ซัมซุงเปิดยุทธศาสตร์ทำตลาดเชิงลึก ส่งมือถือลงตลาดปีนี้ 40 รุ่น ปรับกลุ่มผลิตภัณฑ์สู่ 6 เซกเมนต์ ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมอัดงบการตลาดกว่า 500 ล้านบาท หวังชิงแชร์จากเฮาส์แบรนด์ มั่นใจอีก 3 ปีอะไรก็เกิดขึ้นได้ โนเกียมีโอกาสตกเก้าอี้แชมป์ หลังเคยประสบผลสำเร็จมาแล้วจากตลาดทีวีที่ทิ้งโซนี่ขึ้นสู่ผู้นำตลาด ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2 ล้านเครื่อง ส่วนแบ่งการตลาด 20%
นายมานพ มณีชวขจร ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ซัมซุงเปิดแผนรุกตลาดเครื่องลูกข่ายมือถือต่อเนื่อง โดยการปรับเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 6 กลุ่ม เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยผลิตภัณฑ์ 40 รุ่นในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วย 1.กลุ่มสไตล์ ที่เน้นความโดดเด่นดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัย 2.มัลติมีเดีย ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันด้านมัลติมีเดียในด้านการถ่ายภาพและฟังก์ชันเพลงเพื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ 3.อินโฟเทนเมนต์ สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อข้อมูลในยุคดิจิตอล พร้อมความสนุกสนานในทุกความบันเทิง 4.ธุรกิจ ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานทางธุรกิจเต็มรูปแบบ 5.คอนเนก สำหรับการใช้งานติดต่อสื่อสารทั่วไปเป็นหลัก 6.เอสเซนเชียล ซึ่งเป็นเครื่องจอสีที่มาพร้อมคุณสมบัติพื้นฐานสำหรับกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้มือถือ
การแบ่งตามเซกเมนต์ดังกล่าวคาดว่าจะเป็นรายได้มากลุ่มมัลติมีเดียและอินโฟเทนเมนต์ประมาณ 70% เพราะจะเข้าไปแข่งกับเครื่องลูกข่ายที่เฮาส์แบรนด์ และเชื่อว่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดมาได้ ส่วนกลุ่มคอนเนกกับเอสเซนเชียลก็มีโอกาสเปิดกว้าง เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้ให้ความสำคัญกับคู่ค้าทุกราย โดยซัมซุงจะให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ คือ 1.การสร้างความใกล้ชิดในการดำเนินธุรกิจกับคู่ค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยในทุกระดับทั่วภูมิภาค 2.กำหนดราคามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลดีกับผู้บริโภคโดยตรง 3.ให้การสนับสนุนคู่ค้าในด้านบริการสต๊อกสินค้า เพื่อกระตุ้นความคล่องตัวในการขาย 4.การจัดกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อสนับสนุนการขาย 5.กระตุ้นการทำตลาดในผลิตภัณฑ์ด้วยกลยุทธ์รุ่นเด่นๆ ในแต่ละเซกเมนต์อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี พร้อมงบการตลาดกว่า 500 ล้านบาท สำหรับการทำกิจกรรมทุกรูปแบบ
“เราจะทำรุกตลาดหนักขึ้น เน้นทุกกิจกรรม และการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเฉพาะรีเทลที่จะมีการปรับปรุงหน้าร้านให้แก่คู่ค้า”
จากยุทธศาสตร์ที่ซัมซุงวางไว้ในปีนี้ คาดว่าจะทำยอดขายได้ถึง 2 ล้านเครื่อง หรือเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่ทำยอดขายได้ 1.1 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 15% ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาด 20% จากตลาดร่วมที่คาดว่าปีนี้จะโตอีก 10% จากยอดขายทั้งหมดของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 8.5 ล้านเครื่อง โดยโนเกียมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในขณะนี้
ส่วนวิสัยทัศน์ระดับโกลบัลเชื่อว่าในปี 2010 หรือประมาณ 3 ปี ซัมซุงจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำตลาดได้ เพราะอย่างรอบปีที่ผ่านมามีอัตราการโตถึง 43% และส่งผลให้ซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกอยู่ในอันดับ 2
“3 ปีเชื่อว่าเราเป็นผู้นำตลาดได้ เพราะขณะนี้เราก็เป็นเบอร์ 2 แล้ว ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความท้าทาย และมีความเป็นไปได้ เหมือนกับการทำตลาดทีวีที่ไม่มีใครเชื่อว่าเราจะชนะโซนี่ได้” นายมนาเทศ อันนทวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจสื่อสารการตลาดและองค์กร ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าวเสริม
Company Related Links :
Samsung
