรมว.ไอซีที คัดค้านข้อเสนอบอร์ดกสท ยื่นซื้อไทยโมบาย หวั่นส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเงิน อีกทั้งพนักงานส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ชี้กสท.ควรเดินหน้าทำซีดีเอ็มเอให้ดีที่สุด ขอให้ช่วยกระทุ้งบอร์ดเร่งยื่นขอไลเซนส์ นำเข้าอุปกรณ์อัปเกรด 3 จี เกรงเอไอเอสหนีห่าง
นายสมบูรณ์ ทรัพย์สาร ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม เปิดเผยว่า หลังสหภาพได้เข้าพบนายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารหรือไอซีที ได้ยื่นหนังสือต่อรมว.ไอซีทีเพื่อคัดค้านมติคณะกรรมการ(บอร์ด) กสท ที่มีมิติให้ซื้อคืนหุ้นในกิจการร่วมค้าไทยโมบายของบริษัท ทีโอที จำนวน 58% ด้วยมูลค่า 3,300 ล้านบาท ผ่อนจ่าย 5 ปี พร้อมรับภาระหนี้สินประมาณ 6,600 ล้านบาท เนื่องจาก กสท ไม่มีงบประมาณมากพอที่จะไปซื้อหุ้นและรับภาระหนี้สินดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการตัดสินใจของบอร์ดเพียงฝ่ายเดียว โดยที่ไม่ได้สอบถามหรือรับฟังความคิดเห็นของพนักงานกสท ซึ่งมติที่ออกมาส่งผลให้พนักงานจำนวนมากมีความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และพนักงานส่วนใหญ่ต่างมีความเห็นว่า กสท ควรจะเปิดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซีดีเอ็มเอ ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่จะไปซื้อกิจการร่วมค้าไทยโมบายเพิ่ม เพราะลำพังเพียงการให้บริการซีดีเอ็มเอเพียงอย่างเดียว กสท ก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จึงมองว่าการซื้อหุ้นจาก ทีโอที จะกลายเป็นภาระที่เพิ่มมากขึ้นให้ กสท มากกว่า และยังส่งผลผลต่อสถานะการเงินการคลังของบริษัทเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตของ กสท ก็จะประสบปัญหาต้องเข้าโครงการฟื้นฟู และพนักงานจะต้องรับภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานที่ล้มเหลวของโทรศัพท์เคลื่อนที่ไทยโมบาย ดังนั้นจึงควรจะขายหุ้นคืนให้แก่ ทีโอที จะดีกว่า
พร้อมกันนี้ สหภาพ กสท ยังขอให้รมว.ไอซีที เร่งรัดบอร์ด กสท ส่งเรื่องขออนุญาตปรับปรุงโครงข่าย และนำเข้าอุปกรณ์เอชเอสพีเอ เพื่อให้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค และบริษัท ทรูมูฟ นำไปติดตั้งเพื่อให้บริการ 3 จี ภายใต้คลื่นความถี่เก่าโดยเร็ว เพราะขณะนี้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส ซึ่งเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับ ทีโอที ได้เปิดให้บริการล้ำหน้าไปนานแล้ว หากยังล่าช้ากว่านี้ก็เกรงว่าทั้ง 2 บริษัท จะสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ขณะเดียวกันก็เห็นว่าการที่บอร์ดไม่นำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาถึงแม้จะมีการประชุมหลายครั้งอาจจะมีประเด็นอื่นที่น่าสงสัย จึงต้องการให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย
ขณะเดียวกันก็ยังขอให้ระงับการปรับโครงสร้างใหม่ของ กสท เพราะเห็นว่าการปรับโครงสร้างดังกล่าวไม่มีความชัดเจนว่าจะเกิดประโยชน์กับ กสท แต่กลับเพิ่มค่าใช้จ่ายในเรื่องการบริหารบุคคลมากขึ้น จากเดิมที่มีตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ 8 คน ก็เพิ่มเป็น 11 คน โดยเห็นว่าการขยายโครงสร้างตำแหน่ง ก็เพื่อรองรับบุคคลที่ถูกเสนอโดยบอร์ดบางคน ขณะที่ปัญหาการบริหารงานในภูมิภาคกลับไม่ได้รับการแก้ไข มีสายงานบังคับบัญชาที่ซับซ้อนเกิดความล่าช้า และที่สำคัญโครงสร้างที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน พึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนปีที่แล้วจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนใหม่แต่อย่างใด
Company Related Links :
Cattelecom