เอไอเอส-ดีแทค ยอมความ ข้อพิพาทดีพีซี โดยเอไอเอสยอมจ่ายเงินก้อนทันที 3,000 ล้านบาท พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม แลกกับการให้ดีแทคเพิกถอนข้อเรียกร้องในศาลทั้งหมด สาเหตุเพราะลดปัญหาความยืดเยื้อ
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามในสัญญา ประนีประนอมยอมความกับบริษัท ดิจิตอล โฟน หรือ ดีพีซี ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอสแล้ว เพื่อยุติข้อพิพาททั้งปวงระหว่างกัน โดยการประนีประนอมยอมความนี้ ดีพีซีตกลงจะชำระเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ ดีแทคทั้งหมดทันที
“ผมพอใจต่อข้อตกลงดังกล่าว เพราะไม่ต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลซึ่งอาจใช้เวลานาน สำหรับเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท ที่ได้จากดีพีซีครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่นำเงินที่ได้รับไปเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนในระบบโทรศัพท์มือถือ 3จี ต่อไป”
นอกจากนี้ ในสัญญาประนีประนอม ดีพีซีตกลงยกเลิกสัญญา แต่งตั้งตัวแทนเพื่อจัดให้บริการ และปลดภาระผูกพันทั้งหมดของ ดีแทค ซึ่ง บริษัทได้ตกลงจะเพิกถอนข้อเรียกร้อง ที่ยังค้างอยู่ตามคำเสนอข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 36/2546 ตามที่ได้ยื่นไว้ต่อคณะอนุญาโตตุลาการภายใน 3 วันทำการ โดยการตกลงประนีประนอมยอมความดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นภายหลังอนุญาโตตุลาการได้มีคำตัดสินชี้ขาดจากคดีความที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546
อย่างไรก็ดี ดีแทค ได้โอนสิทธิ และหน้าที่การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ PCN 1800 ตามสัญญาสัมปทาน โดยโอนความถี่บางส่วนกลับไปให้บริษัท กสท โทรคมนาคม ผู้ให้สัมปทาน และ กสท ได้แบ่งคลื่นความถี่ให้กับดีพีซี เพื่อให้บริการโทรศัพท์มือถือโดยใช้เครือข่ายของดีแทค ซึ่งในสัญญาระบุว่าดีพีซีจะต้องชำระเงินค่าตอบแทนในการโอนสิทธิและหน้าที่และค่าใช้เครือข่ายของดีแทคให้เป็นงวด ๆ ทั้งสิ้น 8 งวด
ต่อมาหลังจากที่เอไอเอส เข้ามาถือหุ้นในดีพีซี ก็มีการค้างชำระใน 4 งวดสุดท้าย ประกอบด้วย งวดที่ 5 จำนวน 16.9 ล้านเหรียญสหรัฐ งวดที่ 6 จำนวน 18.5 ล้านเหรียญสหรัฐ งวดที่ 7 จำนวน 40.63 และงวดที่ 8 จำนวน 46.75 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอนุญาโตตุลาการได้มีคำตัดสินชี้ขาดให้ดีพีซีชำระเงินงวดที่ 6, 7 และ 8 ให้แก่ ดีแทค เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา รวมเป็นเงิน 2,650 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 9.5% ต่อปี
ด้านนายปรีย์มน ปิ่นสกุล ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน ดีแทค กล่าวว่า หลังจากที่ ดีแทค นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการว่าจะตกลงประนอมหนี้ และรับเงิน 3,000 ล้านบาท จากดีพีซีเลย บอร์ดก็มีมติอนุมัติ ซึ่งในวันที่ 30 พ.ค. ทางดีพีซีก็เซ็นเช็คจ่ายมาก้อนเดียว 3,000 ล้านบาท โดย ดีแทค ก็บันทึกเป็นเงินสดที่เข้ามาในไตรมาส 2/2551
วัตถุประสงค์ของ ดีแทคและเอไอเอส ตรงกันคือไม่ต้องการให้ เรื่องการฟ้องร้องดังกล่าวยืดเยื้ออยู่ในชั้นศาลนาน อย่างไรก็ตาม หาก ดีแทค ตกลงประนอมหนี้ไม่สำเร็จ แล้วคำตัดสินอขงอนุญาโตฯ ออกมาลักษณะเดิม คือให้ ดีแทค ชนะดคีรวมแล้วจำนวนเงินที่ฟ้องร้อง 3 ก้อน ดีแทค ก็น่าจะได้เงินจำนวนรวม 3,136 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยปีละ 9.5%
Company Related Links :
AIS
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามในสัญญา ประนีประนอมยอมความกับบริษัท ดิจิตอล โฟน หรือ ดีพีซี ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอสแล้ว เพื่อยุติข้อพิพาททั้งปวงระหว่างกัน โดยการประนีประนอมยอมความนี้ ดีพีซีตกลงจะชำระเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท และภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ ดีแทคทั้งหมดทันที
“ผมพอใจต่อข้อตกลงดังกล่าว เพราะไม่ต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลซึ่งอาจใช้เวลานาน สำหรับเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท ที่ได้จากดีพีซีครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่นำเงินที่ได้รับไปเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนในระบบโทรศัพท์มือถือ 3จี ต่อไป”
นอกจากนี้ ในสัญญาประนีประนอม ดีพีซีตกลงยกเลิกสัญญา แต่งตั้งตัวแทนเพื่อจัดให้บริการ และปลดภาระผูกพันทั้งหมดของ ดีแทค ซึ่ง บริษัทได้ตกลงจะเพิกถอนข้อเรียกร้อง ที่ยังค้างอยู่ตามคำเสนอข้อพิพาทหมายเลขดำที่ 36/2546 ตามที่ได้ยื่นไว้ต่อคณะอนุญาโตตุลาการภายใน 3 วันทำการ โดยการตกลงประนีประนอมยอมความดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นภายหลังอนุญาโตตุลาการได้มีคำตัดสินชี้ขาดจากคดีความที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2546
อย่างไรก็ดี ดีแทค ได้โอนสิทธิ และหน้าที่การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ PCN 1800 ตามสัญญาสัมปทาน โดยโอนความถี่บางส่วนกลับไปให้บริษัท กสท โทรคมนาคม ผู้ให้สัมปทาน และ กสท ได้แบ่งคลื่นความถี่ให้กับดีพีซี เพื่อให้บริการโทรศัพท์มือถือโดยใช้เครือข่ายของดีแทค ซึ่งในสัญญาระบุว่าดีพีซีจะต้องชำระเงินค่าตอบแทนในการโอนสิทธิและหน้าที่และค่าใช้เครือข่ายของดีแทคให้เป็นงวด ๆ ทั้งสิ้น 8 งวด
ต่อมาหลังจากที่เอไอเอส เข้ามาถือหุ้นในดีพีซี ก็มีการค้างชำระใน 4 งวดสุดท้าย ประกอบด้วย งวดที่ 5 จำนวน 16.9 ล้านเหรียญสหรัฐ งวดที่ 6 จำนวน 18.5 ล้านเหรียญสหรัฐ งวดที่ 7 จำนวน 40.63 และงวดที่ 8 จำนวน 46.75 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอนุญาโตตุลาการได้มีคำตัดสินชี้ขาดให้ดีพีซีชำระเงินงวดที่ 6, 7 และ 8 ให้แก่ ดีแทค เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมา รวมเป็นเงิน 2,650 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 9.5% ต่อปี
ด้านนายปรีย์มน ปิ่นสกุล ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน ดีแทค กล่าวว่า หลังจากที่ ดีแทค นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการว่าจะตกลงประนอมหนี้ และรับเงิน 3,000 ล้านบาท จากดีพีซีเลย บอร์ดก็มีมติอนุมัติ ซึ่งในวันที่ 30 พ.ค. ทางดีพีซีก็เซ็นเช็คจ่ายมาก้อนเดียว 3,000 ล้านบาท โดย ดีแทค ก็บันทึกเป็นเงินสดที่เข้ามาในไตรมาส 2/2551
วัตถุประสงค์ของ ดีแทคและเอไอเอส ตรงกันคือไม่ต้องการให้ เรื่องการฟ้องร้องดังกล่าวยืดเยื้ออยู่ในชั้นศาลนาน อย่างไรก็ตาม หาก ดีแทค ตกลงประนอมหนี้ไม่สำเร็จ แล้วคำตัดสินอขงอนุญาโตฯ ออกมาลักษณะเดิม คือให้ ดีแทค ชนะดคีรวมแล้วจำนวนเงินที่ฟ้องร้อง 3 ก้อน ดีแทค ก็น่าจะได้เงินจำนวนรวม 3,136 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยปีละ 9.5%
Company Related Links :
AIS